ชาวขอนแก่นเตรียมต้อนรับฮีโร่โอลิมปิกกันอย่างเต็มที่ ขณะที่นางอมรรัตน์ ศิริแก้วเตรียมบวชชีพราหมณ์ให้กับลูกสาวทางด้านเจ้าของเหรียญเงินลอนดอนเกมส์ คนล่าสุดเลือกไข่เจียวเป็นเมนูแรกในงานเลี้ยงที่ร้านอาหารไทยสแควร์ ซึ่งสถานทูตไทยเป็นผู้จัดเลี้ยงหลังสร้างความภูมิใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ ขณะที่ “บิ๊กต้อม” ธนา ไชยประสิทธิ์ โล่งอกที่นักกีฬาทีมชาติไทยสามารถคว้าเหรียญรางวัลมาครองได้สำเร็จ พร้อมเผยให้ชาวไทยช่วยกันเชียร์ มวยและเทควันโด ซึ่งมีโอกาสที่จะคว้าเหรียญรางวัลเป็นประเภทต่อไป
หลังจาก “พิมศิริ ศิริแก้ว” จอมพลังสาวไทยคว้าเหรียญเงินมาครองได้สำเร็จในการแข่งขันยกน้ำหนักรุ่น 58 กิโลกรัมหญิงเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยเหรียญรางวัลดังกล่าวนับเป็นเหรียญแรกสำหรับทัพนักกีฬาไทยในลอนดอนเกมส์ ซึ่งหลังจาก “น้องแต้ว” สร้างผลงานให้คนไทยทั้งประเทศได้ภูมิใจกันแล้ว ทางสถานทูตไทยได้จัดงานเลี้ยงให้กับ สมาคมฯที่ร้านอาหารไทยสแควร์
โดยในงานเลี้ยงดังกล่าวนอกจากนักกีฬายกน้ำหนักแล้วยังมีหัวหน้าคณะนักกีฬาไทย “บิ๊กต้อม” ธนา ไชยประสิทธิ์ เข้าร่วมด้วย ซึ่งในช่วงเช้าของวันอังคารที่ 31 กรกฎาคม “บิ๊กต้อม” ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงเหรียญรางวัลแรกของทัพนักกีฬาไทยว่า “หลังจากที่เราพลาดเหรียญมาตลอด 3 วันแรก ก็ต้องบอกว่าเหรียญเงินของแต้วในครั้งนี้เหมือนเป็นการปลดล็อกให้กับทัพนักกีฬาไทยในโอลิมปิก 2012 ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมเองยังเชื่อเหมือนกับคนไทยทุกคนว่านี่ไม่ใช่เหรียญแรกและเหรียญเดียว โดยเรายังมีหวังอยู่ไม่น้อยในการลุ้นเหรียญทองจากกีฬามวย และเทควันโด ที่จะเริ่มแข่งขันกันในช่วงสัปดาห์หน้า (8 ส.ค.)"
พร้อมกันนี้นายธนา ยังเผยถึงบรรยากาศในงานเลี้่ยง ที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน เป็นเจ้าภาพในงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จให้กับพิมศิริ และทีมยกน้ำหนักที่ร้านไทยสแควร์ กรุงลอนดอนว่า "บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่้นมื่น ที่สำคัญทีมยกน้ำหนักได้รับประทานอาหารไทยกันชนิดเต็มอิ่ม หลังจากที่ก่อนหน้าที่ต้องเก็บตัวอยู่ในหมู่บ้านนักกีฬาที่แม้จะมีโรงอาหารเปิดบริการ 24 ชั่วโมงแต่ก็ไม่มีเมนูอาหารไทยให้รับประทานแต่อย่างใด"
ทั้งนี้มีรายงานว่าบรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างชื่นมื่น ขณะที่น้องแต้ว มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มตลอดเวลา โดยเมนูที่ทางร้านไทยแสควร์จัดเตรียมไว้นั้นประกอบไปด้วย หมูแดงเลิศรส, ขนมจีน พะแนงปลากรายใส่หน่อไม้, บล็อคเคอรี่ผัดหอยเชลล์, ทอดมันกุ้ง, ไข่เจียว และกระเพราไก่ ซึ่ง “ฮีโร่โอลิมปิก” คนล่าสุดได้เลือกเมนูไข่เจียวเป็นจานแรก
