xs
xsm
sm
md
lg

ท้าปชป. หาเอกสารโชว์ แฉ!ยศ พล.อ.-พ.อ.ช่วย “มาร์ค”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (22 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดช่วงเช้า มีกระแสข่าวว่า ภายหลัง พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ทำพิธีต้อนรับนายแอฟตัน บี คาร์เตอร์ รมช.กลาโหมสหรัฐอเมริกาที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะมอบหมายให้ พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม เป็นผู้แถลงชี้แจงผลสรุปของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของทางกระทรวงกลาโหมที่ตั้งขึ้นเพื่อตรวจสอบกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ใช้เอกสารเท็จในการเข้ารับราชการที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าและการหลบหนีการเกณฑ์ทหาร ทำให้มีสื่อมวลชนจำนวนมากเดินทางมายังบก.ทอ. แต่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริเวณทางเข้า-ออก บก.ทบ. แจ้งว่างดไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปทำข่าวภายใน โดยระบุว่าเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชาไม่สะดวกให้บันทึกภาพทำข่าว เพราะเกรงเรื่องความปลอดภัยและการอารักขา รมช.กลาโหมสหรัฐอเมริกา
ด้านพ.อ.ธนาธิป ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข่าวว่าพล.อ.อ.สุกำพลมอบหมายให้ชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริงการเข้ารับราชการทางทหารของนายอภิสิทธิ์ว่า ตนไม่ทราบเรื่องที่ทางพล.อ.อ.สุกำพล มอบหมายให้แถลงข่าวชี้แจงเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งน่าจะเป็นการเข้าใจที่คาดเคลื่อนหรือเป็นการประสานงานที่ผิดพลาดมากกว่า แต่ทั้งนี้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพล.อ.อ.สุกำพลได้มีการชี้แจงเบื้องต้นในเรื่องดังกล่าวนี้โดยได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้ส่งข้อมูลให้กับทางสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเรียนร้อยแล้ว
ต่อข้อถามว่านายอภิสิทธิ์ระบุว่าทางกระทรวงกลาโหมออกมาพูดเรื่องนี้ เพราะต้องการช่วยคดีนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ถูกฟ้องอยู่ในขณะนี้ และอาจจะมีการฟ้องดำเนินคดีกระทรวงกลาโหมด้วย พ.อ.ธนาธิป กล่าวว่า ขอชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวเริ่มต้นจากการที่มีผู้ร้องเรียนมายังสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และทางสำนักงานผู้ตรวจการฯก็ทำหนังสือขอข้อมูลจากกระทรวงกลาโหม ซึ่งตามระเบียบมีระยะเวลากำหนดว่าต้องส่งข้อมูลกลับภายในระยะเวลากี่วันและทางกระทรวงกลาโหมก็ได้ส่งข้อมูลให้สำนักงานผู้ตรวจการฯเมื่อวันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามกระทรวงกลาโหมยืนยันว่าเราดำเนินการตามขั้นตอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางด้านพล.อ.อ.สุกำพล รู้สึกไม่พอใจต่อกระแสข่าวดังกล่าว เพราะกังวลว่าจะถูกข้อครหาเป็นการช่วยเหลือ นายจตุพร ที่ถูก นายอภิสิทธิ์ เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง ภายหลังจากที่ นายจตุพร ขึ้นเวทีปราศรัยกล่าวหาว่า นายอภิสิทธิ์ หนีทหาร ทั้งนี้เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช นายอภิสิทธิ์ ได้ขึ้นเวทีปราศรัย โดยระบุว่า ว่ามีขบวนการจ้องทำลายตน โดยใช้กรณีดังกล่าวมาเป็นเครื่องมือ เพื่อต้องการช่วยเหลือนายจตุพร.

