xs
xsm
sm
md
lg

"เต้น"โทษวิกฤติยูโรทำราคายางดิ่ง ขอเวลาอยู่ต่อ-ไม่เคยพูดกก.ละ120

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวานนี้ (9ส.ค.) นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กระทู้ถามนายกรัฐมนตรี เรื่องปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ว่า ขณะนี้เกษตรกรชาวสวนยางพารากำลังได้รับความเดือดร้อน จากปัญหาราคายางพาราตกต่ำอย่างหนัก ขณะที่ตอนที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯ เข้ารับตำแหน่งใหม่ๆ ประกาศจะเร่งแก้ไขปัญหาราคายางพาราให้ได้ กิโลกรัมละ 120 บาท โดยเร็ว แต่เมื่อเข้ามาทำงานได้สร้างความหายนะให้กับเกษตรกรอย่างมาก เพราะขณะนี้ล่าสุด ราคายางที่ จ.ตรัง อยู่ที่ กก.ละ 70-75 บาท และ ตลอด 8 เดือนที่ผ่านมาไม่มีวันไหนที่ราคายางขึ้นถึง 120 บาท ถือว่าที่พูดไปคือ คำมั่นสัญญา ประชาชนให้เวลามากพอสมควรแล้ว วันนี้จึงมาทวงถามว่า เมื่อทำตามสัญญาไม่ได้ จะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตร ชี้แจงว่า ตนไม่ได้เป็นคนประกาศว่า จะทำราคายางให้ได้ กิโลกรัมละ120 บาท แต่เป็นเพราะก่อนที่ตนจะมารับตำแหน่ง โดยราคายางมีปัญหาตกต่ำมาในยุครัฐบาลประชาธิปัตย์อยู่แล้ว และมีการชุมนุมเรียกร้องของเกษตรกร ที่จ.สงขลา ในเดือนธ.ค. 54 โดย มีตัวแทนเสนอให้รัฐบาลออกโครงการมาช่วยเหลือ โดยให้มีเป้าหมายที่ 120 บาท และเสนอต่อครม. ในวันแรกที่ตนมารับหน้าที่รมต. จึงไม่ใช่เรื่องว่า ตนมาแล้วประกาศจะเสกราคาเท่านั้นเท่านี้
ส่วนปัญหาราคายางมีการลดลงอย่างต่อเนื่อง ทางรัฐบาลก็กำลังขับเคลือนมาตรการ ต่างๆ อยู่ โดยมีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นระยะๆ ซึ่งตนได้กำชับให้ขยายจุดรับซื้อ ทำความเข้าใจกับเกษตรกร และอำนวยความสะดวกให้เข้าถึงโครงการ และยังใช้กลไกความร่วมมือ 3 ประเทศ อินโดนีเชีย มาเลเซีย ไทย ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บุกเบิกไว้ โดยทางผู้นำอินโดฯ ก็ตระหนักถึงสถานการณ์เช่นกัน กำลังอยู่ระหว่างทำข้อตกลงคาดว่า จะมีคำตอบในเร็ววันนี้ ยืนยันว่า ตนทำทุกอย่าง ใช้กลไก เครื่องมือ ให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ก็ต้องพยายามกันต่อไป หวังทุกฝ่ายที่ดูแลบ้านเมือง อยู่จะได้ร่วมมือกันต่อไป
นพ.สุกิจ กล่าวต่อว่า ในยุคพวกตน ถ้าเกิดปัญหาเช่นนี้ประชาชนออกมาขอให้ยุบสภา เพราะถ้าปล่อยให้ทำงานต่อไปประเทศจะเสียรายได้ปีละ 1 แสนล้านบาท เมื่อเทียบกับาคา 120 บาท ที่สัญญาไว้ ในยุครัฐบาลประชาธิปัตย์ มีปัญหาราคาตกต่ำกิโลกรัมละ 83บาท แต่ก็แก้ไขได้จนขึ้นไปถึง 180 บาท นายณัฐวุฒิจะมาตอบแบบแถลงนโยบายไม่ได้ ประชาชนไม่ยอมแล้ว มีการปิดถนนมากี่ครั้งแล้ว แต่ก็แก้ปัญหาไม่ได้ ไม่รู้อนาคตจะเกิดอะไรอีกบนถนน แต่คิดว่า รมช.