ขณะที่ช่วงเช้าวันที่ 31 กรกฎาคม (ตามเวลาท้องถิ่น) พิมศิริ พร้อมด้วย เสธ.ยอด อินทรัตน์ ยอดบาง-เตย เดินทางมาให้กำลังใจนักกีฬายกน้ำหนักชาย ที่สนาม เอ็กเซิล เซ็นเตอร์ โดยระหว่างนี้ “น้องแต้ว” ที่มาพร้อมกับเหรียญเงินโอลิมปิก ได้พูดคุยกับผู้สื่อข่าวว่า “ดีใจที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศดีใจ จากนี้สัญญาว่าจะทำตัวเหมือนเดิมอยู่ในระเบียบวินัย และ ฝึกซ้อมอย่างเคร่งครัด” ส่วนเงินอัดฉีดที่เวลานี้มีรายงานว่า “ฮีโร่โอลิมปิก” จะได้รับสูงถึง 21 ล้านบาทนั้นจอมพลังสาววัย 22 ปีกล่าวว่า “เรื่องเงินตอนนี้แต้วไม่ได้วางแผนอะไรถ้าได้มาก็เก็บเอาไว้และส่วนหนึ่งอาจแบ่งให้พ่อกับแม่บ้าง”
สำหรับอนาคตต่อจากนี้ “น้องแต้ว” เผยว่า “ต้องกลับไปเรียนให้จบก่อนเพราะเป็นปีสุดท้ายแล้วจากนั้นยังคงรับใช้ชาติต่อไปแต่ถ้ามีโอกาสก็อยากรับราชการทหารบก” นอกจากนี้ “น้องแต้ว” ยังได้อวยพรวันเกิดคุณแม่ย้อนหลังผ่านการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ว่า “วันที่แต้วได้เหรียญเป็นวันเกิดของแม่ แต้วอยากจะแฮปปี้เบิร์ธเดย์แม่ย้อนหลังและกลับไปถึงเมืองไทยจะรีบไปหาที่บ้านขอนแก่นทันที” ซึ่งภายหลังจากที่น้องแต้ว ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเป็นที่เรียบร้อย ฮีโร่เหรียญโอลิมปิกได้เดินทางไปสมทบกับเพื่อนร่วมทีมยกน้ำหนักหญิงที่กำลังช้อปปิ้งอยู่ในกรุงลอนดอน
ส่วนความเคลื่อนไหวของครอบครัว ศิริแก้วที่จังหวัดขอนแก่น นั้นล่าสุด นายคำปุ่นผู้เป็นบิดาและนางอมรรัตน์มารดาของ พิมศิรินั้นเตรียมจัดเลี้ยงให้กับลูกสาวอย่างเต็มที่พร้อมกับตัวแทนของจังหวัด ซึ่งนายคำปุ่นเปิดเผยความรู้สึกหลังลูกสาวกลายเป็นฮีโร่โอลิมปิกว่า “ภูมิใจที่ลูกสาวทำได้สำเร็จสมกับที่หลายคนได้ตั้งความหวังไว้และเป็นเหรียญการแข่งขันแรกของประเทศไทยในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้ สร้างความภาคภูมิใจแก่คนขอนแก่นและคนไทยทั้งประเทศอย่างมาก ทั้งนี้ ครอบครัวจะได้เตรียมเดินทางไปรับลูกสาวทันทีที่เดินทางกลับมาประเทศไทยร่วมกับคณะนักกีฬาไทยหลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน”
ขณะที่นางอมรรัตน์ ผู้เป็นมารดานั้นเตรียมจะแก้บน ซึ่งได้บนไว้ว่า บวชชีพราหมณ์ที่วัดโพธิ์ทองแห่งนี้เป็นเวลา 9 วันในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาปีนี้ และในฐานะพ่อและแม่รู้สึกดีใจและปลื้มใจที่ “น้องแต้ว” คว้าเหรียญรางวัลเหรียญใดเหรียญหนึ่ง ซึ่งถึงแม้ไม่ใช่เหรียญทองแค่เหรียญเงินก็นับเป็นของขวัญให้คนไทยทั้งประเทศแล้ว
