ASTVผู้จัดการรายวัน - "สุรชัย" ส.ว.สรรหา คว้าตำแหน่งรอง ปธ.วุฒิสภา คนที่ 1 เฉือน"สุรเดช" ส.ว.เลือกตั้ง ด้วยคะแนน 73-69 ประกาศ จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ยึดความถูกต้อง เป็นธรรม และประโยชน์สุขของคนในชาติ และพร้อมจะสละตำแหน่ง หากส.ว.เลือกตั้งชุดใหม่เข้ามา เพื่อให้มีการเลือกประธาน รองประธานวุฒิสภาใหม่ทั้งหมด
เมื่อเวลา 10.45 น. วานนี้ (20 ส.ค.) มีการประชุมวุฒิสภา มีนางพรทิพย์ โล่ห์วีระ จันทร์รัตนปรีดา รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 ทำหน้าที่เป็นประธานที่ประชุมชั่วคราว เพื่อเข้าสู่วาระเร่งด่วน คือการคัดเลือก รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ตามข้อ 8 ข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา ในการเลือกรองประธานวุฒิสภาแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ นางพรทิพย์ ได้ชี้แจงถึงรายละเอียดขั้นตอนตั้งแต่การเสนอชื่อบุคคล การแสดงวิสัยทัศน์ และการลงคะแนนโดยลับ ก่อนหย่อนบัตรลงคูหา โดยถ้ามีการเสนอชื่อมากกว่า 2 ชื่อ ให้ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุด และมีคะแนนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง ของจำนวนสมาชิกที่มาประชุม เป็นผู้ได้รับเลือก แต่ถ้าผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุด แต่ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ให้ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุดลำดับที่ 1 และ 2 ลงชิงกันอีกครั้ง
สำหรับการเลือกรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ครั้งนี้ การเสนอชื่อบุคคลรวม 7 คน เป็นส.ว.สายเลือกตั้ง 3 คนคือ นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี นายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ ส.ว.ปราจีนบุรี และ นายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร ส่วนส.ว.สรรหา มี 4 คนคือ นายสมัคร เชาวภานันท์ มล.ปรียาพรรณ ศรีธวัช นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย และ นายบุญชัย โชควัฒนา
จากนั้นเป็นขั้นตอนให้ผู้ได้รับการเสนอชื่อ แสดงวิสัยทัศน์คนละ 10 นาที ก่อนที่จะมีการลงคะแนน โดยมี ส.ว.ลงชื่อเข้าประชุม 144 คน จากจำนวนส.ว.ที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ทั้งหมด 146 คน ซึ่ง นายมณเทียร บุญตัน และ นายสุเมธ ศรีพงษ์ ส.ว.สรรหา ไม่มาเข้าร่วมประชุม
ผลการลงคะแนนรอบแรก ปรากฏว่า นายสุรชัยได้ 35 คะแนน นายสุรเดชได้ 33 คะแนน นายดิเรกได้ 20 คะแนน นายสมัครได้ 18 คะแนน นายกฤช และ นายบุญชัยได้คนละ 16 คะแนน มล.ปรียพรรณได้ 4 คะแนน และงดออกเสียง 2 เสียง ทำให้ต้องมีการลงคะแนนรอบที่ 2 เป็นการชิงกันระหว่าง นายสุรชัย และ นายสุรเดช เพื่อที่จะต้องมีคนใดคนหนึ่งได้รับคะแนนเกินกึ่งหนึ่ง คือ 72 คะแนน
ผลการนับคะแนนรอบที่สองปรากฏว่า นายสุรชัย ได้รับตำแหน่งรองประธานคนที่ 1 ไปด้วยคะแนน 73 คะแนน ส่วนนายสุรเดช ได้ 69 คะแนน
นายสุรชัย กล่าวหลังจากได้รับเลือกเป็นรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ว่า จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด โดยยึดถือความถูกต้อง ความเป็นธรรม และประโยชน์สุขของคนในชาติ และไม่ว่าตนจะอยู่ในฐานะใดก็ตาม ตนก็คือนายสุรชัย คนเดิมที่พร้อมจะรับใช้ทุกคน
