นครศรีธรรมราช - แกนนำชาวสวนยางใน อ.ทุ่งใหญ่ ยืนยันต้องร่วมหารือทิศทางความเคลื่อนไหวในเรื่องราคายางพารา คาดวันพฤหัสบดีนี้จะได้ข้อสรุปชัดเจน ด้าน ผอ.ตลาดกลางเผย ราคาตกต่อเนื่องจากปัจจัยภายนอกประเทศ เศรษฐกิจยูโรโซนตกต่ำ และจีนมีภาวะจีดีพีชะลอตัว
นายวิรัตน์ เหมทานนท์ นายก อบต.ปริก อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ในฐานะแกนนำเกษตรกรชาวสวนยางพาราในพื้นที่ อ.ทุ่งใหญ่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ ต้องรอความชัดเจนอย่างเป็นทางการจาก ครม.ว่าจะดำเนินการแก้ไขปัญหาราคายางพาราอย่างไร ใช้วิธีการแบบไหนที่จะถึงมือเกษตรกรได้อย่างทั่วถึง ประเด็นทั้งหมดจะต้องนำไปร่วมกันหารือกับผู้นำกลุ่มต่างๆ และเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา เพื่อกำหนดทิศทางว่า ชาวสวนยางจะมีจุดยืนกันอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วทั้งหมดจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
“เข้าใจว่ามติ ครม.ที่ชัดๆ จะออกมาในเย็นวันนี้ (17 ก.ค.) หลังจากนั้น จะมีการหารือกัน คาดว่า ข้อสรุปในส่วนของกลุ่มสวนยางนครศรีธรรมราชจะออกมาในวันพฤหัสนี้ ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด รับได้หรือไม่กับการแก้ไขปัญหาของ ครม.” นายวิรัตน์กล่าว
ส่วนภาพรวมในวันนี้ (17 ก.ค.) เกษตรกรชาวสวนยางพารายังคงกรีดยาง และนำมาทำเป็นยางแผ่นดิบเก็บสะสมไว้ในกงสีเก็บยางพารา เพื่อรอให้ราคาผลผลิตดีขึ้นแล้วจึงจะนำออกขายให้แก่พ่อค้าคนกลาง เนื่องจากราคาในขณะนี้ ยังคงตกต่ำอย่างต่อเนื่อง วันนี้มีราคารับซื้อเพียงกิโลกรัมละ 82 บาทเท่านั้น ขณะที่ชาวสวนยางพาราบางรายยังต้องนำยางออกมาขายแม้ว่ายางพาราจะมีราคาตกต่ำก็ตาม
นางสุรันต์ คำณวนจิต อายุ 59 ปี เกษตรกรชาวสวนยางพาราใน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ด้วยราคายางที่ตกต่ำในขณะนี้ ทำให้รายได้ไม่พอกับรายจ่าย รายได้จากยางพารามีราคาตกต่ำ ในขณะที่รายจ่ายมีมาก ทำให้มีความลำบากในเรื่องนี้
“ราคายางที่เหมาะสมควรจะอยู่ที่ 120 บาท วันนี้ กำลังติดตามเรื่องการประชุม ครม.ในเรื่องยางพาราว่าจะมีผลออกมาอย่างไร กำลังคาดหวังว่า ราคายางจะถูกปรับให้ดีขึ้น” นางสุรันต์ กล่าว
ส่วนความเคลื่อนไหวของเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพารานครศรีธรรมราช ในแถบอำเภอทุ่งใหญ่ อำเภอบางขัน อำเภอฉวาง อำเภอนาบอน อำเภอถ้ำพรรณรา และอำเภอทุ่งสง ได้เริ่มมีการประสานงานเพื่อจะรวมตัวกันอีกครั้ง โดยปฏิเสธแกนนำในการชุมนุมชุดที่ผ่านมา เนื่องจากมีข้อสงสัยในบางประการ โดยเฉพาะเรื่องของการนำเอาการเมืองมาเกี่ยวข้อง และหากมติ ครม.ออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจ เกษตรกรเหล่านี้ที่ร่วมกันเสนอยืนยันราคาไว้ที่ 120 บาท จะออกมารวมตัวกันเคลื่อนไหวอีกครั้ง
