ASTVผู้จัดการรายวัน- "นช.แม้ว"ปากกล้า ขาสั่น ไม่กล้าโผล่หัวเข้างานเสื้อแดง ที่ลอสแอนเจลิส ต้องใช้วิธีโฟนอินเข้ามาขอโทษเสื้อแดง เหตุเจอพันธมิตรฯแอลเอกว่า 2,000 คน รวมตัวไล่ พร้อมเปิดปราศรัยหน้าไทยแลนด์พลาซ่า ขณะเสื้อแดงหลักสิบทยอยมาฟัง "เจ๊ดา"สะพัดลงทะเบียบรับคนละ 150 เหรียญ "สุริยะใส" ชี้ต้องขอบคุณคนไทยในสหรัฐฯ ลุกขึ้นมาปกป้องระบบยุติธรรมไทย
รายงานข่าวจากนครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา แจ้งว่า ที่บริเวณไทยแลนด์พลาซา ถนนฮอลลีวูด นครลอสแองเจลิส เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. ของวันที่ 12 ส.ค. ตามเวลาท้องถิ่น กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในลอสแองเจลิส ประมาณ 300 คน ได้รวมตัวกันเพื่อประท้วงขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดี ซึ่งมีกำหนดการมาปราศรัยกับคนเสื้อแดง ที่บริเวณดังกล่าว โดยกลุ่มพันธมิตรฯ บางส่วนได้มารวมกันอยู่ด้านหน้าพลาซา ขณะที่บางส่วนอยู่ฝั่งตรงข้าม
ส่วนคนเสื้อแดงนำนวนหลักสิบคน นำโดยนางดารณี กฤตบุญญาลัย ที่ใส่วิกสีธงชาติ ได้ทยอยกันเดินมา โดยต้องจอดรถด้านนอก แล้วเดินบนถนนไปยังลานจอดรถของไทยแลนด์พลาซา ที่พ.ต.ท.ทักษิณ จะเปิดปราศรัย โดยนางดารณี ไม่กล้าเดินบนทางเท้า เพราะพันธมิตรฯอยู่เต็มพื้นที่ เมื่อเดินผ่านต้องไหว้ ปลกๆ แล้วรีบเดินไป ท่ามกลางเสียงด่าไล่หลัง
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า คนเสื้อแดงที่เข้ามาในงานได้ลงทะเบียนเพื่อรับเงินคนละ 150 ดอลลาร์สหรัฐด้วย
รายงานแจ้งอีกว่า จำนวนพันธมิตรฯได้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเวลาประมาณ 19.00 น. มีประมาณ 500 กว่าคน โดยมีพันธมิตรฯ จากลาสเวกัส และโคโรลาโด เดินทางมาสมทบ จนจำนวนเพิ่มเป็น ประมาณ 2,000 คนโดยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเข้าไปในบริเวณงานไม่ได้
ล่าสุด เวลา 21.00 ได้มีรถมาวนอยู่หลายรอบ แล้วก็ขับออกไป สุดท้ายมีรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โฟนอิน มาขอโทษคนเสื้อแดง ที่ไม่สามารถเข้าไปในบริเวณที่จัดงานได้ เพราะมวลชนพันธมิตรฯ กว่า 2,000 ถือป้ายไล่เต็มพื้นที่
ทางด้านหนังสือพิมพ์ Siam Town US ฉบับวันที่ 12 สิงหาคม 2555 ได้พาดหัวข่าวหน้า 1 ว่า สังคมแอลเอเครียด “ทักษณ” เปิดปราศรัย 12 สิงหา รายงานถึงการเดินทางมาปราศรัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ไทยแลนด์พลาซา นครลอสแองเจลิส ซึ่งทำให้เกิดการเผิญหน้าหน้า ระหว่างคนเสื้อแดง กับคนเสื้อเหลืองในพื้นที่
**ประจานสหรัฐละเมิดส่งผู้ร้ายข้ามแดน
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics) กล่าวว่า ปรากฏการณ์ที่กลุ่มพันธมิตรฯและประชาชนคนไทย ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ ในหลายๆเมือง ออกมาต่อต้านการเดินทางเข้าสหรัฐฯของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่อยู่ระหว่างหลบหนีคำพิพากษา และหมายจับของศาลไทยนั้น นอกจากจะเป็น Social sanctions หรือมาตรการลงโทษทางสังคม เพื่อปกป้องระบบยุติธรรมไทยแล้ว ยังถือเป็นการประจานทางการสหรัฐฯ ที่ละเมิดสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ที่ลงนามไว้กับปะเทศไทย ให้ประชาคมโลกได้เห็นธาตุแท้และพฤติกรรมของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ไม่เคารพข้อตกลง แต่บีบให้ประเทศคู่ตกลง ปฏิบัติแต่เพียงฝ่ายเดียว
