ASTVผู้จัดการรายวัน-ผู้ผลิตสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม เครื่องหนัง เสนอเพิ่มกิจกรรมดันส่งออกบุกอาเซียน ยุโรปตะวันออก ลาตินอเมริกา ตะวันออกกลาง แก้ปัญหายอดไปยุโรปวูบจากวิกฤตเศรษฐกิจ พร้อมอ้อนรัฐแก้อุปสรรคส่งออก ทั้งปรับโครงสร้างภาษีวัตถุดิบ หนุนออกไปลงทุนต่างประเทศ "นันทวัลย์"เผยคิวต่อไปนัดหารือกลุ่มอาหาร อัญมณีและเครื่องประดับ 7-8 ส.ค.นี้
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะทำงานกลุ่มย่อยเพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรคและผลักดันการส่งออกรายสินค้า (สินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เครื่องหนังและรองเท้า) ว่า ผู้ประกอบการต้องการให้กรมฯ เพิ่มการจัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกในตลาดที่มีศักยภาพ เช่น อาเซียน ยุโรปตะวันออก ลาตินอเมริกา และตะวันออกกลางให้เพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นตลาดที่มีโอกาสในการขยายการส่งออก ทดแทนการส่งออกไปตลาดยุโรปที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจ และควรจัดทำข้อมูลเชิงลึกในประเทศคู่ค้า คู่แข่ง เพื่อให้ทราบว่าโอกาสสินค้าไทยมีมากน้อยแค่ไหน รวมทั้งการผลักดันให้มี "เจโทร โมเดล" ในการขับเคลื่อนผู้ประกอบการไทยออกไปลงทุนในต่างประเทศ
สำหรับการแก้ไขปัญหาด้านการส่งออก กลุ่มสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มต้องการให้มีการปรับโครงสร้างภาษีสินค้าวัตถุดิบด้ายใยสังเคราะห์ให้เหลือ 1% ขอให้รัฐให้ความช่วยเหลือป้องกันการทุ่มตลาดสินค้าผ้าผืนจากจีน ปรับปรุงแก้ไขเรื่องสิทธิประโยชน์จากบีโอไอที่ให้แก่ผู้ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปในการนำเข้าผ้าผืนจากต่างประเทศได้รับการยกเว้น VATมากกว่าการซื้อผ้าผืนในประเทศ และขอให้มีการตั้งโรงงานฟอกย้อมนอกนิคมอุตสาหกรรม หากสามารถจัดการปัญหาเรื่องมลภาวะได้ รวมทั้งขอให้มีการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) เพื่อเปลี่ยนเครื่องจักรและพัฒนาสินค้า
นอกจากนี้ ยังขอให้รัฐบาลสนับสนุนการย้ายฐานการผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไปต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน โดยเน้นประเทศเพื่อนบ้านที่มีค่าแรงงานต่ำ และให้แก้ไขกฎระเบียบบีโอไอ อนุญาตให้โรงงานที่ใช้แรงงานต่างด้าวได้รับสิทธิประโยชน์จากบีโอไอด้วย ขณะที่การไปลงทุนต่างประเทศควรได้รับการยกเว้นภาษีสำหรับเงินได้ที่ได้จากการลงทุนที่ส่งกลับเข้ามาไทย และขอให้สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์พัฒนาผลิตภัณฑ์แฟชั่นไทยที่จะเป็นศูนย์ครบวงจรและต่อยอดไปถึงการทำตลาดส่งออกต่างประเทศ ซึ่งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าไทยสามารถแข่งขันได้ในระยะยาว
ส่วนสินค้าเครื่องหนัง พบว่า ปัจจุบันประสบปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบหนังดิบ ผู้ประกอบการได้เสนอให้ส่งเสริมการเลี้ยงวัว และควายอย่างมีคุณภาพ เพื่อให้ได้หนังคุณภาพสูงตามความต้องการของตลาด และเชิญผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ด้านการออกแบบการพัฒนาผลิตภัณฑ์และวิเคราะห์แฟชั่น มาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงส่งเสริมให้เพิ่มหลักสูตรด้านการสอนผลิตและออกแบบเครื่องหนัง รองเท้าในสถาบันการศึกษาสายวิชาชีพ
นางนันทวัลย์ กล่าวว่า การประชุมครั้งต่อไป จะมีการประชุมกลุ่มย่อยคณะทำงานกลุ่มสินค้าอาหาร ในวันที่ 7 ส.ค.2555 และวันที่ 8 ส.ค.2555 จะเป็นกลุ่มสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ซึ่งหลังจากที่ได้รวบรวมข้อมูลความต้องการของภาคเอกชนที่ต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือเพื่อเพิ่มยอดการส่งออก และปัญหาอุปสรรคการส่งออกต่างๆ ได้แล้ว ก็จะเสนอให้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์พิจารณา โดยมาตรการที่สามารถดำเนินการได้ทันที ก็จะเร่งดำเนินการ แต่หากเกี่ยวข้องกับกระทรวงอื่น ก็จะรายงานให้กับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อสั่งการต่อไป