สำหรับในช่วงการแสดงวิสัยทัศน์ ก่อนให้สมาชิกเลือกนั้น นายสุรชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ทำงานตรวจสอบรัฐบาลอย่างเต็มที่ เพื่อรักษาผลประโยชน์ส่วนใหญ่ของประชาชน
ทั้งนี้วุฒิสภามีอีกหลายอย่างต้องปรับปรุงแก้ไข โดยเฉพาะการกลั่นกรองกฎหมาย ซึ่งจะพยายามผลักดันระบบฐานข้อมูลการพิจารณากฎหมายเพื่อให้ส.ว. สามารถนำมาพิจารณาได้อย่างกระชับ และเข้าใจง่าย เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับสาระสำคัญของร่างกฎหมาย และประเด็นข้อถกเถียงในชั้นการพิจารณาสภาผู้แทนราษฎร
นายสุรชัย กล่าวด้วยว่า ถ้าได้มีโอกาสทำงานในตำแหน่งรองประธานวุฒิสภาคนที่1 ซึ่งจะต้องเป็นประธานวิปวุฒิสภาด้วยนั้น ก็มีความมั่นใจว่า จะสามารถประสานงานและสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง วิปวุฒิสภาและส.ว. ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะการรับฟังข้อมูลข่าวสาร และความคิดเห็นของส.ว. เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการนำมติวิปวุฒิสภา มาอ้างในที่ประชุมวุฒิสภา จนนำไปสู่ความรู้สึกไม่ยอมรับจากส.ว. ด้วยกันเอง
"หากได้ทำงานร่วมกับประธานวุฒิสภา มั่นใจว่า จะสามารถรักษาความเป็นกลาง ไม่ให้อำนาจภายนอกมาแทรกแซงเพื่อให้วุฒิสภาได้รับการยอมรับ และเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง ที่สำคัญถ้าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ที่กำลังจะมีการเลือก ส.ว.ชุดใหม่ ก็คิดว่าสมควรให้วุฒิสภา ดำเนินการเลือกตั้งประธานวุฒิสภา รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 และรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 ใหม่ ทั้งหมด" นายสุรชัย กล่าว.
เมื่อเวลา 10.45 น. วานนี้ (20 ส.ค.) มีการประชุมวุฒิสภา มีนางพรทิพย์ โล่ห์วีระ จันทร์รัตนปรีดา รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 ทำหน้าที่เป็นประธานที่ประชุมชั่วคราว เพื่อเข้าสู่วาระเร่งด่วน คือการคัดเลือก รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ตามข้อ 8 ข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา ในการเลือกรองประธานวุฒิสภาแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ นางพรทิพย์ ได้ชี้แจงถึงรายละเอียดขั้นตอนตั้งแต่การเสนอชื่อบุคคล การแสดงวิสัยทัศน์ และการลงคะแนนโดยลับ ก่อนหย่อนบัตรลงคูหา โดยถ้ามีการเสนอชื่อมากกว่า 2 ชื่อ ให้ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุด และมีคะแนนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง ของจำนวนสมาชิกที่มาประชุม เป็นผู้ได้รับเลือก แต่ถ้าผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุด แต่ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ให้ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุดลำดับที่ 1 และ 2 ลงชิงกันอีกครั้ง
สำหรับการเลือกรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ครั้งนี้ การเสนอชื่อบุคคลรวม 7 คน เป็นส.ว.สายเลือกตั้ง 3 คนคือ นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี นายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ ส.ว.ปราจีนบุรี และ นายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร ส่วนส.ว.สรรหา มี 4 คนคือ นายสมัคร เชาวภานันท์ มล.ปรียาพรรณ ศรีธวัช นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย และ นายบุญชัย โชควัฒนา
จากนั้นเป็นขั้นตอนให้ผู้ได้รับการเสนอชื่อ แสดงวิสัยทัศน์คนละ 10 นาที ก่อนที่จะมีการลงคะแนน โดยมี ส.ว.ลงชื่อเข้าประชุม 144 คน จากจำนวนส.ว.ที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ทั้งหมด 146 คน ซึ่ง นายมณเทียร บุญตัน และ นายสุเมธ ศรีพงษ์ ส.ว.สรรหา ไม่มาเข้าร่วมประชุม
ผลการลงคะแนนรอบแรก ปรากฏว่า นายสุรชัยได้ 35 คะแนน นายสุรเดชได้ 33 คะแนน นายดิเรกได้ 20 คะแนน นายสมัครได้ 18 คะแนน นายกฤช และ นายบุญชัยได้คนละ 16 คะแนน มล.ปรียพรรณได้ 4 คะแนน และงดออกเสียง 2 เสียง ทำให้ต้องมีการลงคะแนนรอบที่ 2 เป็นการชิงกันระหว่าง นายสุรชัย และ นายสุรเดช เพื่อที่จะต้องมีคนใดคนหนึ่งได้รับคะแนนเกินกึ่งหนึ่ง คือ 72 คะแนน
ผลการนับคะแนนรอบที่สองปรากฏว่า นายสุรชัย ได้รับตำแหน่งรองประธานคนที่ 1 ไปด้วยคะแนน 73 คะแนน ส่วนนายสุรเดช ได้ 69 คะแนน
นายสุรชัย กล่าวหลังจากได้รับเลือกเป็นรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ว่า จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด โดยยึดถือความถูกต้อง ความเป็นธรรม และประโยชน์สุขของคนในชาติ และไม่ว่าตนจะอยู่ในฐานะใดก็ตาม ตนก็คือนายสุรชัย คนเดิมที่พร้อมจะรับใช้ทุกคน
สำหรับในช่วงการแสดงวิสัยทัศน์ ก่อนให้สมาชิกเลือกนั้น นายสุรชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ทำงานตรวจสอบรัฐบาลอย่างเต็มที่ เพื่อรักษาผลประโยชน์ส่วนใหญ่ของประชาชน
ทั้งนี้วุฒิสภามีอีกหลายอย่างต้องปรับปรุงแก้ไข โดยเฉพาะการกลั่นกรองกฎหมาย ซึ่งจะพยายามผลักดันระบบฐานข้อมูลการพิจารณากฎหมายเพื่อให้ส.ว. สามารถนำมาพิจารณาได้อย่างกระชับ และเข้าใจง่าย เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับสาระสำคัญของร่างกฎหมาย และประเด็นข้อถกเถียงในชั้นการพิจารณาสภาผู้แทนราษฎร
นายสุรชัย กล่าวด้วยว่า ถ้าได้มีโอกาสทำงานในตำแหน่งรองประธานวุฒิสภาคนที่1 ซึ่งจะต้องเป็นประธานวิปวุฒิสภาด้วยนั้น ก็มีความมั่นใจว่า จะสามารถประสานงานและสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง วิปวุฒิสภาและส.ว. ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะการรับฟังข้อมูลข่าวสาร และความคิดเห็นของส.ว. เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการนำมติวิปวุฒิสภา มาอ้างในที่ประชุมวุฒิสภา จนนำไปสู่ความรู้สึกไม่ยอมรับจากส.ว. ด้วยกันเอง
"หากได้ทำงานร่วมกับประธานวุฒิสภา มั่นใจว่า จะสามารถรักษาความเป็นกลาง ไม่ให้อำนาจภายนอกมาแทรกแซงเพื่อให้วุฒิสภาได้รับการยอมรับ และเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง ที่สำคัญถ้าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ที่กำลังจะมีการเลือก ส.ว.ชุดใหม่ ก็คิดว่าสมควรให้วุฒิสภา ดำเนินการเลือกตั้งประธานวุฒิสภา รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 และรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 ใหม่ ทั้งหมด" นายสุรชัย กล่าว.
