ตร.เตรียมนำยาย “น้องเบิร์ด” ไปขออำนาจศาลฝากขังวันพรุ่งนี้ พร้อมเผยประวัติคดียิงสามีเสียชีวิต เมื่อปี 2536 ศาลยกฟ้อง เนื่องจากกระทำไปโดยบันดาลโทสะ ศาลให้รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี ด้านแม่น้องเบิร์ด มาเยี่ยมยายถึงห้องขัง โดยมีการสวมกอดและร้องไห้ พร้อมให้อภัยและเข้าใจถึงแรงกดดันที่สั่งสม เป็นห่วงผู้ต้องหาอาจคิดฆ่าตัวตายได้
วันนี้ (17 ก.ค.) ที่ สน.พระโขนง ร.ต.อ.เฉลียว บุญฤทธิ์ พนักงานสอบสวน (สบ1) สน.พระโขนง ได้นำตัว นางสมจิตร จำปาดี อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาซึ่งเป็นยายได้ฆ่า ด.ช.อรรถสิทธิ์ หรือ เบิร์ด ลีเลิศยุทธ ผู้ตายเป็นหลานแท้ๆ มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สน.พระโขนง ประกอบสำนวนคดี โดยมีทนายความร่วมสอบปากคำด้วย ซึ่งใช้เวลาสอบกว่า 3 ชม.จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาไปตรวจร่างกายที่ รพ.และนำมาควบคุมตัวไว้ที่ สน.
ร.ต.อ.เฉลียว กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในส่วนของการจะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย จึงไม่ได้ไปทำแผนดังกล่าว และในวันพรุ่งนี้ (18 ก.ค.) ทางพนักงานสอบสวนจะนำตัวผู้ต้องหาไปส่งศาลจังหวัดพระโขนง เพื่อไต่สวนดำเนินคดีต่อไป
จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า ก่อนหน้านี้ ผู้ต้องเคยตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม.ยิงใส่สามีของตนทราบนามว่า นายมานะ โชคลิขิต เมื่อเวลา 15.30 น.ของวันที่ 22 ก.ค.2536 ภายในบ้านเลขที่ 55/1 ซอยบุญแจ่ม 1 แขวงบางนา เขตพระโขนง ท้องที่ สน.บางนา และศาลได้ยกฟ้อง เนื่องด้วยก่อเหตุด้วยบันดาลโทสะ เป็นการต่อสู้ด้วยการป้องกันตัว แล้วให้รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สน.มี น.ส.วราภรณ์ คำแสน อายุ 38 ปี แม่ผู้ตายและญาติๆ มารอผู้ต้องหาด้วย โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าของคนในครอบครัว เมื่อ นางสมจิตร มาถึงที่สน. น.ส.วราภรณ์ วิ่งเข้ามาสวมกอดและร้องไห้ด้วยความเสียใจ และเข้าใจในสิ่งที่ผู้เป็นยายกระทำลงไป อีกทั้งได้ปลอบโยน ว่า อย่าคิดมากกับสิ่งที่ทำลงไปด้วยความอดทนอดกลั้นมาเป็นเวลายาวนาน จึงได้ก่อเหตุดังกล่าว อีกทั้งเป็นห่วงเกรงว่าผู้ต้องหาจะพยายามฆ่าตัวตายด้วยความเครียดอีกด้วย