สำหรับสถานการณ์การส่งออกสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในช่วง 6 เดือนของปี 2555 (ม.ค.-มิ.ย.) มีมูลค่า 3,583 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 15.6% ส่วนสินค้าเครื่องใช้เดินทาง เครื่องหนัง รองเท้า ส่งออกมูลค่า 862 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.9%
/////////
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะทำงานกลุ่มย่อยเพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรคและผลักดันการส่งออกรายสินค้า (สินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เครื่องหนังและรองเท้า) ว่า ผู้ประกอบการต้องการให้กรมฯ เพิ่มการจัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกในตลาดที่มีศักยภาพ เช่น อาเซียน ยุโรปตะวันออก ลาตินอเมริกา และตะวันออกกลางให้เพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นตลาดที่มีโอกาสในการขยายการส่งออก ทดแทนการส่งออกไปตลาดยุโรปที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจ และควรจัดทำข้อมูลเชิงลึกในประเทศคู่ค้า คู่แข่ง เพื่อให้ทราบว่าโอกาสสินค้าไทยมีมากน้อยแค่ไหน รวมทั้งการผลักดันให้มี "เจโทร โมเดล" ในการขับเคลื่อนผู้ประกอบการไทยออกไปลงทุนในต่างประเทศ
สำหรับการแก้ไขปัญหาด้านการส่งออก กลุ่มสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มต้องการให้มีการปรับโครงสร้างภาษีสินค้าวัตถุดิบด้ายใยสังเคราะห์ให้เหลือ 1% ขอให้รัฐให้ความช่วยเหลือป้องกันการทุ่มตลาดสินค้าผ้าผืนจากจีน ปรับปรุงแก้ไขเรื่องสิทธิประโยชน์จากบีโอไอที่ให้แก่ผู้ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปในการนำเข้าผ้าผืนจากต่างประเทศได้รับการยกเว้น VATมากกว่าการซื้อผ้าผืนในประเทศ และขอให้มีการตั้งโรงงานฟอกย้อมนอกนิคมอุตสาหกรรม หากสามารถจัดการปัญหาเรื่องมลภาวะได้ รวมทั้งขอให้มีการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) เพื่อเปลี่ยนเครื่องจักรและพัฒนาสินค้า
นอกจากนี้ ยังขอให้รัฐบาลสนับสนุนการย้ายฐานการผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไปต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน โดยเน้นประเทศเพื่อนบ้านที่มีค่าแรงงานต่ำ และให้แก้ไขกฎระเบียบบีโอไอ อนุญาตให้โรงงานที่ใช้แรงงานต่างด้าวได้รับสิทธิประโยชน์จากบีโอไอด้วย ขณะที่การไปลงทุนต่างประเทศควรได้รับการยกเว้นภาษีสำหรับเงินได้ที่ได้จากการลงทุนที่ส่งกลับเข้ามาไทย และขอให้สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์พัฒนาผลิตภัณฑ์แฟชั่นไทยที่จะเป็นศูนย์ครบวงจรและต่อยอดไปถึงการทำตลาดส่งออกต่างประเทศ ซึ่งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าไทยสามารถแข่งขันได้ในระยะยาว
ส่วนสินค้าเครื่องหนัง พบว่า ปัจจุบันประสบปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบหนังดิบ ผู้ประกอบการได้เสนอให้ส่งเสริมการเลี้ยงวัว และควายอย่างมีคุณภาพ เพื่อให้ได้หนังคุณภาพสูงตามความต้องการของตลาด และเชิญผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ด้านการออกแบบการพัฒนาผลิตภัณฑ์และวิเคราะห์แฟชั่น มาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงส่งเสริมให้เพิ่มหลักสูตรด้านการสอนผลิตและออกแบบเครื่องหนัง รองเท้าในสถาบันการศึกษาสายวิชาชีพ
นางนันทวัลย์ กล่าวว่า การประชุมครั้งต่อไป จะมีการประชุมกลุ่มย่อยคณะทำงานกลุ่มสินค้าอาหาร ในวันที่ 7 ส.ค.2555 และวันที่ 8 ส.ค.2555 จะเป็นกลุ่มสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ซึ่งหลังจากที่ได้รวบรวมข้อมูลความต้องการของภาคเอกชนที่ต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือเพื่อเพิ่มยอดการส่งออก และปัญหาอุปสรรคการส่งออกต่างๆ ได้แล้ว ก็จะเสนอให้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์พิจารณา โดยมาตรการที่สามารถดำเนินการได้ทันที ก็จะเร่งดำเนินการ แต่หากเกี่ยวข้องกับกระทรวงอื่น ก็จะรายงานให้กับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อสั่งการต่อไป
สำหรับสถานการณ์การส่งออกสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในช่วง 6 เดือนของปี 2555 (ม.ค.-มิ.ย.) มีมูลค่า 3,583 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 15.6% ส่วนสินค้าเครื่องใช้เดินทาง เครื่องหนัง รองเท้า ส่งออกมูลค่า 862 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.9%
/////////