หลังจากที่ ตร.ได้จับกุม "เบ็นซ์ ท่าทราย" ที่ อาร์ ซีเอ เมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ ตร.ได้สอบปากคำ "เบ็นซ์ ท่าทราย" เป็นเวลาหลายยชั่วโมง พบไม่มีส่วนเกี่ยวพันการเสียชีวิตของ "เต่า ท่าทราย" เตรียมส่งฟ้องพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ ก่อนแจ้ง สน.มีนบุรี มาอายัดตัวดำเนินคดีร่วมกันชิงทรัพย์ ที่ศาลแขขวงพระนครเหนือ ความคืบหน้าล่าสุดภายหลัง ผบช.น.ประชุมแนวทางสืบสวนคดี เมื่อเวลา 17.00 น."คำรณวิทย์"ชี้ยังไม่ปักในเชื่อ "ปั๊ม" เป็นมือยิง เชื่อคนร้ายน่าจะเป็นมืออาชีพ พร้อมเปรยรู้ตัวคนร้ายแล้ว
วันนี้ (31 ก.ค.) เมื่อเวลา 01.30 น. ขณะที่ พ.ต.อ.ไชยา คงทรัพย์ ผกก.สน.มักกะสัน พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไกรเลิศ บัวแก้ว รอง ผบก.น.1 ออกตรวจสถานบันเทิงย่านอาร์ซีเอ ถนนจตุรทิศ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ เพื่อให้สถานบริการปิดตามเวลา ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ชุดจู่โจม สน.มักกะสัน ว่าได้ทำการจับกุม นายธนวัฒน์ ดู่คำ อายุ 31 ปี หรือเบนซ์ ท่าทราย อยู่บ้านเลขที่ 68/3 ซ.จันทร์เพ็ญ ถ.สีหบุรานุกิจ แขวงและเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ พร้อมกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 8 นัด ขณะเดินอยู่บริเวณหน้าร้านสลิมที่อาร์ซีเอ จึงได้นำตัวมาที่ สน.มักกะสัน เพื่อให้ พ.ต.อ.ไกรเลิศทำการสอบปากคำ
จากการสอบสวนนายธนวัฒน์ให้การวกวนเหมือนคนเสพยาว่า ก่อนเกิดเหตุได้ไปงานศพนายเต่า ท่าทราย ที่วัดกลางเกร็ด จ.นนทบุรี ที่โดนยิงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ในเขตพื้นที่ สน.สุทธิสาร และที่มาอาร์ซีเอเพื่อมาดูแลแฟนพี่สาวที่ร้านสลิม โดยมาถึงร้านเมื่อตอน 22.45 น. จากนั้นได้เข้าไปในร้าน และออกมาทางด้านนอกก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุม
พ.ต.อ.ไกรเลิศได้สอบถามนายธนวัฒน์ว่า ได้ตรวจสอบข้อมูลทางโทรศัพท์มือถือ (บีบี) แล้วทำไมถึงมีการส่งข้อความบอกเรื่องจักรยานยนต์คาวาซากิ รุ่นเคเอ็น 650 สีดำ พร้อมทั้งมีรูป นายปั๊ม มือปืนที่ยิงเต่า ท่าทราย ที่จะมาเที่ยวที่อาร์ซีเอ เหมือนกับเตรียมจะมาก่อเหตุ โดยนายธนวัฒน์ตอบอย่างไม่สะทกสะท้านว่า “ผมพร้อมกับกลุ่มเพื่อนเต่า ท่าทราย (ที่เสียชีวิต) กำลังไล่ล่าไอ้ปั๊ม เพราะว่ามันยิงเพื่อนพวกผม กำลังตามล่ามัน โดยใช้บีบีในการติดต่อสื่อสารกัน ถ้าเจอที่ไหนมันจบแน่ และวันนี้ทราบว่าพบเห็นจักรยานยนต์คาวาซากิ รุ่นเคเอ็น 650 สี ดำ จอดอยู่ที่แถวร้านสลิม จึงได้เดินทางมาดูก็พบว่าไม่ใช่รถสีดำ แต่เป็นรถสีแดงของพนักงานในร้านจึงจะเดินทางกลับก็มาถูกจับกุม”
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติยังพบอีกว่า นายธนวัฒน์ หรือชื่อเดิม นายกรกต ดู่คำ มีหมายจับของ สน.มีนบุรี เมื่อปี 2545 ในข้อหาร่วมกับพวกที่หลบหนีร่วมกันชิงทรัพย์อีกด้วย พ.ต.อ.ไกรเลิศ จึงได้สั่งการให้ สน.ในพื้นที่ตำรวจนครบาล 1 โดยเฉพาะ สน.ห้วยขวาง และมักกะสัน ได้ตรวจสอบบุคคลที่ต้องสงสัยว่าจะพกพาอาวุธปืนเข้าไปในสถานบันเทิง เพราะน่าจะมีการล้างแค้นกันเกิดขึ้นระหว่างกลุ่มเพื่อนของเต่า ท่าทราย ที่เสียชีวิตไป กับกลุ่มนายปั๊ม
