ASTV ผู้จัดการรายวัน-ตำรวจนำยายสมจิตรฝากขัง พร้อมคัดค้านประกันตัว เกรงหลบหนี เจ้าตัวเสียใจ พร้อมยอมรับผิดชดใช้กรรมที่ก่อไว้ ด้านแม่น้องเบิร์ดรุดเยี่ยมทั้งน้ำตา เผยได้จุดธูปไหว้ดวงวิญญาณลูกชายขอให้อภัยยาย
วานนี้ (18 ก.ค.) ที่ สน.พระโขนง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นางสมจิตร จำปาดี อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาฆ่า ด.ช.อรรถสิทธิ์ หรือน้องเบิร์ด ลีเลิศยุทธิ์ อายุ 13 ปี ซึ่งเป็นหลานแท้ๆ เสียชีวิตภายในคอนโดมิเนียมซอยสุภาพงศ์ 1 ไปขออำนาจศาลจังหวัดพระโขนงเพื่อฝากขัง โดยแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น และท้ายคำร้องเจ้าหน้าที่ได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีดังกล่าวมีอัตราโทษสูง และเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี โดยนางสมจิตรมีสีหน้าเคร่งเครียดและซึมเศร้าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนางสมจิตรเปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดเดิมที่เป็นสีดำเป็นเสื้อสีเหลือง โดยมี น.ส.วราภรณ์ คำแสน อายุ 38 ปี ลูกสาวและผู้เป็นแม่ของผู้ตาย มารอดูแม่ที่ศาล พร้อมทั้งนำยาโรคประจำตัวมาให้อีกด้วย
นางสมจิตรกล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนยอมรับผิดทุกอย่าง และขอชดใช้กรรมที่ก่อไว้ ส่วนเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ เพราะเหม็นห้องน้ำ และเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้น และไม่ได้ฝันถึงน้องเบิร์ดแต่อย่างใด
ด้านน.ส.วราภรณ์กล่าวว่า ตนได้คุยกับแม่ โดยแม่ยืนยันรับผิดทุกอย่าง และไม่ต้องประกันตัว เนื่องจากต้องการรับใช้กรรมในคุก ถ้าหากตนจะยื่นประกัน แม่ก็ยืนยันว่ากระทำความผิด เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ประกันตัวได้ ตนตั้งใจมาดูแม่ พร้อมทั้งเอายามาให้ เนื่องจากท่านป่วยเป็นโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนี้ตนเหมือนคนตายทั้งเป็นที่ต้องเสียทั้งลูกและแม่ติดคุก ซึ่งเมื่อตนได้ยินแม่รับสารภาพว่าเป็นคนฆ่าน้องเบิร์ดก็ช็อกมาก และเห็นแม่มีอาการเครียด จึงได้ขอร้องแม่ไม่ให้ทำร้ายตัวเอง ยืนยันว่าจะรอแม่จนกว่าจะพ้นโทษกลับมาอยู่กันเป็นครอบครัวอีกครั้ง
“ตอนนี้ตนไม่เหลือใครแล้ว เหลือแม่เพียงคนเดียว หลังจากทราบเรื่องที่แม่สารภาพ ก็จุดธูปไหว้ดวงวิญญาณน้องเบิร์ดว่าอย่าโกรธยายที่กระทำเรื่องดังกล่าวลงไป"
สำหรับเหตุการณ์ที่แม่เคยต้องโทษคดีฆ่าคนตายครั้งแรกนั้น น.ส.วราภรณ์กล่าวว่า ตนเป็นคนยื่นประกันตัวเอง แม่ติดคุกอยู่ประมาณ 1 ปี เนื่องจากตอนนั้น ตนอายุไม่ถึง 20 ปี จึงต้องรอให้อายุครบ 20 จึงสามารถประกันตัวแม่ออกมาได้
วานนี้ (18 ก.ค.) ที่ สน.พระโขนง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นางสมจิตร จำปาดี อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาฆ่า ด.ช.อรรถสิทธิ์ หรือน้องเบิร์ด ลีเลิศยุทธิ์ อายุ 13 ปี ซึ่งเป็นหลานแท้ๆ เสียชีวิตภายในคอนโดมิเนียมซอยสุภาพงศ์ 1 ไปขออำนาจศาลจังหวัดพระโขนงเพื่อฝากขัง โดยแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น และท้ายคำร้องเจ้าหน้าที่ได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีดังกล่าวมีอัตราโทษสูง และเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี โดยนางสมจิตรมีสีหน้าเคร่งเครียดและซึมเศร้าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนางสมจิตรเปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดเดิมที่เป็นสีดำเป็นเสื้อสีเหลือง โดยมี น.ส.วราภรณ์ คำแสน อายุ 38 ปี ลูกสาวและผู้เป็นแม่ของผู้ตาย มารอดูแม่ที่ศาล พร้อมทั้งนำยาโรคประจำตัวมาให้อีกด้วย
นางสมจิตรกล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนยอมรับผิดทุกอย่าง และขอชดใช้กรรมที่ก่อไว้ ส่วนเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ เพราะเหม็นห้องน้ำ และเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้น และไม่ได้ฝันถึงน้องเบิร์ดแต่อย่างใด
ด้านน.ส.วราภรณ์กล่าวว่า ตนได้คุยกับแม่ โดยแม่ยืนยันรับผิดทุกอย่าง และไม่ต้องประกันตัว เนื่องจากต้องการรับใช้กรรมในคุก ถ้าหากตนจะยื่นประกัน แม่ก็ยืนยันว่ากระทำความผิด เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ประกันตัวได้ ตนตั้งใจมาดูแม่ พร้อมทั้งเอายามาให้ เนื่องจากท่านป่วยเป็นโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนี้ตนเหมือนคนตายทั้งเป็นที่ต้องเสียทั้งลูกและแม่ติดคุก ซึ่งเมื่อตนได้ยินแม่รับสารภาพว่าเป็นคนฆ่าน้องเบิร์ดก็ช็อกมาก และเห็นแม่มีอาการเครียด จึงได้ขอร้องแม่ไม่ให้ทำร้ายตัวเอง ยืนยันว่าจะรอแม่จนกว่าจะพ้นโทษกลับมาอยู่กันเป็นครอบครัวอีกครั้ง
“ตอนนี้ตนไม่เหลือใครแล้ว เหลือแม่เพียงคนเดียว หลังจากทราบเรื่องที่แม่สารภาพ ก็จุดธูปไหว้ดวงวิญญาณน้องเบิร์ดว่าอย่าโกรธยายที่กระทำเรื่องดังกล่าวลงไป"
สำหรับเหตุการณ์ที่แม่เคยต้องโทษคดีฆ่าคนตายครั้งแรกนั้น น.ส.วราภรณ์กล่าวว่า ตนเป็นคนยื่นประกันตัวเอง แม่ติดคุกอยู่ประมาณ 1 ปี เนื่องจากตอนนั้น ตนอายุไม่ถึง 20 ปี จึงต้องรอให้อายุครบ 20 จึงสามารถประกันตัวแม่ออกมาได้