ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คนร้ายกราดยิงเอ็ม 16 กว่า 30 นัดใส่ชาวบ้านใน อ.สุไหงปาดี เสียชีวิตคาที่ 1 สาหัส 1 เจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือ RKK ที่เคลื่อนไหวก่อเหตุในพื้นที่สร้างสถานการณ์ร้ายรายวัน ด้าน ครม.อนุมัติเพิ่มวงเงินเยียวยาเหยื่อไฟใต้อีก ปชช.เสียชีวิตได้เพิ่มเป็น 500,000 บาท
เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.เด่นพงษ์ เต็มยอด พงส.(สบ1) สภ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส รับแจ้งมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บบนถนนในหมู่บ้านโต๊ะเด็ง หมู่ 1 ต.โต๊ะเด็ง จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมกำลังที่เกิดเหตุพบศพนายมะตอเฮ อีแต อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 282/5 หมู่ 1 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส มีแผลถูกยิงที่ลำตัว กลางหลัง และศีรษะพรุนไปทั้งร่าง ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อคาวาซากิ สีเขียว ทะเบียน ต-4125 นราธิวาส ล้มอยู่ นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บทราบชื่อนายอดินันท์ ยูโซ๊ะ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/1 หมู่ 5 ต.โฆษิต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส มีแผลถูกยิงเข้าบริเวณลำตัว แขน อาการสาหัส จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก
จากการสอบสวนทราบว่า หลังจากนายมะตอเฮ รับประทานอาหารช่วงเปิดปอซอแล้วเสร็จ ได้ชวนนายอดินันท์ ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ อ.ตากใบ ที่เดินทางมาเยี่ยมญาติซึ่งอยู่บ้านติดกับนายอดินันท์ ซ้อนท้ายเดินทางไปทำธุระในเขตเทศบาลตำบลปะลุรู อ.สุไหงปาดี เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในสวนยางพาราที่รกทึบริมทาง และคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม.16 ยิงใส่นายมะตอเฮและนายอดินันท์ กว่า 30 นัดซ้อน จนนายมะตอเฮ เสียชีวิต และนายอดินันท์ บาดเจ็บสาหัส แล้วอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีไป
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เคลื่อนไหวของกองกำลังติดอาวุธ RKK ที่มักหาช่องโหว่ดักสังหารผู้บริสุทธิ์รายวัน
ที่ทำเนียบรัฐบาลวานนี้ น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการ ปรับปรุงหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาประชาชน ที่เสียชีวิตและทุพพลภาพจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ สืบเนื่องจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้เสนอ
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า เป็นการดำเนินการ ตามมติคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการประชุมครั้งที่ 3/2555 เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา ประกอบด้วย 1.กรณีประชาชนผู้เสียชีวิต สืบเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เดิมได้รับการช่วยเหลือเป็นเงินจำนวน 100,000 บาท เพิ่มเป็น 500,000 บาท 2. กรณีประชาชนผู้ทุพพลภาพ สืบเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จากเดิมได้รับการช่วยเหลือเป็นเงินจำนวน 80,000 บาท เพิ่มเป็น 500,000 บาท
ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันนี้ (14 ส.ค.55) เป็นต้นไป และให้ย้อนหลังครอบคลุมผู้เสียชีวิตและทุพพลภาพ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.47 เป็นต้นมา โดยส่วนที่มีผลย้อนหลังจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นไม่ช้ากว่าปีงบประมาณ พ.ศ.2558 เพื่อไม่ให้เป็นภาระด้านงบประมาณในปีหนึ่งปีใดเกินสมควร และให้นำจำนวนเงินที่ได้รับความช่วยเหลือไปแล้วมาหักออกจากจำนวนเต็มที่พึงจะได้รับด้วย
โดยในปีงบประมาณ พ.ศ.2555 ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2555 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นในกรอบวงเงิน 2,000 ล้านบาท ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการให้ใช้จ่ายเพื่อการเยียวยาไว้แล้ว ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 24 เม.ย.55 และเบิกจ่ายแล้ว จำนวน 866.9055 ล้านบาท คงเหลือ 1,133.0945 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอเพื่อการดังกล่าว สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ.2556 ได้เสนอตั้งงบประมาณรองรับไว้จำนวน 370 ล้านบาท ส่วนในปีงบประมาณ พ.ศ.2557-2558 ให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้มอบหมายให้ทุกกระทรวงนำแผนการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ของสภาความมั่นคงแห่งชาติหรือ สมช.จำนวน 29 วัตถุประสงค์ ซึ่งเป็นแผนดำเนินการรายวันไปปรับปรุงให้เป็นยุทธศาสตร์ โดยจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนตามความรับผิดชอบของแต่ละกระทรวงก่อนนำส่งให้ สมช.พิจารณาดำเนินการ ขณะเดียวกัน ได้มอบหมายให้สำนักงบประมาณไปปรับแผนการใช้งบประมาณในพื้นที่ โดยปรับเพิ่มงบประมาณจัดซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นด้วย
เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.เด่นพงษ์ เต็มยอด พงส.(สบ1) สภ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส รับแจ้งมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บบนถนนในหมู่บ้านโต๊ะเด็ง หมู่ 1 ต.โต๊ะเด็ง จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมกำลังที่เกิดเหตุพบศพนายมะตอเฮ อีแต อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 282/5 หมู่ 1 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส มีแผลถูกยิงที่ลำตัว กลางหลัง และศีรษะพรุนไปทั้งร่าง ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อคาวาซากิ สีเขียว ทะเบียน ต-4125 นราธิวาส ล้มอยู่ นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บทราบชื่อนายอดินันท์ ยูโซ๊ะ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/1 หมู่ 5 ต.โฆษิต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส มีแผลถูกยิงเข้าบริเวณลำตัว แขน อาการสาหัส จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก
จากการสอบสวนทราบว่า หลังจากนายมะตอเฮ รับประทานอาหารช่วงเปิดปอซอแล้วเสร็จ ได้ชวนนายอดินันท์ ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ อ.ตากใบ ที่เดินทางมาเยี่ยมญาติซึ่งอยู่บ้านติดกับนายอดินันท์ ซ้อนท้ายเดินทางไปทำธุระในเขตเทศบาลตำบลปะลุรู อ.สุไหงปาดี เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในสวนยางพาราที่รกทึบริมทาง และคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม.16 ยิงใส่นายมะตอเฮและนายอดินันท์ กว่า 30 นัดซ้อน จนนายมะตอเฮ เสียชีวิต และนายอดินันท์ บาดเจ็บสาหัส แล้วอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีไป
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เคลื่อนไหวของกองกำลังติดอาวุธ RKK ที่มักหาช่องโหว่ดักสังหารผู้บริสุทธิ์รายวัน
ที่ทำเนียบรัฐบาลวานนี้ น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการ ปรับปรุงหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาประชาชน ที่เสียชีวิตและทุพพลภาพจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ สืบเนื่องจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้เสนอ
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า เป็นการดำเนินการ ตามมติคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการประชุมครั้งที่ 3/2555 เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา ประกอบด้วย 1.กรณีประชาชนผู้เสียชีวิต สืบเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เดิมได้รับการช่วยเหลือเป็นเงินจำนวน 100,000 บาท เพิ่มเป็น 500,000 บาท 2. กรณีประชาชนผู้ทุพพลภาพ สืบเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จากเดิมได้รับการช่วยเหลือเป็นเงินจำนวน 80,000 บาท เพิ่มเป็น 500,000 บาท
ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันนี้ (14 ส.ค.55) เป็นต้นไป และให้ย้อนหลังครอบคลุมผู้เสียชีวิตและทุพพลภาพ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.47 เป็นต้นมา โดยส่วนที่มีผลย้อนหลังจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นไม่ช้ากว่าปีงบประมาณ พ.ศ.2558 เพื่อไม่ให้เป็นภาระด้านงบประมาณในปีหนึ่งปีใดเกินสมควร และให้นำจำนวนเงินที่ได้รับความช่วยเหลือไปแล้วมาหักออกจากจำนวนเต็มที่พึงจะได้รับด้วย
โดยในปีงบประมาณ พ.ศ.2555 ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2555 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นในกรอบวงเงิน 2,000 ล้านบาท ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการให้ใช้จ่ายเพื่อการเยียวยาไว้แล้ว ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 24 เม.ย.55 และเบิกจ่ายแล้ว จำนวน 866.9055 ล้านบาท คงเหลือ 1,133.0945 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอเพื่อการดังกล่าว สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ.2556 ได้เสนอตั้งงบประมาณรองรับไว้จำนวน 370 ล้านบาท ส่วนในปีงบประมาณ พ.ศ.2557-2558 ให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้มอบหมายให้ทุกกระทรวงนำแผนการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ของสภาความมั่นคงแห่งชาติหรือ สมช.จำนวน 29 วัตถุประสงค์ ซึ่งเป็นแผนดำเนินการรายวันไปปรับปรุงให้เป็นยุทธศาสตร์ โดยจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนตามความรับผิดชอบของแต่ละกระทรวงก่อนนำส่งให้ สมช.พิจารณาดำเนินการ ขณะเดียวกัน ได้มอบหมายให้สำนักงบประมาณไปปรับแผนการใช้งบประมาณในพื้นที่ โดยปรับเพิ่มงบประมาณจัดซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นด้วย