**เอกสารผ่อนผัน “มาร์ค” เท็จ
ด้านนายกมล บันไดเพชร สมาชิกพรรคเพื่อไทย แถลงกรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุการตรวจสอบเรื่องการหนีทหาร และใช้เอกสารเท็จในการสมัครเข้ารับราชการ เป็นการกล่าวหาเรื่องเดิมๆว่า ยืนยันว่า เป็นการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ไม่ใช่กล่าวหาเรื่องเดิมๆ การที่ นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า มีเอกสารการผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร ยืนยันว่า เป็นเอกสารเท็จ เพราะเอกสารดังกล่าวที่นายอภิสิทธิ์ นำมาแสดงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อปี 2553 เป็นเอกสารลอยๆ ใครๆ ทำขึ้นมาก็ได้ ไม่มีเจ้าหน้าที่เซ็นรับรองในสำเนา ที่สำคัญเอกสารที่อ้าง ไม่เคยมีอยู่ในหลักฐานการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวน ที่มีเจ้ากรมจเรทหารบก เป็นประธาน เมื่อปี 2542 เมื่อนายอภิสิทธิ์ ชี้แจงเสร็จ ก็ไม่กล้ามอบเอกสารชิ้นนี้ให้แก่ประธานสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้น
ดังนั้น ขอท้าให้นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ หรือใครก็ได้ หาหลักฐานการผ่อนผันการเกณฑ์ทหารมาแสดงได้ พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่เซ็นรับรองมาด้วย ถ้าหาได้ จะกราบงามๆ 3 ที มั่นใจว่า ไม่มีใครกล้ารับรอง เพราะเป็นเอกสารเท็จ กระทรวงกลาโหม ก็รู้ และ ตนยังรู้ว่า มี พล.อ.คนหนึ่งที่เกษียณไปแล้ว ร่วมมือกับนายทหารระดับ พ.อ. รวม 6 คน ร่วมกันทำเอกสารนี้ขึ้นมา
นายกมล กล่าวด้วยว่า การที่นายอภิสิทธิ์ นำเอกสารการได้รับการผ่อนผัน ไปแสดงต่อศาล แสดงว่า เป็นการใช้เอกสารเท็จในชั้นศาล มีโทษจำคุก 3 ปี หรือปรับ 6 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ไม่รู้ว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง จะฟ้องในข้อหานี้ด้วยหรือไม่ เพราะพิสูจน์ได้ว่า เป็นเอกสารเท็จแน่นอน
ส่วนที่ นายอภิสิทธิ์ บอกว่า ตนไม่กล้านำเอกสารการผ่อนผันการเกณฑ์ทหารของนายอภิสิทธิ์ มาแสดงในชั้นศาลนั้น สาเหตุที่ไม่ยื่นเพราะเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารเท็จ ตนใช้เวลา 12 ปี หาหลักฐานต่างๆมั่นใจว่า ไม่มีเอกสารเรื่องการผ่อนผันแน่นอน กว่าจะได้หลักฐานมาเป็นเรื่องยากมาก คงไม่กล้าใช้เอกสารเท็จมาใช้ เหมือนที่พรรคประชาธิปัตย์ เคยอภิปรายเรื่องบิดาของนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา อย่างแน่นอน

**จี้ "อภิสิทธิ์" โชว์หลักฐาน สด. 43
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า การ ที่พรรคเพื่อไทย ตรวจสอบการหนีทหารของนายอภิสิทธิ์ เป็นการดิสเครดิตทางการเมืองนั้น ไม่เป็นความจริง เราตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา จึงอยากให้นายอภิสิทธิ์ นำหลักฐานมาแสดงให้ชัดเจน ไม่ใช่พอถูกตรวจสอบ ก็บอกว่าเป็นเรื่องการเมือง เป็นเรื่องเก่า ที่ฝ่ายรัฐบาลจ้องจะเอาคืน ขอให้นายอภิสิทธิ์ นำหลักฐาน สด.43 มาแสดง ว่ามีจริงหรือไม่ หากเข้ารับการตรวจเลือกเป็นทหารจริง เพราะวันนี้คนไทย สงสัยเรื่องนี้

