xs
xsm
sm
md
lg

ขึ้นLPGขนส่ง 0.25บ./กก. ตรึงNGVต่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- “กบง.” เคาะตามคาดขยับแอลพีจีขนส่งอีก 0.25 บาทต่อกก.มีผล 16 ส.ค.ทำให้ราคาขยับไปอยู่ที่ 21.38 บาทต่อกก.หลังแอลพีจีโลกพุ่งหลังจากนั้นอีก 1 เดือนจะพิจารณาใหม่ แต่ยังคงตรึงเอ็นจีวีที่ 10.50 บ./กก.จนกว่าจะได้ข้อยุติต้นทุนก๊าซฯ พร้อมลดเก็บเงินกองทุนน้ำมันฯกลุ่มเบนซินบีบผู้ค้าลดราคา ปตท.บางจากกัดฟันลดตามอัตราเงินกองทุนฯที่ปรับลงแรงมีผล 15 ส.ค.

นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน(กบง.) เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ว่า กบง.เห็นชอบแนวทางการปรับโครงสร้างราคาพลังงานส่วนของแอลพีจีภาคขนส่งโดยให้มีการปรับขึ้นราคาอีก 0.25 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) จากราคาปัจจุบัน 21.23 บาทต่อกก.เป็น 21.38 บาทต่อกก.มีผลตั้งแต่ 16 ส.ค.เป็นต้นไป ขณะที่ราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(เอ็นจีวี)คงเดิมที่ 10.50 บาทต่อกก.เนื่องจากต้องรอผลการศึกษาต้นทุนจากสถาบันวิจัยพลังงาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก่อน

“ ที่ผ่านมารัฐได้ตรึงราคาเอ็นจีวีและแอลพีจีขนส่ง 3 เดือนซึ่งจะครบ 16 ส.ค.นี้แต่กบง.เห็นชอบขึ้นแอลพีจีขนส่งเนื่องจากราคาแอลพีจีตลาดโลกได้ปรับขึ้นสูงมาอยู่ที่ 775 เหรียญสหัฐต่อตันทำให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีภาระชดเชยมากซึ่งการเปลี่ยนแปลงราคาก็จะมีการดูเดือนต่อเดือนไปและเรียกประชุมกบง.ได้ ส่วนเอ็นจีวีนั้นคิดว่าคงไม่นานเบื้องต้นมีข้อยุติแล้วจากเดิมที่ความเห็นเรื่องต้นทุนก๊าซฯไม่ตรงกัน”รมว.พลังงานกล่าว

สำหรับราคาแอลพีจีครัวเรือนยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงใดๆตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)จนถึงสิ้นปี ส่วนแอลพีจีอุตสาหกรรมได้มีการพิจารณาเป็นรายเดือนและส.ค.ได้ปรับมาอยู่ที่ 29.56 บาทต่อกก.ส่วนนี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงใดๆ โดยจะต้องมาพิจารณาทิศทางแอลพีจีเพื่อกำหนดราคาในเดือนก.ย.อีกครั้ง

อย่างไรก็ตามในวันที่ 15 ส.ค.นี้กระทรวงพลังงานจะมีการเปิดตัวโครงการบัตรเครดิตพลังงานยกกำลัง 2 ที่สโมสรกองทัพบกที่จะมีการปรับเงื่อนไขการใช้ที่ให้สิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นเพื่อลดค่าครองชีพให้กับรถบริการสาธารณะทั้งแท็กซี่ รถสามล้อ รถตู้โดยสารธารณะ รถมอเตอร์ไซด์รับจ้าง โดยจะมีวงเงินในบัตรเครดิตไว้ใช้ฉุกเฉิน 3,000 บาทพร้อมกับจะมีบัตรส่วนลดราคาและซื้อสินค้าต่างๆ เป็นต้น

นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เห็นชอบปรับลดอัตราการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯส่วนของกลุ่มเบนซินดังนี้ เบนซิน 95 ลดการเก็บลง 60 สตางค์ต่อลิตรทำให้เหลือจัดเก็บเพียง 6.50 บาทต่อลิตร เบนซิน 91 ลด 1.50 บาทต่อลิตรเหลือจัดเก็บ 5.20 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 ลดจัดเก็บลง 0.50 บาทต่อลิตรเหลือจัดเก็บที่ 1.30 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 ชดเชยอีก 0.30 บาทต่อลิตรชดเชยรวมเป็น 1.30 บาทต่อลิตร อี 20 ชดเชยอีก 0.20 บาทต่อลิตรชดเชยเป็น 12.70 บาทต่อลิตร ขณะที่ดีเซลไม่มีการเปลี่ยนแปลงโดยการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯยังคงเป็นศูนย์

ผลจากการลดอัตราเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯดังกล่าวทำให้รายรับกองทุนฯติดลบจาก 15 ล้านบาทต่อวันเป็น 37 ล้านบาทต่อวัน และทำให้ฐานะกองทุนน้ำมันฯล่าสุดรวมยังคงติดลบที่ 14,430 ล้านบาท และการลดเงินครั้งนี้ได้มีการประสานไปยังผู้ค้าน้ำมันทุกรายให้พิจารณาลดราคาขายปลีกในส่วนของกลุ่มเบนซินลงมาได้ส่วนจะลดเท่าใดก็อยู่ที่ค่าการตลาดให้เหมาะสม ส่วนดีเซลคงไม่เปลี่ยนแปลง

“การลดเบนซินลงมาไม่เกี่ยวกับการที่ฝ่ายค้าจะอภิปรายอะไร แต่ที่ผ่านมาน้ำมันตลาดโลกผันผวนเราเองก็จะตอ้งดูแลประชาชนทุกๆ ส่วน ขณะที่ดีเซลเองเบื้องต้นทราบว่าค่าการตลาดอยู่ที่ 1.03 บาทต่อลิตรแต่แนวโน้มราคาโลกเริ่มลดลงก็จะดูอีกครั้ง”นายอารักษ์กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า บมจ.ปตท.และบางจากได้แจ้งนำลดราคาขายปลีกน้ำมันเฉพาะกลุ่มเบนซินตามที่กองทุนฯได้ลดอัตราจัดเก็บน้ำมันเข้ากองทุนฯลง คือ เบนซิน 91 ลด 1.50 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 ลด 0.05 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 ลด 0.30 บาทต่อลิตร อี 20 ลด 0.20 บาทต่อลิตร ขณะที่ดีเซลไม่มีการเปลี่ยนแปลงโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.เป็นต้นไป
กำลังโหลดความคิดเห็น