ASTVผู้จัดการรายวัน-"พิชาย"ฉะ "คริสตี้" ทูตสหรัฐฯ จ้อปมให้วีซ่า "แม้ว" ไม่ต่างจากนกแก้วที่อยู่เมืองไทย เหน็บใช้กฎหมายตามอำเภอใจ ให้ท้ายนักโทษหนีคดี และปฎิเสธอำนาจศาลประเทศอื่น ด้านวอยซ์ออฟอเมริกาตีข่าว "แม้ว" ถูกต้านหนักหลังทัวร์อเมริกา คนไทยในแอลเอสุดทน โต้ "มติชน-ข่าวสด"สุดมั่ว ใส่สีตีไข่พันธมิตรฯถูกจับ ล่าสุดพบเฟซบุ๊กแดงตัดต่อบิดเบือนภาพไล่แม้วเป็นข้อความหมิ่นเบื้องสูง ขณะที่คนไทยในวอชิงตันดี.ซี.นัดรวมพลไล่ต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (15 ส.ค.) รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กพิชาย ณ ภูเก็ต หัวข้อเรื่อง “ทูตนกแก้วและกฎหมายที่ด้อยพัฒนาของสหรัฐฯ” ดังนี้
1 ฟังทูตสหรัฐฯ (นางคริสตี้ เอ เคนนีย์) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องการให้วีซ่า นช.ทักษิณ ชินวัตร วลีเด็ดของเธอ “เป็นไปตามกฎหมายสหรัฐฯ อย่างเข้มงวด” เธอย้ำวลีนี้หลายครั้ง จนผมคิดว่า นี่คงเป็นนกแก้วอีกตัวหนึ่ง และมีระดับปัญญาไม่ต่างจากนกแก้วตัวแรกที่อยู่ในเมืองไทย
2 คำว่าเป็นไปตามกฎหมายสหรัฐฯ อย่างเข้มงวดหมายความว่าอย่างไร
2.1. เป็นกฎหมายที่สนับสนุนให้ท้ายบุคคลที่เป็นนักโทษของประเทศอื่นใช่หรือไม่
2.2. เป็นกฎหมายที่ปฏิเสธอำนาจของศาลประเทศอื่นใช่หรือไม่
2.3 เป็นกฎหมายที่ยอมรับผู้ต้องหาคดีทุจริตใช่หรือไม่
2.4 เป็นกฎหมายที่อนุญาตให้ผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายของประเทศอื่นเข้าประเทศตนเองอย่างเสรีใช่หรือไม่
2.5 เป็นกฎหมายที่อนุญาตให้ใช้ประเทศสหรัฐเป็นแหล่งมั่วสุมของผู้ต้องหาก่อการร้ายอย่างเสรีใช่หรือไม่
2.6 เป็นกฎหมายที่ให้อำนาจรัฐบาลในการไม่ปฏิบัติตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศใช่หรือไม่
การให้วีซ่า นช.ทักษิณเข้าประเทศเดินไปไหนอย่างเสรี เป็นหลักฐานอย่างปฏิเสธไม่ได้ว่ากฎหมายสหรัฐฯ ไม่ต่างจากกฎหมายของประเทศด้อยพัฒนาอื่นๆ ที่หาความเป็น “กฎ” ไม่ได้เลย เพราะการใช้ขึ้นกับความพอใจและผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจในรัฐบาล ด้วยเหตุนี้จึงเป็นกฎหมายที่ด้อยพัฒนาอย่างแท้จริง ฉะนั้น ต่อจากนี้ จงหยุดยกหางตนเอง และวิจารณ์ประเทศอื่นได้แล้ว ผู้คนทั้งโลกรู้ทันและแอบหัวเราะเยาะสิ่งที่คุณป่าวประกาศอยู่ทุกวัน
**วอยซ์ออฟอเมริกาตีข่าว"แม้ว"ถูกต้าน
อีกด้านหนึ่ง มีรายงานอีกว่า วอยซ์ออฟอเมริกา ได้รายงานข่าวในหัวข้อ "Former Thai Leader's US Visit Renews Calls for Justice” โดยระบุว่า การเยือนสหรัฐฯ ครั้งนี้ ทำให้ฝ่ายต่อต้านของเขา (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) ออกมาเรียกร้องวอชิงตันให้ถอนวีซ่าและส่งตัวอดีตนายกรัฐมนตรีรายนี้ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนกลับสู่ประเทศไทย เพื่อรับโทษจำคุกในฐานความผิดผลประโยชน์ขัดแย้งเมื่อครั้งที่ดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ
วอยซ์ออฟอเมริการะบุว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์ แกนนำฝ่ายค้านได้เรียกร้องให้รัฐบาลไทยกดดันสหรัฐฯ ชาติพันธมิตรผู้ใกล้ชิดของไทย ดำเนินการจับกุมทักษิณและส่งตัวเขากลับประเทศ หลังจากเมื่อวันศุกร์ (10ส.ค.) มีกลุ่มผู้ประท้วงราว 200 คนรวมตัวกันนอกสถานทูตอเมริกาประจำกรุงเทพฯ เพื่อยื่นข้อเรียกร้องแบบเดียวกัน
สื่อชื่อดังแห่งนี้รายงานต่อว่า ผู้ชุมนุมพากันถือป้ายประท้วงที่มีข้อความว่า “อเมริกา ผู้น่าชัง” และ “ไหนล่ะ หลักนิติรัฐ” โดยนายนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันแห่งชาติ บอกว่า อีก 2 สัปดาห์พวกเขาจะกลับมาฟังคำตอบและเรียกร้องเพิ่มเติมให้สหรัฐฯ ถอนวีซ่าทักษิณในทันที
อย่างไรก็ตาม นายวอลเตอร์ บราวโนเลอร์ โฆษกสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงเทพฯ บอกว่า ยินดีต่อสิทธิการประท้วงอย่างสันติของคนไทย แต่ก็อ้างนโยบาย ไม่ขอแสดงความคิดเห็นต่อการออกวีซ่าแก่ทักษิณ
“ผมไม่สามารถพูดถึงกรณีใดกรณีหนึ่งอย่างเฉพาะเจาะจง แต่ผมสามารถบอกได้ว่า การออกวีซ่าของสหรัฐฯ ไม่ได้แสดงนัยถึงจุดยืนใดๆ ของสหรัฐฯ ต่อประเด็นกิจการภายในของไทย”
ส่วนนายเสก วรรณเมธี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของไทย ก็บอกว่า ทางรัฐบาลไม่มีแผนยื่นขอให้สหรัฐฯ ส่งตัวทักษิณกลับไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน เพราะมันเป็นการเดินทางเยือนสหรัฐฯ อย่างลับๆ เราไม่เคยรู้ รัฐบาลไทยไม่เคยได้รับแจ้งหรือรับทราบถึงกำหนดการนี้ และในเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางในต่างแดน รัฐบาลไทยไม่มีนโยบายจำกัดการเดินทางของเขา
วอยซ์ออฟอเมริการายงานด้วยว่า ระหว่างเยือนสหรัฐฯ เป็นเวลา 1 สัปดาห์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทักษิณได้เดินทางไปนิวยอร์ก และแคลิฟอร์เนีย ซึ่งแม้จะได้รับการต้อนรับจากคนเสื้อแดง แต่ก็ถูกต่อต้านจากคนเสื้อเหลือง โดยเฉพาะในลองแองเจลิส ผู้ประท้วงฝ่ายต่อต้านได้ปิดเส้นทางขวางทักษิณจนไม่สามารถเข้าไปปราศรัยกับผู้สนับสนุน แต่วอยซ์ออฟอเมริกามิได้พาดพิงว่ามีเหตุขว้างปาสิ่งของตามที่สื่อไทยบางฉบับรายงานแต่อย่างใด