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหามีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. ที่สน.สุทธิสาร พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีนี้โดยเปิดเผยภายหลังกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้า โดยคดีมีความคืบหน้าพอสมควร ซึ่งพนักงานสอบสวนได้เรียกตัวพยานในที่เกิดเหตุเพื่อนผู้ตาย และพยานแวดล้อมมาสอบปากคำบ้างแล้ว ซึ่งก็มีให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
“ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุขณะนี้ฝ่ายสืบสวนกำลังลงพื้นที่หาข่าวอยู่ และพอจะทราบแล้วว่าเป็นใครแต่ยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึง และขณะนี้ก็ยังไม่ได้ออกหมายเรียกหรือออกหมายจับใคร ส่วนทางผู้บังคับบัญชาก็ไม่ได้กำชับอะไรมาเป็นพิเศษเพียงแต่ให้ทำงานให้เต็มที่ ซึ่งในวันนี้เวลาประมาณ 17.00 น.จะนำข้อมูลไปเข้าร่วมประชุมที่ (บช.น.)" พ.ต.อ.เจริญ ระบุ
ด้าน พ.ต.อ.ไกรเลิศ บัวแก้ว รอง ผบก.น.1 เปิดเผยว่า สำหรับ นายธนวัฒน์ ดู่คำ หรือ "เบนซ์ ท่าทราย" เพื่อนผู้ตาย ที่ถูกตำรวจสน.มักกะสัน จับกุมข้อหาพกพาอาวุธปืนเมื่อคืนนี้ ทางพนักงานสอบสวนสน.สุทธิสาร ได้ประสานไปขอสอบปากคำที่ สน.มักกะสันแล้ว เบื้องต้นพบว่านายเบนซ์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทางสน.มักกะสัน จึงได้แจ้งเพียงข้อหา พกพาอาวุธปืน และเตรียมนำตัวส่งฟ้องศาลแขวงพระนครเหนือในวันพรุ่งนี้ ส่วนคดีร่วมกันชิงทรัพย์ของ นายธนวัฒน์ ในพื้นที่ สน.มีนบุรี นั้นได้ประสาน สน.มีนบุรีไปแล้วว่าหากจะมาอายัดตัวไปดำเนินคดีก็สามารถมาอายัดตัวที่ศาลแขวงพระนครเหนือได้
ทางด้าน พ.ต.อ.วิบูลยุทธ สันทัดเวช ผกก.สน.สุทธิสาร เปิดเผยว่า ในส่วนของการติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุนั้น ทางฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่หาข่าวแล้ว สำหรับที่ นายธนวัฒน์ ดู่คำ หรือ "เบนซ์ ท่าทราย" ซึ่งเป็นเพื่อนของผู้ตาย กล่าวอ้างว่า นายปั้ม เป็นคนลงมือก่อเหตุ เพราะ นายปั้ม เป็นคนเดียวที่ขับรถ จยย.คล้ายกับ รถ จยย.คนร้ายที่ใช้เกิดเหตุซึ่งในส่วนนี้ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นรถคันเดียวกันและเจ้าหน้ายังไม่มีหลักฐานว่า นายปั้ม เป็นคนก่อเหตุ จึงยังไม่สามารถออกหมายจับได้ ส่วน นายสมชาย หรือจ้อน จันทร์แจ้ง อายุ 27 ปี วานนี้ได้นำตัวมาสอบปากคำแล้ว ก็ยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงและให้การปฏิเสธ จึงปล่อยตัวไป และขณะนี้ฝ่ายสืบสวนกำลังลงพื้นที่เฝ้าติดตามกลุ่มคนร้ายอีกกลุ่มหนึ่งที่คาดว่าน่าจะเป็นผู้ก่อเหตุ แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงเช่นกัน