ด้าน นายสุวิทย์ รัตนพันธ์ ผู้อำนวยการตลาดกลางยางพารานครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ราคายางวันนี้อยู่ที่ 80 บาทเศษ ยางรมควันอยู่ที่ 93 บาท ยังไม่มีปัจจัยใดๆ มาบวกที่จะทำให้ราคายางดีขึ้นมากกว่านี้ นอกจากแนวนโยบายของ ครม.ที่อาจจะเป็นบวกทำให้ราคายางขยับสูงขึ้น
“แนวโน้มราคายางอันเนื่องมาจากเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ดีขึ้น ทั้งในส่วนของอเมริกา ยูโรโซน จีน โดยเฉพาะจีนนั้น กำลังชะลอตัว การคาดหมายจีดีพีที่ 9.2 กลับลดลงเหลือที่ 8.2 และในไตรมาสที่ผ่านมา เหลือแค่ 6 เปอร์เซ็นต์เศษเท่านั้น หลักจริงๆ ที่ทำให้ราคายางตกต่ำคือ มาจากปัจจัยภายนอกประเทศ ราคายางในระดับปัจจุบันนั้น เข้าใจว่ายังพออยู่ได้ เนื่องจากที่ผ่านมา ได้มีการคาดหวังสูง ด้วยการการพูดเสมือนนโยบายที่จะทำราคาให้ถึง 120 บาท พอต่ำกว่ามากจึงมีแรงขับเคลื่อน” นายสุวิทย์กล่าว
นายสุวิทย์ยังสรุปด้วยว่า ในส่วนของปริมาณยางพาราที่เข้าสู่ตลาดกลางยางพารานครศรีธรรมราช วันนี้มีทั้งสิ้น 80 ตัน มีมูลค่าการซื้อขายประมาณ 7 ล้านบาทเศษ ซึ่งเป็นปริมาณยางที่เข้าสู่ตลาดน้อยลง
นายวิรัตน์ เหมทานนท์ นายก อบต.ปริก อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ในฐานะแกนนำเกษตรกรชาวสวนยางพาราในพื้นที่ อ.ทุ่งใหญ่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ ต้องรอความชัดเจนอย่างเป็นทางการจาก ครม.ว่าจะดำเนินการแก้ไขปัญหาราคายางพาราอย่างไร ใช้วิธีการแบบไหนที่จะถึงมือเกษตรกรได้อย่างทั่วถึง ประเด็นทั้งหมดจะต้องนำไปร่วมกันหารือกับผู้นำกลุ่มต่างๆ และเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา เพื่อกำหนดทิศทางว่า ชาวสวนยางจะมีจุดยืนกันอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วทั้งหมดจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
“เข้าใจว่ามติ ครม.ที่ชัดๆ จะออกมาในเย็นวันนี้ (17 ก.ค.) หลังจากนั้น จะมีการหารือกัน คาดว่า ข้อสรุปในส่วนของกลุ่มสวนยางนครศรีธรรมราชจะออกมาในวันพฤหัสนี้ ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด รับได้หรือไม่กับการแก้ไขปัญหาของ ครม.” นายวิรัตน์กล่าว
ส่วนภาพรวมในวันนี้ (17 ก.ค.) เกษตรกรชาวสวนยางพารายังคงกรีดยาง และนำมาทำเป็นยางแผ่นดิบเก็บสะสมไว้ในกงสีเก็บยางพารา เพื่อรอให้ราคาผลผลิตดีขึ้นแล้วจึงจะนำออกขายให้แก่พ่อค้าคนกลาง เนื่องจากราคาในขณะนี้ ยังคงตกต่ำอย่างต่อเนื่อง วันนี้มีราคารับซื้อเพียงกิโลกรัมละ 82 บาทเท่านั้น ขณะที่ชาวสวนยางพาราบางรายยังต้องนำยางออกมาขายแม้ว่ายางพาราจะมีราคาตกต่ำก็ตาม
นางสุรันต์ คำณวนจิต อายุ 59 ปี เกษตรกรชาวสวนยางพาราใน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ด้วยราคายางที่ตกต่ำในขณะนี้ ทำให้รายได้ไม่พอกับรายจ่าย รายได้จากยางพารามีราคาตกต่ำ ในขณะที่รายจ่ายมีมาก ทำให้มีความลำบากในเรื่องนี้
“ราคายางที่เหมาะสมควรจะอยู่ที่ 120 บาท วันนี้ กำลังติดตามเรื่องการประชุม ครม.ในเรื่องยางพาราว่าจะมีผลออกมาอย่างไร กำลังคาดหวังว่า ราคายางจะถูกปรับให้ดีขึ้น” นางสุรันต์ กล่าว
ส่วนความเคลื่อนไหวของเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพารานครศรีธรรมราช ในแถบอำเภอทุ่งใหญ่ อำเภอบางขัน อำเภอฉวาง อำเภอนาบอน อำเภอถ้ำพรรณรา และอำเภอทุ่งสง ได้เริ่มมีการประสานงานเพื่อจะรวมตัวกันอีกครั้ง โดยปฏิเสธแกนนำในการชุมนุมชุดที่ผ่านมา เนื่องจากมีข้อสงสัยในบางประการ โดยเฉพาะเรื่องของการนำเอาการเมืองมาเกี่ยวข้อง และหากมติ ครม.ออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจ เกษตรกรเหล่านี้ที่ร่วมกันเสนอยืนยันราคาไว้ที่ 120 บาท จะออกมารวมตัวกันเคลื่อนไหวอีกครั้ง
ด้าน นายสุวิทย์ รัตนพันธ์ ผู้อำนวยการตลาดกลางยางพารานครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ราคายางวันนี้อยู่ที่ 80 บาทเศษ ยางรมควันอยู่ที่ 93 บาท ยังไม่มีปัจจัยใดๆ มาบวกที่จะทำให้ราคายางดีขึ้นมากกว่านี้ นอกจากแนวนโยบายของ ครม.ที่อาจจะเป็นบวกทำให้ราคายางขยับสูงขึ้น
“แนวโน้มราคายางอันเนื่องมาจากเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ดีขึ้น ทั้งในส่วนของอเมริกา ยูโรโซน จีน โดยเฉพาะจีนนั้น กำลังชะลอตัว การคาดหมายจีดีพีที่ 9.2 กลับลดลงเหลือที่ 8.2 และในไตรมาสที่ผ่านมา เหลือแค่ 6 เปอร์เซ็นต์เศษเท่านั้น หลักจริงๆ ที่ทำให้ราคายางตกต่ำคือ มาจากปัจจัยภายนอกประเทศ ราคายางในระดับปัจจุบันนั้น เข้าใจว่ายังพออยู่ได้ เนื่องจากที่ผ่านมา ได้มีการคาดหวังสูง ด้วยการการพูดเสมือนนโยบายที่จะทำราคาให้ถึง 120 บาท พอต่ำกว่ามากจึงมีแรงขับเคลื่อน” นายสุวิทย์กล่าว
นายสุวิทย์ยังสรุปด้วยว่า ในส่วนของปริมาณยางพาราที่เข้าสู่ตลาดกลางยางพารานครศรีธรรมราช วันนี้มีทั้งสิ้น 80 ตัน มีมูลค่าการซื้อขายประมาณ 7 ล้านบาทเศษ ซึ่งเป็นปริมาณยางที่เข้าสู่ตลาดน้อยลง