** คนไทยแอลเอโต้“มติชน-ข่าวสด”มั่ว
ขณะที่ ผู้ใช้เฟซบุ๊ค ในนาม “Peter Anti-Abhisit" พันธมิตร LA ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้โพตส์ข้อความว่า ต้องขอโทษทุกท่านนะครับ มาตอบช้า โดยข้อความที่โพตส์สรุปมีใจความว่า ไม่เห็นเหตุการณ์ เพราะบางช่วงไปเข้าห้องน้ำ และไปนั่งพักที่ Starbucks ที่หัวมุมถนน ห่างจากไทยแลนด์พลาซ่าออกมา พอกลับเข้าไป ก็ไม่เห็นว่ามีอะไรผิดปกติ และได้สอบถามพี่แกนนำพันธมิตรแอลเอแล้ว เหตุการณ์ เป็นดังนี้ มีเสื้อแดงถือไม้เท้าโวยวายพันธมิตรว่าไปเตะถูกไม้เท้า ตำรวจสหรัฐฯ LAPD ที่อยู่หน้าพลาซ่าจึงเข้ามาแยก และดึงตัวผู้หญิงที่เป็นพันธมิตรออกไปเหมือนภาพข่าว แต่ที่นอกเหนือจากภาพข่าว คือ ตำรวจหาเจ้าทุกข์ไม่เจอ ไม่มีใครมาเป็นเจ้าทุกข์ ตำรวจก็ปล่อย และไม่มีการจับกุม 8 คน
ทั้งนี้ การออกมาตอบโต้ดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากมีข่าวลงในไทยรัฐ มติชน ข่าวสด โดยเป็นภาพถ่าย LAPD กำลังจับกุมพันธมิตร แล้วยังใส่ข่าวไปว่า มีการจับกุมพันธมิตร 8 คน มีการปาขวดน้ำ และไล่ทุบรถ
นอกจากนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าว ยังได้ระบุอีกว่า ตำรวจที่มาดูแลการชุมนุมประท้วงในช่วง 5 โมงเย็น มีแค่ 5 นาย ตอนดึกมาเพิ่ม แต่มาดูแลการจราจร พร้อมยืนยันว่า พันธมิตรที่มาชุมนุมไล่ทักษิณส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัยวุฒิเกือบทั้งนั้น เป็นผู้หญิง บ้างก็มีลูกหลานมาดูแล บ้างก็ชวนกันมาเป็นกลุ่ม จนทางเท้าเต็มไปด้วยเสื้อเหลือง และระบุว่า พันธมิตรไม่ใช่พวกเถื่อน ถ่อย โดยยกตัวอย่าง ป้าดารณีเดินผ่านหน้าพันธมิตร เรายังไม่ทำอะไรเลย ทั้งๆ ที่คนๆ นี้เคยขึ้นเวทีจาบจ้างสถาบัน ส่วนหลักฐานการถูกจับกุม ขอให้นำมาโชว์ เพราะถ้าถูกจับจริง ต้องมีหลักฐาน และตอบโต้ข้อกล่าวหาที่ว่า เราไปล้มงานถวายพระพร โดยชี้ให้เห็นว่า ไม่มีโต๊ะหมู่บูชาที่ตั้งพระบรมฉายาลักษณ์ในงานเสื้อแดงเลย แลเพอไปไม่เป็น รีบขอพระบารมีมาคุ้มกะลาหัวกันใหญ่
***เว็บไซต์go6TVยังแหลไม่เลิก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเว็บไซต์ go6TV ได้มีการนำเสนอความเคลื่อนไหวกรณี อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เดินทางไปยังสหรัฐฯ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมเตรียมการจัดงานในโอกาสวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม ณ บริเวณไทยแลนด์พลาซา ถนนฮอลลีวูด นครลอสแองเจลิส แต่กลุ่มพันธมิตรฯ ในสหรัฐฯ ได้เข้ามาขัดขวาง ขว้างปาสิ่งของ พร้อมชูแผ่นป้ายเขียนถ้อยคำหยาบคาย ป่วนหน้าสถานที่จัดงาน และเปล่งเสียงโห่ร้องทำให้เกิดความรำคาญแก่ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่และเป็นที่น่าอับอายต่อชาวต่างประเทศ จนทำให้งานวันแม่ดังกล่าวต้องล้มเลิกการจัดงานในที่สุด ซึ่งเว็บไซต์ go6TV ได้ประมวลภาพข่าวและเหตุการณ์นำเสนอมาเกาะติดความเคลื่อนไหวมาโดยตลอด
ทั้งนี้ เว็บไซต์ go6TVยังระบุต่อว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นที่น่าสนใจของประชาชนชาวไทย ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งสื่อกระแสหลักอย่างข่าวสด และประชาชาติธุรกิจ ก็ได้เผยแพร่ภาพข่าวอ้างอิง go6TV ขณะที่เว็บไซต์รังพันธมิตรขนาดใหญ่อย่าง ASTVManager กลับรับความจริงไม่ได้ แก้ตัวเรื่องพฤติกรรมพันธมิตรว่าไม่ได้มีพฤติกรรมดังกล่าว และป้ายสีว่าเว็บไซต์ go6TV และเว็บไซต์ในเครือมติชน ข่าวสด ประชาชาติธุรกิจ นำเสนอข่าวบิดเบือนใส่ร้ายพันธมิตร
***เพซบุ๊กแดงตัดต่อภาพใส่ร้ายอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในเว็บไซต์เฟซบุ๊ก ได้มีผู้ใช้นามแฝง “Gloria Jaydang Lovedemocracy” ซึ่งเป็นมวลชนผู้สนับสนุนกลุ่มคนเสื้อแดง และเป็นผู้เรียกร้องให้ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ได้โพสต์ภาพลงในเว็บไซต์เฟซบุ๊ก โดยเป็นภาพผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ประท้วงขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ลอสแองเจลิส สหรัฐฯ
ภาพต้นฉบับดังกล่าว มวลชนพันธมิตรฯ นามว่า Peter Anti-Abhisit เป็นผู้ถ่ายไว้ เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ที่บริเวณไทยแลนด์พลาซา ถนนฮอลลิวูด นครลอสแองเจลิส ขณะที่พันธมิตรฯ กำลังชุมนุมขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยมีการชูป้ายข้อความว่า “ทักษิณ...โคตรบาป” และ “ทักษิณ!!! กูเกลียดมึง!” ซึ่งภาพเดียวกันนี้มีการนำไปใช้ในเฟซบุ๊กของนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณด้วย
อย่างไรก็ตาม ต่อมาภาพดังกล่าวถูกนำไปตัดต่อ พิมพ์ข้อความในลักษณะเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เข้าไปแทนข้อความโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ โดยผู้ใช้นามแฝง “Gloria Jaydang Lovedemocracy” ได้โพสต์ภาพดังกล่าวพร้อมข้อความว่า “ตายแล้วทำไมพวกคนไทยใน LA ถึงได้กล้าขนาดนั้นคะ อย่ากลับมาประเทศไทยนะคะ อยู่มันอเมริกาต่อไปละกัน”
นอกจากนี้ ยังมีข้อความที่บ่งบอกถึงเจตนาของผู้ใช้นามแฝงดังกล่าว ระบุว่า “เดี๋ยวจะแต่งภาพให้ลูกหลานหล่อนไปชูป้ายเกลียด ตามเพจต่างๆ เลยนะ นี่ยังไม่อยากทำ แต่ไม่แน่สักพักอาจจะทำนะคะ”
สำหรับเนื้อหาในเฟซบุ๊ก “Gloria Jaydang Lovedemocracy” ส่วนใหญ่มีลักษณะบิดเบือนข้อมูล และหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ รวมทั้งยังเรียกร้องให้สมาชิกช่วยกันแชร์ข้อมูลที่มีเนื้อหาคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง เพื่อโจมตีสถาบันเบื้องสูง โดยมีสมาชิกส่วนใหญ่เป็นมวลชนกลุ่มคนเสื้อแดง ผู้สนับสนุนกลุ่มนิติราษฎร์ และนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