**ปชป.อ้างมีใบผ่อนผันไม่ถือว่าหนี
นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แถลงชี้แจงกรณีที่มีการกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ใช้เอกสารเท็จสมัครรับราชการทหารเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยจปร. โดยยืนยันเอกสารที่เคยนำมาแสดงคือ ทะเบียนบัญชียกเว้นหรือผ่อนผันกรณีไปศึกษาต่างประเทศ (สด.20) ที่มีชื่อนายอภิสิทธิ์ในลำดับ 3 ได้รับการผ่อนผันตามใบ สด. 41 เลขที่ 4892/29 ลงวันที่ 4 พ.ย. 2529 โดยสำนักงานผู้ดูแลนักเรียนไทยในประเทศอังกฤษ ภายใต้ดำเนินการของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ผ่อนผันให้ตั้งแต่ ปี 2530 - 2532 ทำให้นายอภิสิทธิ์ไม่ต้องไปตรวจเลือกในเดือนเมษายาปี 2530 ซึ่งเป็นตามหลักเกณฑ์ตามมาตรา 21(2) อีกทั้งนายอภิสิทธิ์อายุเกิน 21 ปี แต่ยังมิได้ตรวจเลือกเนื่องจากได้รับการยกเว้น จึงเข้าเกณฑ์ใช้ สด.9 และ สด.41 ไม่จำเป็นต้องใช้ใบสด. 43
พร้อมกันนี้นายศิริโชคยังตั้งข้อสังเกตถึงผลสอบสวนคณะกรรมการปี 42 ที่มีพ.อ.สมโชค ไกรศิริ จเรทหารบก เป็นหนึ่งในกรรมการสอบสวน ยอมรับกลางศาลระหว่างสืบพยานคดีที่นายอภิสิทธิ์ฟ้องหมิ่นประมาทนายจตุพรว่า เป็นเพื่อนสนิทกับนายจตุพรตั้งแต่ปี 30 จึงแสดงให้เห็นว่ามีอัคติในการสอบสวน อีกทั้งการสอบสวนดังกล่าวยังมีความไม่โปร่งใสรอบคอบ เนื่องจากพ.อ.สมโชคยอมรับด้วยว่าไม่เคยทราบว่าศึกษาต่ออังกฤษมี กพ. ดูแลทำหนังสือผ่อนผันโดยตรงจึงไม่ต้องรับการตรวจเลือก หากเป็นเช่นนี้ก็ยอมรับไม่ใช่การหนีทหาร แต่เป็นเรื่องที่รับการผ่อนผันและเมื่อเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยจปร.แล้ว จึงไม่เข้าเกณฑ์เข้าประจำการตามมาตรา 14 วรรค 7
นายศิริโชคกล่าวว่าที่น่าสงสัยคือ เหตุใดเมื่อตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขึ้นมาใหม่ใน้วันที่ 25 มิถุนายน 2555 ก็ยังอิงผลการตรวจสอบในปี 2542 ทั้งที่ปรากฏหลักฐานใหม่คือ สด.20 กรณีผ่อนผันไปต่างประเทศ ที่มีการชี้แจงตั้งแต่ระหว่างอภิปรายไม่ไว้วางใจในปี 2553 แต่ไม่มีการเรียกนำเอกสารดังกล่าวพิจารณาในคณะกรรมการ จึงเห็นว่าเป็นขบวนการที่ต้องการช่วยเหลือนายจตุพรให้พ้นจากการติดคุกกรณีหมิ่นประมาทนายอภิสิทธิ์ เพราะผลสรุปคณะกรรมการชุดนี้ สอดรับกับเอกสารประกอบของ RED POWERนิตยสารเครือข่ายคนเสื้อแดง
นอกจากนี้ยังมี มติ ปปช.วันที่ 10 สิงหาคม 2553 ว่าข้อกล่าวหาหนีทหารและใช้เอกสารเท็จในการรับราชการทหารไม่มีมูลความจริง ซึ่งเรื่องนี้ ปปช.ก็ได้แจ้งมติดังกล่าวไปยังนายกมล บันไดเพชร ซึ่งเป็นผู้ยื่นคำร้องแล้ว จึงไม่เข้าใจว่า นายกมลที่พยายามขุดคุ้นเรื่องนี้ตั้งแต่ ปี 52 ยังไม่หยุดกล่าวหา และกล่าวหาว่ามีพลเอก 1 คนและ พันเอก 5 คนร่วมกันสร้างหลักฐานเท็จเป็นหลักฐานที่โคมลอย ควรเปลี่ยนนามสกุลเป็น กมล สตอเบอรี่ มากกว่า ตนจะล้างเท้ารอให้นายกมลมากราบ เพราะหลักฐานที่ชี้แจงเป็นเรื่องจริงไม่ใช่หลักฐานเท็จ
ส่วนกรณีที่นายกมล ท้าว่าให้นำเอกสารการผ่อนผันของจริงมาแสดงนั้นเป็นเรื่องแปลก เพราะแม้แต่การสอบสวนในปี 42 ก็ไม่มีการพิจารณาเอกสารนี้ ซึ่งในระบบราชการจะมีการทำลายเอกสารทุก 10 ปี แต่เมื่อมีหลักฐานการผ่อนผันที่ทำโดย กพ. มาแสดงให้เห็น นายกมลกลับไม่ให้ความเชื่อถือ ส่วนที่กระทรวงกลาโหมไม่แถลงวันนี้ก็เป็นไปตามคาดหมาย เนื่องจากกลัวการถูกฟ้องร้อง เนื่องจากไม่มีผลสรุปที่ชัดเจน

