xs
xsm
sm
md
lg

ทูฟซูดทุ่มรับอุตฯรถพุ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน – อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสดใส “ทูฟ ซูด” ทุ่มสร้างห้องปฏิบัติการทดสอบยานยนต์แห่งใหม่ หวังรองรับศูนย์กลางของภูมิภาคและตลาดที่จะเติบโตเป็น 1.4 หมื่นล้านบาท ในปี 2560 สอดคล้องกับค่ายฮอนด้า ที่เริ่มเดินเครื่องฐานผลิตบิ๊กไบค์ในไทย หลังย้ายมาจากญี่ปุ่น แย้มปลายปีนี้ได้เห็นโมเดลใหม่แน่ ขณะที่ภาพรวมตลาดสองล้อคาดสิ้นปีทะลุ 2.15 ล้านคัน เฉพาะฮอนด้ากวาดไป 1.5 ล้านคัน

นายเดิร์ค เอเลอร์ส คณะกรรมการบริหาร ทูฟ ซูด เอจี ผู้ให้บริการรองรับธุรกิจต่างๆ ทั้งในด้านอุตสาหกรรม การคมนาคม และการให้การรับรองมาตรฐานระดับโลก TL9000 version 4.0, ISO 27001: 2005, JAZ-ANZ และ DAR จากประเทศเยอรมนี เปิดเผยว่า ตลอดทศวรรษที่ผ่านมาอุตสาหกรรมยานยนต์ในเอเชีย มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และไทยเป็นหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนที่สำคัญ โดยเป็นฐานการผลิตและส่งออกรถยนต์ รวมถึงชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ของโลก ขณะที่แนวโน้มอุตสาหกรรมในปัจจุบัน มุ่งเน้นไปที่เรื่องคุณภาพชิ้นส่วนและการควบคุมความปลอดภัย

“เพื่อตอบรับการทิศทางต่างๆ ดังกล่าว เราจึงตัดสินใจสร้างห้องปฏิบัติการทดสอบยานยนต์แห่งใหม่ในประเทศไทย นับว่าใหญ่ที่สุดในอาเซียนของทูฟ ซูด ซึ่งไม่เพียงรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ ยังจะทำให้ผู้ประกอบการ หรือผลิตชิ้นส่วนในภูมิภาคอาเซียน ไม่จำเป็นต้องส่งผลิตภัณฑ์ของตนไปทดสอบในยุโรป หรือต่างประเทศ ช่วยให้ลดค่าใช้จ่าย และประหยัดเวลา รวมถึงสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น”

นายณอน บอย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทูฟ ซูด พีเอสบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การลงทุนสร้างห้องปฏิบัติการแห่งใหม่ของทูฟ ซูด ทำให้มีพื้นที่ปฏิบัติการเพิ่มอีก 400 ตรม. ที่ครบครันด้วยอุปกรณ์อันทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องทดสอบการใช้งานของยาง, ความล้าจากการบิดของล้อ, เครื่องเร่งสภาวะอากาศแวดล้อม, ตู้จำลองสภาวะแวดล้อมขนาดใหญ่ และเครื่องทดสอบการสั่นสะเทือนพร้อมกับควบคุมอุณหภูมิ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยทูฟ ซูด สามารถรองรับลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ได้อย่างครบถ้วน

“จากผลการศึกษาล่าสุดโดย Frost & Sullivan ยักษ์ใหญ่ในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก ต่างยอมรับว่าประเทศไทยมีความเหมาะสม ที่จะเป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนา เพื่อการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์อันหลากหลาย โดยคาดว่าตลาดแห่งนี้จะมีอัตราการเติบโต 6.3% ต่อปี ไปอยู่ที่ 450 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.395 หมื่นล้านบาท ในปี 2560 ซึ่งถือเป็นโอกาสที่เปิดกว้างสำหรับเรา ที่จะรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยต์ในไทยและภูมิภาคอาเซียน”

ทั้งนี้แนวโน้มการประเมินดังกล่าว สอดคล้องกับความเคลื่อนไหวล่าสุดของอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทย เมื่อเอเชียน ฮอนด้า สำนักงานใหญ่ในประเทศไทย ได้มีการลงทุนย้ายไลน์ผลิตเครื่องยนต์อเนกประสงค์ จากโรงงานไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง ที่ลาดกระบัง ไปยังโรงงานแห่งใหม่บริเวณติดๆ กัน เพื่อปรับปรุงไลน์ผลิตเดิมรองรับการเปิดไลน์ผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ หรือบิ๊กไบค์ ซึ่งฮอนด้าเรียกโครงการโกลบอลโมเดล เพื่อผลิตรองรับทำตลาดในไทยและส่งออกทั่วโลก

นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า ตอนนี้โครงการย้ายฐานการผลิตรถขนาดใหญ่จากญี่ปุ่นมาไทย ได้เดินหน้าเต็มรูปแบบแล้ว เพราะการย้ายไลน์ผลิตเครื่องยนต์อเนกประสงค์ออกไป จะทำให้ฮอนด้าในไทย มีไลน์การผลิตรถขนาดใหญ่สมบูรณ์ และเป็นไลน์การผลิตที่ 4 ของโรงงานไทยฮอนด้าฯ หลังจากได้มีการเริ่มผลิต ฮอนด้า พีซี-เอ็กซ์ และโดยเฉพาะปีนี้ที่มีรุ่นซีบีอาร์ และซีอาร์เอฟ แทรกลงไปในไลน์ผลิตเดิมที่มีอยู่

“ไลน์ผลิตแห่งใหม่นี้จะทำให้ฮอนด้าสามารถผลิตรถจักรยานยนต์ได้หลากหลาย โดยมีกำลังการผลิต 800 คันต่อวัน และพร้อมที่จะรับการผลิตบิ๊กไบค์ขนาดใหญ่มากขึ้น โดยปลายปีนี้จะผลิตและเปิดตัวรถบิ๊กไบค์ระดับกลางประมาณ 400-600 ซีซี ซึ่งเป็นไปตามแผนการย้ายฐานการผลิตบิ๊กไบค์บางส่วนจากญี่ปุ่นมาไทย”

สำหรับภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ไทยครึ่งแรกของปี มียอดจดทะเบียนกว่า 1.09 ล้านคัน เทียบกับปีที่ผ่านมาเติบโตประมาณ 2% โดยฮอนด้านำมาเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยยอดขายกว่า 7.65 แสนคัน ครองส่วนแบ่งการตลาด 69% จากตลาดรวมทั้งหมด ซึ่งกระแสรถออโตเมติก หรือเอ.ที. มาแรงสุด กวาดส่วนแบ่งตลาดถึง 50% จากฐานลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นที่มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น และสภาวะเศรษฐกิจที่ค่อนข้างเสถียร

“ในส่วนของครึ่งปีหลัง แนวโน้มของการเติบโตค่อนข้างสดใส หากไม่มีเหตุการณ์ใดๆ ที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจไทย จนทำให้กำลังซื้อถดถอยลงไป คาดว่ายอดจดทะเบียนรวมของรถจักรยานยนต์ปีนี้ จะเพิ่มเป็น 2.15 ล้านคัน โดยฮอนด้ายังคงเป็นผู้นำตลาด ด้วยเป้าหมายการขาย 1.5 ล้านคัน” นายสุชาติกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น