xs
xsm
sm
md
lg

รวบแล้ว2โจรปล้นทอง คุมตัวทำแผน-พบประวัติโชกโชน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นครปฐม - ตำรวจภาค 7 คุม 2 ผู้ต้องหาขับรถ จยย.4 สุบบุกปล้นร้านทองทับสะแก ประจวบคีรีขันธ์ แถลงข่าวหลังก่อเหตุแล้วหลบหนีกบดานยาวกว่า 2 เดือนก่อนถูกจับกุมได้ที่ชลบุรี ขณะที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การรับสารภาพเป็นผู้ก่อเหตุปล้นร้านทองจริงและเคยก่อเหตุมาแล้วในพื้นที่ อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี ตรวจสอบประวัติพบเคยก่อคดีและติดคุกมาแล้วโชกโชน

ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เวลา 11.30 น.วานนี้ (20 ส.ค.) พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) พร้อมนายตำรวจระดับรอง ผบช.ภาค 7 และ พล.ต.ต.วิเชียร ตันติวิริยะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายสาธิต หรือไม้ พรหมแก้ว อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 ม.1 ต.ท่าหิน อ.สวี จ.ชุมพร และนายอำพล หรืออั๋น นามกร อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76/2 ม.2 ต.ทุ่งระยะ อ.สวี จ.ชุมพร 2 คนร้ายที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ พร้อมอาวุธสงครามบุกปล้นชิงทองร้านทอง ในเขตเทศบาลอำเภอทับสะแก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.55 มาแถลงข่าวหลังจับกุมได้เมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซุปเปอร์โฟร์ ขนาด 400 ซีซี สีแดงดำไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน อาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก หมวกกันน็อก เครื่องเป่าไฟหลอมโลหะ แก๊สกระป๋อง เครื่องชั่่งขนาดเล็ก กระเป๋าเสื้อผ้าสำหรับการหลบหนี

พล.ต.ท.หาญพล เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก[JKPวันที่ 27 มิ.ย.55 เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองและปืนกลเข้าไปก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองงามศิลป์ 2 ในตลาดเทศบาลตำบลทับสะแก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ได้ทองคำรูปพรรณไปกว่า 200 บาท มูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท ภายหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปกบดานทางภาคเหนือ และเอาทองทั้งหมดขึ้นเครื่องบินลงมาจำหน่ายใน กทม. ก่อนไปพักอาศัยอยู่ที่ห้องเช่า ซอยรามคำแหง 53 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม.และเมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าปิดล้อมเพื่อจับกุม แต่คนร้ายไหวตัวทัน ขึ้นรถแท็กซี่หลบหนีไป มีการยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ และหนึ่งในคนร้ายถูกตำรวจยิงเข้าที่ขาได้รับบาดเจ็บ ต่อมาเมื่อวันที่ 19 ส.ค.เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 7 สามารถติดตามจับกุมคนร้ายทั้ง 2 ราย ได้ในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุจริง โดยวางแผนไว้ล่วงหน้าตั้งแต่เส้นทางการหลบหนี การพรางตัว วิธีการที่จะนำทองไปขาย และการติดต่อทางโทรศัพท์ โดยทองทั้งหมดได้นำไปขายใน กทม.ได้เงินสดมาประมาณ 2 ล้านบาท แต่ใช้หนีพนันฟุตบอลไปหมดแล้ว เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืนและใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติ นายสาธิต เคยถูกจับกุมในคดีลักทรัพย์ เมื่อปี พ.ศ.2552 ถูกคุมขังในเรือนจำจังหวัดชุมพร พ้นโทษเมื่อเดือน ต.ค.2554 ส่วนนายอำพล เคยถูกจำคุกในคดีลักทรัพย์ ที่เรือนจำจังหวัดชุมพร เมื่อปี พ.ศ.2551 พ้นโทษเมื่อเดือน ธ.ค.2554 ทั้ง 2 คน รู้จักกันในเรือนจำ ก่อนจะมาก่อเหตุนี้ ได้เคยก่อเหตุปล้นร้านทอง ที่ อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี มาแล้วครั้งหนึ่ง

โดยระหว่างการแถงข่าว นายสาธิต ยังต้องถูกจับให้นั่งบนเก้าอี้เข็นเนื่องจากยังมีบาดแผลจากการยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและหลบหนีไปได้ในครั้งที่เจ้าหน้าที่บุกจับในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งหลังแถลงข่าวเสร็จสิ้นกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังที่เกิดเหตุ จ.ประจวบคีรีขันธ์ทันที
กำลังโหลดความคิดเห็น