สำหรับน้องแต้ว นั้นปัจุบันกำลังศึกษาปีสุดท้ายที่สถาบันพละศึกษาจังหวัดชลบุรี คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา นับเป็นฮีโร่โอลิมปิกชาวขอนแก่นต่อจากสมรักษ์ คำสิงห์ โดยพิมศิริ นั้นสร้างผลงานให้คนไทยได้ประจักษ์ในปี 2554 เมื่อเธอคว้าเหรียญทองมาได้ในการแข่งขัน ซีเกมส์ ที่อินโดนีเซีย และ ล่าสุดก่อนลงสนามลอนดอนเกมส์ เธอเพิ่งคว้า 3 เหรียญทองจากรายการชิงแชมป์เอเชีย
หลังจาก “พิมศิริ ศิริแก้ว” จอมพลังสาวไทยคว้าเหรียญเงินมาครองได้สำเร็จในการแข่งขันยกน้ำหนักรุ่น 58 กิโลกรัมหญิงเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยเหรียญรางวัลดังกล่าวนับเป็นเหรียญแรกสำหรับทัพนักกีฬาไทยในลอนดอนเกมส์ ซึ่งหลังจาก “น้องแต้ว” สร้างผลงานให้คนไทยทั้งประเทศได้ภูมิใจกันแล้ว ทางสถานทูตไทยได้จัดงานเลี้ยงให้กับ สมาคมฯที่ร้านอาหารไทยสแควร์
โดยในงานเลี้ยงดังกล่าวนอกจากนักกีฬายกน้ำหนักแล้วยังมีหัวหน้าคณะนักกีฬาไทย “บิ๊กต้อม” ธนา ไชยประสิทธิ์ เข้าร่วมด้วย ซึ่งในช่วงเช้าของวันอังคารที่ 31 กรกฎาคม “บิ๊กต้อม” ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงเหรียญรางวัลแรกของทัพนักกีฬาไทยว่า “หลังจากที่เราพลาดเหรียญมาตลอด 3 วันแรก ก็ต้องบอกว่าเหรียญเงินของแต้วในครั้งนี้เหมือนเป็นการปลดล็อกให้กับทัพนักกีฬาไทยในโอลิมปิก 2012 ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมเองยังเชื่อเหมือนกับคนไทยทุกคนว่านี่ไม่ใช่เหรียญแรกและเหรียญเดียว โดยเรายังมีหวังอยู่ไม่น้อยในการลุ้นเหรียญทองจากกีฬามวย และเทควันโด ที่จะเริ่มแข่งขันกันในช่วงสัปดาห์หน้า (8 ส.ค.)"
พร้อมกันนี้นายธนา ยังเผยถึงบรรยากาศในงานเลี้่ยง ที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน เป็นเจ้าภาพในงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จให้กับพิมศิริ และทีมยกน้ำหนักที่ร้านไทยสแควร์ กรุงลอนดอนว่า "บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่้นมื่น ที่สำคัญทีมยกน้ำหนักได้รับประทานอาหารไทยกันชนิดเต็มอิ่ม หลังจากที่ก่อนหน้าที่ต้องเก็บตัวอยู่ในหมู่บ้านนักกีฬาที่แม้จะมีโรงอาหารเปิดบริการ 24 ชั่วโมงแต่ก็ไม่มีเมนูอาหารไทยให้รับประทานแต่อย่างใด"
ทั้งนี้มีรายงานว่าบรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างชื่นมื่น ขณะที่น้องแต้ว มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มตลอดเวลา โดยเมนูที่ทางร้านไทยแสควร์จัดเตรียมไว้นั้นประกอบไปด้วย หมูแดงเลิศรส, ขนมจีน พะแนงปลากรายใส่หน่อไม้, บล็อคเคอรี่ผัดหอยเชลล์, ทอดมันกุ้ง, ไข่เจียว และกระเพราไก่ ซึ่ง “ฮีโร่โอลิมปิก” คนล่าสุดได้เลือกเมนูไข่เจียวเป็นจานแรก
