xs
xsm
sm
md
lg

เอกสิทธิ์คือ 2 มาตรฐานของแท้ !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

00 ก็เป็นไปตามคาดหมายสำหรับการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้(กปต.) และต่อมาก้ได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศปก.จชต.) ขึ้นมาอีก ฟังแค่ชื่อก็ยาวเหยียดน่าเวียนหัว และเมื่อดูแนวทางการทำงาน ก็ดูแล้วยิ่งชวนหดหู่สำเร็จยาก เพราะเป็นลักษณะให้แต่ละกระทรวง แต่ละหน่วยงานต่างคนต่างทำ ไอ้ที่บอกว่าให้ทุกหน่วย “บูรณาการ” ร่วมกัน ประสานงานกัน ฝันไปเถอะชาติหน้าตอนบ่าย ประชุมให้เปลืองน้ำเปลืองไฟ ทำไมก็ไม่รู้ แค่สร้างภาพผู้นำให้กับ นายกฯปูนิ่ม ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้ดูเหมือนว่ามีความสนใจปัญหา แต่ขอโทษ ผ่านมาเกือบ 1 ปี ตัวนายกฯในฐานะผอ.กอ.รมน.มีอำนาจตามโครงสร้างใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่ม เคยกรีดกรายลงไปเฉียดในพื้นที่บ้างหรือไม่ หรือว่าสู้ ปารีส โตเกียวไม่ได้

00 ปัญหาชายแดนใต้ทั้งที่จริงแล้วการแก้ปัญหาไม่ต้องมีอะไรมากไปว่าต้องมี “เจ้าภาพ” ให้ชัดเจน ซึ่งโครงสร้างเดิมนั้น สามารถทำงานได้อยู่แล้ว ขาดแต่เพียงการประสานงาน ความเป็นเอกภาพอย่างแท้จริงเท่านั้น แต่ที่สำคัญต้องมีฝ่ายการเมืองที่มีประสิทธิภาพ จริงใจ นั่นคือ รัฐบาลต้องแต่งตั้งรัฐมนตรี หรือรองนายกฯ ที่รับมอบอำนาจโดยตรงให้มารับผิดชอบดูแลปัญหาชายแดนใต้โดยเฉพาะ “ทำหน้าที่ไม่ต่างจากนายกฯ” สั่งการได้ทุกหน่วยงานจะไปๆ มาๆหรือประจำที่ “ศูนย์อำนวยการ” ส่วนหน้าในพื้นที่ก็ได้ เอากันแบบเกาะติดให้รู้เรื่องไปเลย และคนที่มองดูแล้วเข้าท่าที่สุดนาทีนี้น่าจะเป็น พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา แต่ต้องให้อำนาจแท้จริง อย่าให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เข้ามาป่วนเป็นอันขาด การแก้ปัญหาชายแดนใต้ ไม่ต้องการพวก “แอ็กอาร์ต” จำไว้

00 ไม่อยากขัดคอ แต่ขอปรามาสไว้ล่วงหน้าว่า การตั้ง กตป.หรือ ศปก.จชต. ขึ้นมาใหม่ นั้นไม่มีอะไรน่าสนใจหรือเป็นความหวังใหม่ ให้กับการแก้ปัญหาได้เลย นอกจะสร้างความสับสนวุ่นวาย แย่งกันทำงาน แย่งกันเอาหน้า และที่สำคัญยิ่งไป “สร้างความรำคาญ” กับกองทัพที่ “หลังแอ่น” อยู่แล้ว ดังนั้นถ้าให้สรุปก็ต้องบอกว่าการตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมาดังกล่าว ก็เป็นเพียงแค่การให้ ตร.และฝ่ายปกครองที่เป็นคนของฝ่ายการเมือง พวกเด็กในบ้านเข้าไป “โชว์ออฟ” แทรกแซงบทบาทจากฝ่ายกองทัพมากขึ้น เท่านั้นเอง หนทางข้างหน้ายังมืดมน

00 ได้ยิน ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ไพร่พันธุ์ใหม่ ที่ดัดจริตพูดก่อนที่ศาลไต่สวนถอนประกันในคดีก่อการร้าย ว่า พร้อมยอมรับคำตัดสินทุกกรณี และไม่ใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครอง ก็พูดไปเรื่อย “เอาเท่โชว์” ชาวบ้านขบวนแห่เอาไว้ตลอดเวลา ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกแล้วว่า รธน.ฉบับที่กล่าวหาว่าเป็นของอำมาตย์นั่นแหละ “คุ้มกลาหัว” ให้อยู่แล้ว ถึงอย่างไรก็ต้องยื้อไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งศาลได้เลื่อนชี้ขาดเฉพาะ 5 ส.ส. ที่เป็นหัวโจกออกไปเป็นวันที่ 29 พ.ย. หลังปิดสภาโน่นแน่ะ เป็น ส.ส.มันดีอย่างนี้ไงละ อ้อแต่ถึงอย่างไรสำหรับหัวโจกที่ไม่ได้เป็น ส.ส. ก็เลื่อนการพิจารณาชี้ขาดในวันที่ 22 ส.ค. เนื่องจากต้องรอสอบสวนเพิ่มเติม ก็ไม่เป็นไร รออีกไม่กี่วัน ระหว่างนี้ก็นอนระทึกไปก่อนแล้วกัน

00 ถ้าจะว่าไปแล้ว การให้เอกสิทธิ์ ส.ส.ถือว่าเป็นการ “เอาเปรียบ” และนี่แหละคือ “2 มาตรฐาน” ของจริง อย่างที่พวก หัวโจกแดงเคยนำมาเป็นเครื่องมือปลุกระดมนั่นแหละ เพราะถ้าพิจารณาจากเจตนารมณ์ของกฎหมายดั้งเดิมแล้วต้องการป้องกัน ส.ส.ถูกกลั่นแกล้งโดยเฉพาะ ส.ส.ฝ่ายค้าน เช่น จะมีการซักฟอกตรวจสอบรัฐบาล อาจมีการกระซิบตำรวจมาจับกุม ส.ส.ปากกล้าคนนั้นไปขัง ปิดปากเอาไว้ก่อน จึงมีการกำหนดในภายหลังว่าทำไม่ได้ แต่นี่กลายเป็นธรรมเนียมพิลึกไปแล้ว ส.ส.โดนคดีฆ่าคนตาย เผาบ้านเผาเมือง คดีก่อการร้าย กลับมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวข้องกับการถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองตรงไหน ทุด !!
กำลังโหลดความคิดเห็น