**ปชป.ขู่ฟ้องพท.ปูดมาร์คหนีทหาร
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า นายอภิสิทธิ์ ว่า มีการชี้แจงด้วยเอกสารอย่างชัดเจนไปแล้วในทุกกรณี ทั้งการตอบกระทู้ และอภิปรายไม่ไว้วางใจ รวมทั้งยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีในศาลด้วย แต่เพราะนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. กลัวติดคุกจากคดีนี้ จึงให้กระทรวงกลาโหมให้ความช่วยเหลือ เบี่ยงประเด็นให้สังคมเกิดความสับสน พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่า หากหลักฐานของนายอภิสิทธิ์ มีความผิดปกติจริง อย่างที่พยายามประโคมข่าวในขณะนี้ คิดว่าแถลงรอบเดียวก็จบแล้ว แต่เพราะหาความผิดไม่ได้ จึงสั่งให้แถลงในวันอาทิตย์
" ผมขอท้าให้พูดให้ชัดว่า นายอภิสิทธิ์ หนีทหาร จะฟ้องทุกคน อย่าเป็นอีแอบ สนใจวิชาทหารมาก ให้กลับไปเรียน รด. ถ้าไม่หยุด ขอท้าให้พูดให้ชัด จะจดชื่อดำเนินคดีกับทุกคน แต่ถ้าไม่กล้า ไม่ต้องพูดถึงชุดทหารจะส่งกระโปรงสีแดงไปให้ใส่ทั้งพรรค" นายชวนนท์ กล่าว

**ผู้ตรวจการฯเร่งพิจารณาปม"มาร์ค"
นายรักษเกชา แฉ่ฉาย รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ในฐานะโฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีคำร้องของนายกมล บันไดเพชร สมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่ยื่นคำร้องขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เนื่องจากละเลย เพิกเฉยการปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสอบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากใช้เอกสารปลอมในการเข้ารับราชการทหารว่า กรณีดังกล่าวนี้ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ส่งหนังสือชี้แจงเกี่ยวกับ การทำหน้าที่ของตนเองตอบกลับมายังสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเมื่อวันที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลรายละเอียดของเอกสารต่างๆอยู่ เพราะเอกสารที่ชี้แจงกลับมามีจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษานานพอสมควร ซึ่งในส่วนของรายละเอียดที่ชี้แจงกลับมานั้น ไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้ เพราะเป็นเอกสารที่ต้องใช้ในการพิจารณาตรวจสอบ ทั้งนี้คาดว่าเอกสารทั้งหมดจะส่งถึงนายศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ ภายในสัปดาห์หน้า
นายรักษเกชากล่าวต่อว่า นายศรีราชา จะนำคำร้องดังกล่าวเข้าที่ประชุมผู้ตรวจการฯหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ หากเห็นว่าไม่จำเป็นก็อาจไม่ต้องนำคำร้องดังกล่าวเข้าที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินก็ได้ แต่หากเพื่อความรอบคอบ หรือต้องการขอความคิดเห็นจากผู้ตรวจการแผ่นดินอีก 2 คน ก็สามารถนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อพิจารณาร่วมกันต่อไป ทั้งนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินจะเร่งพิจารณาคำร้องดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ ซึ่งจะพิจารณาบนหลักข้อเท็จจริง และเอกสารต่างๆ รวมทั้งยืนยันว่าในการพิจารณาเรื่องดังกล่าวผู้ตรวจการแผ่นดินจะไม่เป็นเครื่องมือของฝ่ายการเมืองอย่างแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น