กบง.ยอมลดอัตราเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ เบนซิน 91 ลิตรละ 40 สต. กลุ่มแก๊สโซฮอล์ 30 สต.เว้นอี 85 และดีเซล 30 สต. โดยเฉพาะเบนซิน 91 รัฐกลับมาอุ้มหวังเบรกราคา แต่ไร้ค่าหลังล่าสุดผู้ค้าสวนกระแส ประกาศปรับราคาทั้งเบนซิน 91 ดีเซลแล้วมีผลพรุ่งนี้
นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รมว.พลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน(กบง.)เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้ปรับลดอัตราการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของเบนซิน 91 ลง 0.40 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 โซฮอล์ 95 อี 20 และดีเซลลิตรละ 30 สตางค์ โดยส่วนของเบนซิน 91 ที่ลดลงมากนั้นเพื่อที่จะดูแลราคาขายปลีกไม่ให้กระทบประชาชนจากเดิมที่ไม่เคยปรับลดลงซึ่งหากครั้งนี้ไม่ลดจะทำให้ราคาขายปลีกเบนซิน 91 ขยับไปมาก
“การลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯครั้งนี้ส่งผลให้รายรับกองทุนน้ำมันฯติดลบวันละ 15 ล้านบาทหรือเฉลี่ย 500 ล้านบาทต่อเดือนจากเดิมที่ยังคงมีรายรับเป็นบวกอยู่ประมาณ 9 ล้านบาทต่อวัน โดยฐานะเงินกองทุนฯล่าสุดติดลบ 14,000 ล้านบาท”นายอารักษ์กล่าว
สำหรับการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันฯหลังการปรับลดจะเป็นดังนี้ เบนซิน 95 คงเดิมที่ 7.10 บาทต่อลิตร เบนซิน 91 จาก 7.10 บาทต่อลิตร เป็น 6.70 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 จาก 2.10 บาทต่อลิตรเป็น 1.80 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 จาก 0.50 บาทต่อลิตรเป็น 0.20 บาทต่อลิตร อี 20 จากชดเชยที่ 0.70 บาทต่อลิตรเป็นชดเชย 1 บาทต่อลิตร อี 85 คงเดิมชดเชยที่ 12.50 บาทต่อลิตร ขณะที่ดีเซลจากเดิมเก็บที่ 30สตางค์ต่อลิตรเป็นยกเว้นการจัดเก็บเหลือศูนย์
ทั้งนี้กบง.คงจะต้องติดตามราคาน้ำมันใกล้ชิดโดยเฉพาะส่วนของดีเซลนั้นยอมรับว่าหากราคาตลาดโลกสูงอีกก็อาจจะต้องใช้กลไกจากกองทุนน้ำมันฯดูแลเพื่อไม่ให้เกินระดับ 30 บาทต่อลิตรซึ่งขณะนี้กองทุนฯใช้เงินกู้ไปแล้ว 6,000 ล้านบาทแต่กรอบเงินกู้วางไว้ 30,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามคงตอบไม่ได้ว่าที่สุดแล้วจะให้ราคาดีเซลตรึงไว้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรได้นานแค่ไหนเพราะไม่ใช่หน้าที่ของตนเพียงลำพังที่จะพิจารณา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตามล่าสุดผู้ค้าน้ำมันได้แจ้งปรับขึ้นราคาเบนซิน 91 อีก 50 สตางค์ต่อลิตร และน้ำมันดีเซลอีก 36 สตางค์ต่อลิตร โดยมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาน้ำมันเบนซิน 91 จะอยู่ที่ 44.55 บาทต่อลิตร ซึ่งเป็นสถิติใหม่หลังจากที่เคยทำไว้สูงสุดที่ 44.34 บาทต่อลิตรเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2554 ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลจะขึ้นมาอยู่ที่ 29.99 บาทต่อลิตร
นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รมว.พลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน(กบง.)เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้ปรับลดอัตราการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของเบนซิน 91 ลง 0.40 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 โซฮอล์ 95 อี 20 และดีเซลลิตรละ 30 สตางค์ โดยส่วนของเบนซิน 91 ที่ลดลงมากนั้นเพื่อที่จะดูแลราคาขายปลีกไม่ให้กระทบประชาชนจากเดิมที่ไม่เคยปรับลดลงซึ่งหากครั้งนี้ไม่ลดจะทำให้ราคาขายปลีกเบนซิน 91 ขยับไปมาก
“การลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯครั้งนี้ส่งผลให้รายรับกองทุนน้ำมันฯติดลบวันละ 15 ล้านบาทหรือเฉลี่ย 500 ล้านบาทต่อเดือนจากเดิมที่ยังคงมีรายรับเป็นบวกอยู่ประมาณ 9 ล้านบาทต่อวัน โดยฐานะเงินกองทุนฯล่าสุดติดลบ 14,000 ล้านบาท”นายอารักษ์กล่าว
สำหรับการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันฯหลังการปรับลดจะเป็นดังนี้ เบนซิน 95 คงเดิมที่ 7.10 บาทต่อลิตร เบนซิน 91 จาก 7.10 บาทต่อลิตร เป็น 6.70 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 จาก 2.10 บาทต่อลิตรเป็น 1.80 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 จาก 0.50 บาทต่อลิตรเป็น 0.20 บาทต่อลิตร อี 20 จากชดเชยที่ 0.70 บาทต่อลิตรเป็นชดเชย 1 บาทต่อลิตร อี 85 คงเดิมชดเชยที่ 12.50 บาทต่อลิตร ขณะที่ดีเซลจากเดิมเก็บที่ 30สตางค์ต่อลิตรเป็นยกเว้นการจัดเก็บเหลือศูนย์
ทั้งนี้กบง.คงจะต้องติดตามราคาน้ำมันใกล้ชิดโดยเฉพาะส่วนของดีเซลนั้นยอมรับว่าหากราคาตลาดโลกสูงอีกก็อาจจะต้องใช้กลไกจากกองทุนน้ำมันฯดูแลเพื่อไม่ให้เกินระดับ 30 บาทต่อลิตรซึ่งขณะนี้กองทุนฯใช้เงินกู้ไปแล้ว 6,000 ล้านบาทแต่กรอบเงินกู้วางไว้ 30,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามคงตอบไม่ได้ว่าที่สุดแล้วจะให้ราคาดีเซลตรึงไว้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรได้นานแค่ไหนเพราะไม่ใช่หน้าที่ของตนเพียงลำพังที่จะพิจารณา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตามล่าสุดผู้ค้าน้ำมันได้แจ้งปรับขึ้นราคาเบนซิน 91 อีก 50 สตางค์ต่อลิตร และน้ำมันดีเซลอีก 36 สตางค์ต่อลิตร โดยมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาน้ำมันเบนซิน 91 จะอยู่ที่ 44.55 บาทต่อลิตร ซึ่งเป็นสถิติใหม่หลังจากที่เคยทำไว้สูงสุดที่ 44.34 บาทต่อลิตรเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2554 ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลจะขึ้นมาอยู่ที่ 29.99 บาทต่อลิตร