"คงต้องยอมรับความจริงกันว่า มาตรการทางสังคมยังจะปรากฎให้เห็นไปเรื่อยๆ จนกว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และเข้ามารับโทษตามคำพิพากษาของศาล สังคมและประชาชนทั่วไปต้องขอบคุณคนไทยในสหรัฐฯ ที่ออกมาแสดงพลังให้โลกรู้ว่า ข้อเท็จจริงคืออะไร เพราะมีความพยายามบิดเบือนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ โดนคดีการเมือง ทั้งที่ความจริงคือ เป็นผู้ต้องหาและถูกพิพากษาในคดีอาญา"
นายสุริยะใส กล่าวด้วยว่า การเคลื่อนไหวของคนไทยในสหรัฐฯ เป็นการแสดงออกอย่างสันติ และที่ผ่านมา ก็มีการยื่นหนังสือขอคำชี้แจงจากสถานทูตสหรัฐฯ ในไทยและยื่นหนังสือถึงประธานาธิบดีโอบามา ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี แต่จนป่านนี้ก็ยังไม่มีคำชี้แจงจากทางการสหรัฐฯ ว่าทำไมปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าประเทศได้ การที่ทางการสหรัฐฯนิ่งเฉยและไม่ตอบคำถามทำให้คนไทยและประชาคมโลกตั้งข้อสงสัยได้ว่า มีเรื่องผลประโยชน์ด้านพลังงานและการทหารในภูมิภาคเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งสื่อมวลชนสหรัฐฯ เริ่มตั้งข้อสังเกตในประเด็นนี้แล้ว
ปรากฎการณ์นี้ไม่ใช่แค่ปมปัญหาของคนไทย แต่ได้ยกระดับเป็นปัญหาระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ที่มีสนธิสัญญาที่ถือปฏิบัติกันมานาน แต่วันนี้สนธิสัญญาเหลืองเพียงเศษกระดาษ ไม่มีความหมายอีกต่อไป เจตนารมย์ของกฎหมายเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ตามความพอใจของคนมีอำนาจ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือในข้อตกลงอื่นๆ ที่สหรัฐฯ บีบให้ประเทศต่างๆ ลงนาม
ส่วนบทบาทและความรับผิดชอบของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ นั้น ก็รู้เห็นเป็นใจ ไม่ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งเข้าข่ายจงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กรณีนี้ปลายสัปดาห์นี้ กลุ่มกรีน (Green Politics) จะไปยื่นเรื่องกล่าวโทษต่อ ป.ป.ช. ตั้งแต่ นายกฯ รมว.ต่างประเทศ อัยการสูงสุด และ ผบ.ตร. ที่เพิกเฉยไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย.
รายงานข่าวจากนครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา แจ้งว่า ที่บริเวณไทยแลนด์พลาซา ถนนฮอลลีวูด นครลอสแองเจลิส เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. ของวันที่ 12 ส.ค. ตามเวลาท้องถิ่น กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในลอสแองเจลิส ประมาณ 300 คน ได้รวมตัวกันเพื่อประท้วงขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดี ซึ่งมีกำหนดการมาปราศรัยกับคนเสื้อแดง ที่บริเวณดังกล่าว โดยกลุ่มพันธมิตรฯ บางส่วนได้มารวมกันอยู่ด้านหน้าพลาซา ขณะที่บางส่วนอยู่ฝั่งตรงข้าม
ส่วนคนเสื้อแดงนำนวนหลักสิบคน นำโดยนางดารณี กฤตบุญญาลัย ที่ใส่วิกสีธงชาติ ได้ทยอยกันเดินมา โดยต้องจอดรถด้านนอก แล้วเดินบนถนนไปยังลานจอดรถของไทยแลนด์พลาซา ที่พ.ต.ท.ทักษิณ จะเปิดปราศรัย โดยนางดารณี ไม่กล้าเดินบนทางเท้า เพราะพันธมิตรฯอยู่เต็มพื้นที่ เมื่อเดินผ่านต้องไหว้ ปลกๆ แล้วรีบเดินไป ท่ามกลางเสียงด่าไล่หลัง
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า คนเสื้อแดงที่เข้ามาในงานได้ลงทะเบียนเพื่อรับเงินคนละ 150 ดอลลาร์สหรัฐด้วย
รายงานแจ้งอีกว่า จำนวนพันธมิตรฯได้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเวลาประมาณ 19.00 น. มีประมาณ 500 กว่าคน โดยมีพันธมิตรฯ จากลาสเวกัส และโคโรลาโด เดินทางมาสมทบ จนจำนวนเพิ่มเป็น ประมาณ 2,000 คนโดยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเข้าไปในบริเวณงานไม่ได้