เกษตรฯ คงไม่กลัวเพราะชอบการเมืองบนถนนอยู่แล้ว และเมื่อวันที่ 16 ก.ค. ทาง ครม.มีมติพยุงราคายาง โดยนายณัฐวุฒิ ให้สัมภาษณ์ว่า อีกสองวันราคายางต้องขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 100 บาท แต่ผ่านไปเกือบเดือนแล้วก็ยังไม่ถึง เมื่อวิธีการล้มเหลว ยังจะต้องถมเงินไปอีกหรือไม่ ถ้ายืนยันว่าไม่ลาออกแล้วมีอะไรเด็ดอีก ขอให้ตอบให้เป็นรูปธรรมว่า จะทำอะไร เดือนไหน และจะส่งผลอย่างไร
นายณัฐวุฒิ ตอบอีกครั้งว่า ที่ตนประกาศว่าราคายางจะต้องขึ้นเป็นกิโลกรัมละ100 บาท ภายในสองวัน หมายถึงราคายางในโครงการ ตั้งแต่วันประกาศมาถึงขณะนี้ ซื้อเข้ามาแต่ละวันหลายพันตัน ที่บอกรัฐบาลก่อนสามารถทำตัวเลขสูงสุดอยู่ที่180บาท ไม่ได้อยู่ท่ามกลางบรรยากาศเศษฐกิจยูโรวิกฤติเหมือนขณะนี้ และยังใช้เวลาถึง 24 เดือน แต่ละเวลาสถานการณ์การปัจจัยแวดล้อมแตกต่างกัน จำเป็นต้องเวลาแก้ไขสถานการณ์ ซึ่งตนทุ่มเทสุดกำลัง ที่จะทำและจะมีการประเมินสถานการณ์ต่อครม. หากไม่ดีก็จำเป็นต้องกำหนดมาตรการเพิ่มเติมต่อไป
ด้าน นพ.สุกิจ กล่าวต่อว่า นายณัฐวุฒิ กล่าวโทษเป็นเพราะปัญหาวิกฤตยูโรโซน แต่นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีคลัง กลับยืนยันปัญหาวิกฤตยูโร ไม่กระทบกับประเทศไทย ไม่รู้ว่าใครพูดโกหก และที่บอกว่า ซื้อไปหลายพันตัน แต่กลับเอาไปดองไว้ และเกษตรกรรายย่อยส่วนใหญ่กลับไม่ได้ราคา 100 บาท ในโครงการด้วย ดังนั้นต้องทำอะไรให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะตลาดรายใหญ่อย่างจีน ที่เรากำลังสูญเสียไปมีการไปดูแลหรือไม่ หรือ ตลาดใหม่อย่างอินเดีย ไปดูหรือไม่ ตนยืนยันได้ว่าตลาดจีนไม่ได้มีการรับซื้อยางลดน้อยลงเลย เพราะ ผอ.องค์การสวนยางบอกสต๊อกยางในจีน เริ่มหมดแล้วแต่ต้องไปซื้อในอินโดฯ เพราะอะไร
“รมว.เกษตรฯขอเวลาทำงาน ประชาชนอาจจะให้เวลาท่าน แต่ต้องบอกมาว่า ขอทำงานอีกสักเท่าไหร่ให้ได้กิโลกรัมละ 120 บาท ถึงเวลานั้นต้องลาออกจากตำแหน่งไป”
ขณะที่นายณัฐวุฒิ ชี้แจงว่า สำหรับตลาดจีน และอินเดีย ตนกำลังประสานงานอยู่ ล่าสุดมีการส่ง ผอ.องค์การสวนยางไปหารือหาช่องทาง และทางจีนได้มาพบหารือกับตน ตลาดอื่นๆก็เช่นกัน ทุกอย่างกำลังเดินหน้า ส่วนเกษตรกรย่อยตนก็เป็นห่วง และใช้อำนาจประธานนโยบายขยายการคลอบคุมไปเกษตรกรรายย่อย เดิมครม.ให้เฉพาะนิติบุตคล ตนเห็นว่าจำกัดวงแคบ ห่วงเกษตรกรย่อยจะเข้าไม่ได้ เรียกประชุมกก.บริการโครงการและมีมติที่ประชุมเห็นชอบให้ขยายคลอบคุมไปถึงเกษตรกรรายย่อยด้วย เพียงสมัครเป็นสมาชิกสมทบของสถาบันเกษตรกร จะเร่งรัดทำสรรพกำลังให้เร็วที่สุด แต่อย่าให้บอกว่าจะทำได้ภายในกี่วัน
กำลังโหลดความคิดเห็น