ขณะที่ช่วงเช้าวันที่ 31 กรกฎาคม (ตามเวลาท้องถิ่น) พิมศิริ พร้อมด้วย เสธ.ยอด อินทรัตน์ ยอดบาง-เตย เดินทางมาให้กำลังใจนักกีฬายกน้ำหนักชาย ที่สนาม เอ็กเซิล เซ็นเตอร์ โดยระหว่างนี้ “น้องแต้ว” ที่มาพร้อมกับเหรียญเงินโอลิมปิก ได้พูดคุยกับผู้สื่อข่าวว่า “ดีใจที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศดีใจ จากนี้สัญญาว่าจะทำตัวเหมือนเดิมอยู่ในระเบียบวินัย และ ฝึกซ้อมอย่างเคร่งครัด” ส่วนเงินอัดฉีดที่เวลานี้มีรายงานว่า “ฮีโร่โอลิมปิก” จะได้รับสูงถึง 21 ล้านบาทนั้นจอมพลังสาววัย 22 ปีกล่าวว่า “เรื่องเงินตอนนี้แต้วไม่ได้วางแผนอะไรถ้าได้มาก็เก็บเอาไว้และส่วนหนึ่งอาจแบ่งให้พ่อกับแม่บ้าง”
สำหรับอนาคตต่อจากนี้ “น้องแต้ว” เผยว่า “ต้องกลับไปเรียนให้จบก่อนเพราะเป็นปีสุดท้ายแล้วจากนั้นยังคงรับใช้ชาติต่อไปแต่ถ้ามีโอกาสก็อยากรับราชการทหารบก” นอกจากนี้ “น้องแต้ว” ยังได้อวยพรวันเกิดคุณแม่ย้อนหลังผ่านการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ว่า “วันที่แต้วได้เหรียญเป็นวันเกิดของแม่ แต้วอยากจะแฮปปี้เบิร์ธเดย์แม่ย้อนหลังและกลับไปถึงเมืองไทยจะรีบไปหาที่บ้านขอนแก่นทันที” ซึ่งภายหลังจากที่น้องแต้ว ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเป็นที่เรียบร้อย ฮีโร่เหรียญโอลิมปิกได้เดินทางไปสมทบกับเพื่อนร่วมทีมยกน้ำหนักหญิงที่กำลังช้อปปิ้งอยู่ในกรุงลอนดอน
ส่วนความเคลื่อนไหวของครอบครัว ศิริแก้วที่จังหวัดขอนแก่น นั้นล่าสุด นายคำปุ่นผู้เป็นบิดาและนางอมรรัตน์มารดาของ พิมศิรินั้นเตรียมจัดเลี้ยงให้กับลูกสาวอย่างเต็มที่พร้อมกับตัวแทนของจังหวัด ซึ่งนายคำปุ่นเปิดเผยความรู้สึกหลังลูกสาวกลายเป็นฮีโร่โอลิมปิกว่า “ภูมิใจที่ลูกสาวทำได้สำเร็จสมกับที่หลายคนได้ตั้งความหวังไว้และเป็นเหรียญการแข่งขันแรกของประเทศไทยในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้ สร้างความภาคภูมิใจแก่คนขอนแก่นและคนไทยทั้งประเทศอย่างมาก ทั้งนี้ ครอบครัวจะได้เตรียมเดินทางไปรับลูกสาวทันทีที่เดินทางกลับมาประเทศไทยร่วมกับคณะนักกีฬาไทยหลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน”
ขณะที่นางอมรรัตน์ ผู้เป็นมารดานั้นเตรียมจะแก้บน ซึ่งได้บนไว้ว่า บวชชีพราหมณ์ที่วัดโพธิ์ทองแห่งนี้เป็นเวลา 9 วันในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาปีนี้ และในฐานะพ่อและแม่รู้สึกดีใจและปลื้มใจที่ “น้องแต้ว” คว้าเหรียญรางวัลเหรียญใดเหรียญหนึ่ง ซึ่งถึงแม้ไม่ใช่เหรียญทองแค่เหรียญเงินก็นับเป็นของขวัญให้คนไทยทั้งประเทศแล้ว
สำหรับน้องแต้ว นั้นปัจุบันกำลังศึกษาปีสุดท้ายที่สถาบันพละศึกษาจังหวัดชลบุรี คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา นับเป็นฮีโร่โอลิมปิกชาวขอนแก่นต่อจากสมรักษ์ คำสิงห์ โดยพิมศิริ นั้นสร้างผลงานให้คนไทยได้ประจักษ์ในปี 2554 เมื่อเธอคว้าเหรียญทองมาได้ในการแข่งขัน ซีเกมส์ ที่อินโดนีเซีย และ ล่าสุดก่อนลงสนามลอนดอนเกมส์ เธอเพิ่งคว้า 3 เหรียญทองจากรายการชิงแชมป์เอเชีย