***คนไทยในวอชิงตันนัดรวมตัวไล่
รายงานข่าวแจ้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และนักโทษหนีคดี ที่กำลังเดินสายพบปะคนเสื้อแดงในสหรัฐฯ มีกำหนดเดินทางถึงกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในช่วงบ่ายของวันอังคารที่ 14 ส.ค.2555 ตามเวลาท้องถิ่น หรือเช้ามืดของวันที่ 15 ส.ค. ตามเวลาในไทย และอาจมีงานต้อนรับจากกลุ่ม "Authority" ซึ่งยังไม่เป็นที่เปิดเผยว่าเป็นที่ใด หลังจากนั้น ในวันพุธที่ 15 ส.ค. เวลาประมาณ 18.00-19.00 น. (ตี 5-6โมงเช้า ของวันที่ 16 ส.ค.ตามเวลาในไทย) พ.ต.ท.ทักษิณจะไปที่ร้านกาแล (Galae Thai Restaurant) ฮอฟแมน ทาวน์ เซ็นเตอร์ เลขที่ 215 ถนนสแวมป์ฟอกซ์ เมืองอเล็กซานเดรีย รัฐเวอร์จีเนีย ซึ่งอยู่ติดกับกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. กลุ่มคนไทยในสหรัฐฯ ได้นัดรวมตัวในช่วงเวลา 17.00-17.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น (ประมาณตี 4 ถึงตี 4 ครึ่ง ตามเวลาในไทย) บริเวณลานจอดรถข้างโรงภาพยนตร์ ซึ่งอยู่เยื้องกับร้านดังกล่าว เพื่อชุมนุมขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ด้วย
**"นพดล"ขยันให้ข่าวรายวันพีอาร์นาย
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ในการเดินทางไปสหรัฐฯ ของอดีตนายกรัฐมนตรี ได้พบปะหารือกับนักการเมือง นักธุรกิจ และนักวิชาการมากมายหลายคน โดยเฉพาะการพบปะกับนายเฮนรี่ คิสซิงเจอร์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่สำนักงานของเขาในนิวยอร์ค เนื่องจากนายคิสซิงเจอร์เป็นนักการเมืองและนักวิชาการที่ทรงอิทธิพลทางความคิดในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ มาตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีนิกสันเป็นต้นมา และเป็นผู้รอบรู้เรื่องต่างๆ เกี่ยวกับจีน ทวีปเอเซีย และอาเซียนเป็นอย่างดี
"การเข้าพบครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ และนายคิสซิงเจอร์ ได้หารือและพูดคุยประเด็นทางเศรษฐกิจและการเมืองในภูมิภาคเอเชีย จีน การพัฒนาประชาธิปไตยในพม่า การเกิดขึ้นของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และประเทศไทย ซึ่งการหารือเป็นไปด้วยดีและหารือกันอย่างกว้างขวาง"นายนพดลกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเผยแพร่คำสัมภาษณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ กับผู้สื่อข่าวพิเศษถึงสถานการณ์ทางการเมืองและมุมชีวิตที่ต้องรอนแรมอยู่ต่างประเทศ จากซานฟรานซิสโก โดยเจ้าตัวยอมรับสารพัดปัญหารุมเร้ารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้เป็นน้องสาว แต่มั่นใจว่าจะผ่านพ้นด้วยดีและเอาอยู่ทุกปัญหา พร้อมระบุว่า การแก้รัฐธรรมนูญวาระ 3 และกฎหมายปรองดอง ไม่ถอน แต่ให้แช่ทิ้งไว้