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 17.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.พิสิฎฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รอง ผบช.น. ดูแลงานด้านสืบสวน พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ไกรเลิศ บัวแก้ว รอง ผบก.น.1 รรท.ผกก.สน.ห้วยขวาง พ.ต.อ.วิบูลยุทธ สันทัดเวช ผกก.สน.สุทธิสาร พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บช.น. , สน.ห้วยขวาง และสน.สุทธิสาร ร่วมประชุมเพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายคดีก่อเหตุในคดีดังกล่าว
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมแนวทางการสืบสวนเสร็จสิ้นว่า จากผลการประชุมทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า สาเหตุมาจากความขัดแย้งเรื่องยาเสพติดในสถานบันเทิง นำไปสู่การทะเลาะวิวาทก่อนที่ออกมาจากผับแล้วเกิดการยิงกัน และส่วนหนึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการที่เปิดสถานบันเทิงกันจนถึงช่วงเช้า ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นและเป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติดอีกด้วย จึงได้สั่งปิดสถานบันเทิงเหล่านี้ไปหมดแล้ว ทางการสืบสวนมีความคืบหน้าไปพอสมควรทั้งการสืบสวนของ บช.น. ,บก.น.2 และชุดสืบสวนของพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ข้อมูลพอรู้ตัวคนร้ายค่อนข้างชัดเจน
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่จับกุมเพื่อนนายวิรัชได้ที่ย่านอาซีเอร์ เมื่อคืนนั้น คนในวงการกันเองก็น่าจะรู้ตัวอยู่ว่าเป็นใคร แต่ทางตำรวจต้องหาหลักฐานอื่นมาประกอบไม่ใช่ไปเชื่อตามกระแสบอกเล่า ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าระวังตลอด และได้ทำการจับกุมเพื่อนของนายเต่าได้ พร้อมกับอาวุธปืนและลูกซอง และสอบปากคำเพื่อนของนายเต่ายังยอมรับว่า มาดักยิงนายปั๊มเพื่อล้างแค้นแทนเพื่อน แต่ทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่านายปั๊มเป็นคนยิง ซึ่งต้องมีหลักฐานประกอบให้ชัดเจนก่อนที่จะออกหมายจับต่อไป
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวอีกว่า จากกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายมีความชำนาญในการใช้อาวุธปืน และอาวุธปืนที่คนร้ายใช้เป็นปืนที่มีประสิทธิภาพสูง กำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่เช่นกัน ซึ่งเห็นได้ว่าคนร้ายมีอาวุธปืนที่ดี มีความชำนาญ ขับขี่จยย.มือเดียว และใช้อีกมือหนึ่งยิงปืน ซึ่งต้องบีบคาร์สเพื่อปล่อยแรงเฉื่อยถึงจะยิงได้ นอกจากนี้ นายปั๊มนั้น เป็นกลุ่มแถวดอนเมือง ซึ่งทั้งสองกลุ่มยังเคยทะเลาะวิวาทกันมานานแล้ว ผู้ตายก็เคยไปตบคู่กรณีมาแล้วด้วยเหตุเกิดในผับเหมือนกัน โดยมันมีมูลเหตุกันมาก่อน และเคยมีการหักหลังเรื่องยามากันแล้วด้วย ส่วนกลัวนายปั๊มจะโดนฆ่าตัดตอนหรือไม่นั้น ไม่กังวลเพราะพวกเขาหลบกันอยู่ ซึ่งพรุ่งนี้อาจมีความคืบหน้าไปมาก