“สุริยะใส” อัดสหรัฐฯ เห็นแก่ผลประโยชน์ในภูมิภาค ให้ “ทักษิณ” เข้าประเทศ ละเมิด พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน หยามระบบยุติธรรมไทย ย้อนทูตตัวเองเคยรายงาน “แม้ว” ละเมิดสิทธิมนุษยชน ยกกรณี “วิคเตอร์ บูท” ไทยเคารพ กม. ระบุ “ยิ่งลักษณ์-สุรพงษ์-อสส.” ต้องถูกดำเนินคดีฐานละเว้นฯ พร้อมเรียกร้องที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาปกป้องอำนาจอธิปไตยศาลไทย
วันนี้ (8 ส.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ระบุถึงการที่สหรัฐฯ ได้ออกวีซ่าให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เดินทางเข้าสหรัฐฯ ซึ่งในขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณได้พำนักอยู่ที่สหรัฐฯ เรียบร้อยแล้วนั้น พฤติกรรมของสหรัฐฯ ครั้งนี้เป็นการละเมิด พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่ไทยกับสหรัฐฯ ลงนามกันและประกาศใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 และเรายังลงนามกับสหรัฐฯ ในสนธิสัญญาว่าด้วยการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในทางอาญาอีกฉบับด้วย ซึ่งผลของสนธิสัญญาทั้ง 2 ฉบับนั้น ทางการไทยเคารพและปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและเป็นไปอย่างมหามิตรที่ดีต่อกันยาวนาน เช่น กรณีที่ทางการไทยส่งตัวนายฮัมบาลี ผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายนายวิคเตอร์ บูท พ่อค้าอาวุธชาวรัสเซียไปดำเนินคดีที่สหรัฐฯ
นายสุริยะใสระบุต่อว่า โดยเฉพาะกรณีนายวิคเตอร์ บูท ที่เรียกกันว่าพ่อค้าความตาย และรู้จัก พ.ต.ท.ทักษิณเป็นอย่างดีนั้น ทางการไทยถูกกดดันจากสหรัฐฯ ทุกรูปแบบและส่งคนมาประกบการทำงานของเจ้าหน้าที่ไทยเพื่อให้ส่งตัวไปยังสหรัฐฯ ไทยยื้ออยู่พักหนึ่งก็ต้องยอมในที่สุด สร้างความไม่พอใจแก่รัสเซียเป็นอย่างมาก นายกษิตย์ ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศในขณะนั้นถึงต้องเดินทางไปทำความเข้าใจกับทางการรัสเซีย
นายสุริยะใสระบุต่อว่า ในส่วนของสหรัฐฯ ก็เคยให้ความร่วมมือกรณีนายทนง ศิริปรีชาพงษ์ หรือ ป.เป็ด อดีต ส.ส.นครพนม สหรัฐฯ ก็เคยส่งตัวกลับมาให้ไทยดำเนินคดีมาแล้ว แต่กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ศาลอาญาแผนกคดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ตัดสินเป็นที่สุดให้ลงโทษจำคุก 2 ปีแล้ว สหรัฐฯ ย่อมไม่มีเงื่อนไขข้ออ้างข้อสงสัยใดๆ ในการจับกุมตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ทันทีที่เดินทางเข้าสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศมีมาตรการตรวจคนเข้าเมืองเข้มข้น ดำเนินการตามสนธิสัญญาควบคุมตัวส่งมาให้ไทยลงโทษตามคำพิพากษาของศาล การที่สหรัฐฯ เพิกเฉยก็เท่ากับเป็นการฉีกพันธสัญญาและละเมิดข้อตกลงเป็นพฤติกรรมเขียนด้วยมือลบด้วยเท้า และยังถือเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามระบบยุติธรรมของไทยอย่างรุนแรง ซึ่งรัฐบาลน้องสาวคบคิดและรู้เห็นเป็นใจคงคาดหวังอะไรไม่ได้ ทั้งนายกฯ ยิ่งลักษณ์ รมว.ต่างประเทศ อัยการสูงสุด ที่มีหน้าที่ตาม พ.ร.บ.นี้ จะต้องถูกดำเนินคดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
นายสุริยะใสได้ระบุต่อว่า จึงอยากเรียกร้องให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาควรจะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อเป็นการปกป้องระบบยุติธรรมไทย เพราะครั้งนี้สหรัฐฯ ได้ท้าทายอธิปไตยทางศาลของไทยอย่างรุนแรง ทั้งนี้ สหรัฐฯ เองก็รู้ดีว่าในสมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯ ได้มีการละเมิดสิทธมนุษยชนอย่างรุนแรง สถานทูตสหรัฐฯ ในไทยก็เคยรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในยุคนั้นว่านโยบายทำสงครามกับยาเสพติดทำให้เกิดการฆ่าตัดตอนเป็นนโยบายที่ล้มเหลว และมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง
นายสุริยะใสระบุต่ออีกว่า พฤติกรรมเขียนด้วยมือลบด้วยเท้าของสหรัฐฯ ครั้งนี้ก็เพื่อผลประโยชน์ในการขยายอำนาจของสหรัฐฯ ผ่านรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นผลประโยชน์ด้านพลังงาน และการทหาร วันนี้รัฐบาลยิ่งลักษณ์จึงมิใช่แค่เป็นอมินี พ.ต.ท.ทักษิณเท่านั้น แต่ทำตัวเป็นนอมินีของกลุ่มทุนสามานย์จากสหรัฐฯ อีกด้วย