ล่าสุด เวลา 21.00 ได้มีรถมาวนอยู่หลายรอบ แล้วก็ขับออกไป สุดท้ายมีรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โฟนอิน มาขอโทษคนเสื้อแดง ที่ไม่สามารถเข้าไปในบริเวณที่จัดงานได้ เพราะมวลชนพันธมิตรฯ กว่า 2,000 ถือป้ายไล่เต็มพื้นที่
ทางด้านหนังสือพิมพ์ Siam Town US ฉบับวันที่ 12 สิงหาคม 2555 ได้พาดหัวข่าวหน้า 1 ว่า สังคมแอลเอเครียด “ทักษณ” เปิดปราศรัย 12 สิงหา รายงานถึงการเดินทางมาปราศรัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ไทยแลนด์พลาซา นครลอสแองเจลิส ซึ่งทำให้เกิดการเผิญหน้าหน้า ระหว่างคนเสื้อแดง กับคนเสื้อเหลืองในพื้นที่
**ประจานสหรัฐละเมิดส่งผู้ร้ายข้ามแดน
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics) กล่าวว่า ปรากฏการณ์ที่กลุ่มพันธมิตรฯและประชาชนคนไทย ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ ในหลายๆเมือง ออกมาต่อต้านการเดินทางเข้าสหรัฐฯของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่อยู่ระหว่างหลบหนีคำพิพากษา และหมายจับของศาลไทยนั้น นอกจากจะเป็น Social sanctions หรือมาตรการลงโทษทางสังคม เพื่อปกป้องระบบยุติธรรมไทยแล้ว ยังถือเป็นการประจานทางการสหรัฐฯ ที่ละเมิดสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ที่ลงนามไว้กับปะเทศไทย ให้ประชาคมโลกได้เห็นธาตุแท้และพฤติกรรมของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ไม่เคารพข้อตกลง แต่บีบให้ประเทศคู่ตกลง ปฏิบัติแต่เพียงฝ่ายเดียว
"คงต้องยอมรับความจริงกันว่า มาตรการทางสังคมยังจะปรากฎให้เห็นไปเรื่อยๆ จนกว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และเข้ามารับโทษตามคำพิพากษาของศาล สังคมและประชาชนทั่วไปต้องขอบคุณคนไทยในสหรัฐฯ ที่ออกมาแสดงพลังให้โลกรู้ว่า ข้อเท็จจริงคืออะไร เพราะมีความพยายามบิดเบือนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ โดนคดีการเมือง ทั้งที่ความจริงคือ เป็นผู้ต้องหาและถูกพิพากษาในคดีอาญา"
นายสุริยะใส กล่าวด้วยว่า การเคลื่อนไหวของคนไทยในสหรัฐฯ เป็นการแสดงออกอย่างสันติ และที่ผ่านมา ก็มีการยื่นหนังสือขอคำชี้แจงจากสถานทูตสหรัฐฯ ในไทยและยื่นหนังสือถึงประธานาธิบดีโอบามา ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี แต่จนป่านนี้ก็ยังไม่มีคำชี้แจงจากทางการสหรัฐฯ ว่าทำไมปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าประเทศได้ การที่ทางการสหรัฐฯนิ่งเฉยและไม่ตอบคำถามทำให้คนไทยและประชาคมโลกตั้งข้อสงสัยได้ว่า มีเรื่องผลประโยชน์ด้านพลังงานและการทหารในภูมิภาคเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งสื่อมวลชนสหรัฐฯ เริ่มตั้งข้อสังเกตในประเด็นนี้แล้ว
ปรากฎการณ์นี้ไม่ใช่แค่ปมปัญหาของคนไทย แต่ได้ยกระดับเป็นปัญหาระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ที่มีสนธิสัญญาที่ถือปฏิบัติกันมานาน แต่วันนี้สนธิสัญญาเหลืองเพียงเศษกระดาษ ไม่มีความหมายอีกต่อไป เจตนารมย์ของกฎหมายเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ตามความพอใจของคนมีอำนาจ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือในข้อตกลงอื่นๆ ที่สหรัฐฯ บีบให้ประเทศต่างๆ ลงนาม
ส่วนบทบาทและความรับผิดชอบของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ นั้น ก็รู้เห็นเป็นใจ ไม่ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งเข้าข่ายจงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กรณีนี้ปลายสัปดาห์นี้ กลุ่มกรีน (Green Politics) จะไปยื่นเรื่องกล่าวโทษต่อ ป.ป.ช. ตั้งแต่ นายกฯ รมว.ต่างประเทศ อัยการสูงสุด และ ผบ.ตร. ที่เพิกเฉยไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย.