xs
xsm
sm
md
lg

“เต้น-ณัฐวุฒิ” ส่อหนีเผชิญหน้าชาวสวนยางเหนืออีก หลังราคาร่วงไม่หยุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พิษณุโลก - สกย.เมืองสองแคว เตรียมเปิดเวทีประชุมเครือข่ายชาวสวนยาง 17 จังหวัดเหนือ ร่อนหนังสือเชิญ “เต้น-ณัฐวุฒิ” ร่วมงาน แต่ล่าสุดอาจต้องเลื่อนหลัง รมช.เกษตรฯ-แกนนำเสื้อแดง ยังไม่ยอมยืนยันเข้าร่วมหรือไม่ ท่ามกลางปัญหาราคายางพาราตกต่ำ

รายงานข่าวจากจังหวัดพิษณุโลกแจ้งว่า ในช่วงที่มีปัญหาราคายางพาราตกต่ำอยู่นั้น เบื้องต้นในวันที่ 25 ก.ค. 55 ทางสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางจังหวัดพิษณุโลก (สกย.) จะจัดประชุมเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางภาคเหนือ 17 จังหวัด รวม 670 คน ที่โรงแรมอมรินทร์ ลากูน โดยเชิญนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาร่วมเปิดงานนั้น

แต่ล่าสุดมีการเปลี่ยนแปลง อาจเลื่อนออกไปก่อนเพราะยังไม่มีหนังสือยืนยันจากสำนักงานใหญ่ สกย. ขณะนี้จึงยังไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้

ด้านนายสมศักดิ์ ทองศิริ ประธานเครือข่ายยางพาราจังหวัดพิษณุโลก และรองประธานเครือข่ายยางพาราภาคเหนือตอนล่าง เปิดเผยว่า กรณีราคายางพาราตกต่ำ ขณะนี้เกษตรกรสวนยางจังหวัดพิษณุโลกและภาคเหนือตอนล่างก็กระทบเช่นกัน เพราะราคาขนาดนี้อยู่ไม่ได้ ต้องเกิน 100 บาทขึ้นไป แต่คำว่าประท้วงเหมือนภาคใต้นั้นขณะนี้คงยังไม่ถึงเวลา

เขาประเมินว่า เหตุการณ์ประท้วงราคายางตกต่ำทางภาคใต้เพราะชาวบ้านต่างคนต่างอยู่ ไม่ได้รวมตัวในรูปสหกรณ์ หรือสมาชิกองค์กรนิติ เป็นนิติบุคคล และค่าครองชีพที่สูง ราคายางต่ำ 100 บาทอยู่ไม่ได้แน่ เพราะข้าว (หอมมะลิ) ต้องซื้อ ผักต้องส่งจากภาคเหนือ ที่สำคัญภาคใต้เป็นเมืองท่องเที่ยว ค่าครองชีพสูง อีกทั้งสาเหตุที่ยางพาราต่ำก็เพราะไทยทำสัญญาซื้อขายยางพาราล่วงหน้าราคาถูกกับประเทศจีน ทำให้กดราคายางไม่ให้สูงขึ้นซึ่งควรเปิดเผยข้อมูล ประกอบกับเศรษฐกิจกลุ่มยุโรปไม่ดี ทำให้ราคายางตกต่ำ

นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า รัฐบาลอย่าให้ยางพาราต่ำกว่า 100 บาท ต้องประกันให้ถึง 120 บาท พวกชาวสวนยางกำลังเฝ้าดูแนวทางแก้ปัญหา 1-2 วันนี้ ส่วนการประท้วงจะเกิดขึ้นในพิษณุโลกหรือภาคเหนือตอนล่าง คิดว่าไม่น่าใช่ หลังจากพูดคุยกับชาวสวนยาง อ.นครไทย ถึงการปิดถนน คิดว่าไม่น่าเกิดเพราะยังไม่ถึงเวลา อีกทั้งคนพิษณุโลกจะต้องพูดคุยกันก่อน อาจส่งตัวแทน 4-5 คนทำหนังสือยื่นไปที่จังหวัดก็พอแล้ว

“ราคายางแผ่น 90 บาท คนใต้อยู่ไม่ได้แน่ๆ เพราะเจ้าของได้ส่วนแบ่งแค่ 45 บาทก็ไม่คุ้ม เพราะต้องลงแรงทำเป็นแผ่นหลายขั้นตอน ส่วนยางก้นถ้วย (ขี้ยาง) แบ่งแล้วก็เหลือ 20 บาท ถือว่าเลวร้ายไปอีก เพราะคุณภาพขี้ยางทางภาคใต้ถือว่าด้อยคุณภาพมาก สิ่งเจือปนเยอะ เสียเปรียบพ่อค้ารับซื้อ”

ส่วนราคายางก้นถ้วย (ขี้ยาง) พิษณุโลกคุณภาพดีสิ่งเจอปนน้อย ทำให้ประมูลขายได้ราคาสูงถึง 47.59 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นผลจากชาวบ้านรวมตัวเป็นสมาชิกในรูปนิติบุคคลนำขี้ยางมาขายประมาณ 43 บาทเพื่อรวบรวมขี้ยางเป็นล็อตใหญ่ จากนั้นจึงเรียกพ่อค้ามาประมูลราคา ทำให้ราคาขี้ยางสูงถึง 47 บาท ถ้าหากนำไปขายองค์การสวนยาง (อสย.พิษณุโลก) ก็ยังได้ราคาเพิ่มอีก 0.50 บาท นับว่าราคาสูงกว่าราคายางทางภาคใต้ที่ขายขี้ยางได้ประมาณ 35-36 บาท ส่วนราคายางแผ่นดิบรมควันต้องยอมรับ ราคายางที่ภาคใต้ราคาดีกว่าเพราะใต้เป็นแหล่งรับ อีกทั้งผลิตผลสวนยางทางภาคเหนือจะต้องถูกหักค่าขนส่งเล็กน้อย ประมาณ 3 บาท จากราคากลางหาดใหญ่

อย่างไรก็ตาม ขณะที่ราคายางตกต่ำ เกษตรกรชาวสวนยางที่พิษณุโลก หรือภาคเหนือตอนล่างเริ่มเปลี่ยนวิธีไม่ทำยางก้นถ้วย หันมาลงทุนซื้อเครื่องตบและรีดร่วมๆ 5 หมื่นบาทในการทำยางแผ่นเก็บสต๊อกไว้ จะต้องทำเป็นแผ่นดินรมควันเก็บสต๊อกไว้ขายช่วงราคาดี ทั้งยังถือว่า ลดความเสี่ยงจังหวะราคายางตกต่ำด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น