00 เป็นไปอย่างที่เห็นก็คือท่าทีของฝ่าย ทักษิณ ชินวัตร ได้ส่งสัญญาณถอยออกมาอย่างชัดเจนแล้ว สำหรับ ร่าง พ.ร.บ.ล้างผิด (ปรองดอง) เพราะเกรงว่าหากยังดันทุรังไม่เลิก จะได้ไม่คุ้มเสีย หรือเสียทั้งหมด จึงต้องสั่งถอยชั่วคราว เพื่อรอจังหวะเหมาะแล้วค่อยดันเข้าไปใหม่ในวันหน้า
00 เท่าที่ประเมินก่อนหน้านี้หากยังเดินหน้าแบบ “กินรวบ” นั่นคือ เสนอควบเข้ามาทั้ง ล้างผิด และแก้รธน. มาพร้อมกัน เล่นกันแบบแพ็กเกจชุดใหญ่อาจตกม้าตายทั้งคู่ ดีไม่ดีทำให้รัฐบาลของน้องสาวตัวเอง คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องอายุสั้นแบบซื่อบื้อเสียด้วยซี เพราะอย่างที่รู้กันว่า ร่าง กฎหมายล้างผิดนั้นมีแต่เสียงคัดค้านดังขรมไปหมด แม้กระทั่งพวกเดียวกันเองก็ยังรู้สึกอึดอัด บางส่วนไม่เอาด้วย เนื่องจากต้องการให้ทุกฝ่าย “เจ๊ากันไป” ทำให้คนเสื้อแดงที่สูญเสียรับไม่ได้ ก็ไหนปลุกระดมว่า “มาร์ค-เทือก” รวมทั้งบิ๊กกองทัพ เป็นคนสั่งฆ่าและคนฆ่า แต่จู่ๆ มาบอกว่าให้หยุด ให้ลืมง่ายๆ มันออกจะปาหี่แบบเห็นแก่ตัวไปหน่อย นี่แหละคือต้อง “ถอยแรก” อีกทั้งเพื่อต้องการให้การขับเคลื่อนพลังเป็นหนึ่งเดียวในเรื่องสนับสนุนแก้ไข รธน.
00 แต่ก็อีกนั่นแหละ ในบรรยากาศที่คนรู้ทันมันเพิ่มขึ้นทุกวัน อีกทั้งตัวแปรสำคัญก็คือ “ผลงานของรัฐบาล” เอาเข้าจริงมันไม่เข้าตา ไปเรื่อยๆ เรียงๆ แบบนี้มันไม่จุใจ ไม่ได้อย่างใจตามที่ชาวบ้านต้องการ เวลานี้ลองไปถามแม่ค้าริมถนนพิสูจน์ดูก็ได้ว่า ทำมาหากินเป็นอย่างไร เกือบร้อยทั้งร้อยบ่นรายได้หด กำไรน้อย หรือขาดทุน เพราะอะไร คนมันไม่มีกำลังซื้อ ต้องประหยัดใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น ส่วนหนึ่งมาจากแรงกระทบภายนอก ทำให้การส่งออกของไทยหดตัว ทำให้เกิดกระทบเป็นลูกโซ่ นี่ขนาดของจริงยังไม่มาจากวิกฤติยูโรโซน แต่อีกไม่นานต้องมาถึงแน่ เตรียมทำใจไว้เถอะ และนี่แหละจึงเป็นคำตอบว่า ทำไม “เสี่ยโต้ง” กิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.คลัง ที่เป็นหัวหน้าทีมศก. จึงได้ซุ่มวางแผนกู้ชุดใหญ่ 2 ล้านล้านบาท อ้างว่าเอามาลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน แต่ความหมายก็คือ นำมา “กระตุ้น” ศก.ภายในอย่างขนานใหญ่
00 ด้วยความเป็นจริงดังกล่าว มันยิ่งเป็นเหตุผลต้องถอย เพราะหากปลุกเหตุผลขึ้นมา ว่า พ.ร.บ.ล้างผิด รวมทั้ง การแก้ไขรธน.นี่มันเร่งด่วน และจำเป็นกับชาวบ้านตรงไป ยิ่งพูดก็ยิ่งเป็นผลลบ ดังนั้นเมื่อหยั่งกระแสก็รับรู้ว่า น่าจะถอยดีกว่า เพราะแรงต้านนับวันยิ่งแรง และหนักแน่นทุกที ไม่ใช่เป็นเพราะข้อเสนอของ “ค้อนปลอม” สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อะไรนั่นหรอก ถ้าถอยออกมานั่นแหละทำให้ตัวเองได้เกาะตำแหน่งได้นานขึ้นต่างหาก
00 ว่ากันถึงเรื่องแก้ไขรธน. ก็เหมือนกัน ล่าสุดก็เริ่มฝ่อลงเรื่อยๆ จากเดิมที่เคยปลุกเร้าให้คนเสื้อแดง มีการข่มขู่ตุลาการศาลรธน. แต่มาวันนี้เหมือนกับหนังคนละม้วน มีการสั่งการให้หยุดเคลื่อนไหว รอฟังอย่างเดียว ถ้าผลการตัดสินออกมาอย่างไร ก็ให้ยอมรับ แต่ก็วิงวอนว่าให้ยุติธรรมเท่านั้นเอง คำแถลงของหัวโจก อย่าง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ จตุพร พรหมพันธุ์ ก็เปลี่ยนไป เบรกมวลชนให้อยู่นิ่งๆ อาจเป็นเพราะภาพความถ่อย เถื่อน ที่ผ่านมาสร้างภาพลบ เป็นอันธพาล ชาวบ้านรับไม่ได้ ถามว่าถ้าเกิดการปะทะกันขึ้น แล้วคิดว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ จะอยู่ได้หรือ สู้อยู่นิ่งๆ กุมอำนาจรัฐเอาไว้ในมือต่อไปไม่ดีกว่า นี่แหละคือคำตอบว่า ทำไมต้องถอย เพราะถ้าไม่ถอย แม้วเจ๊งแน่ !!
00 เท่าที่ประเมินก่อนหน้านี้หากยังเดินหน้าแบบ “กินรวบ” นั่นคือ เสนอควบเข้ามาทั้ง ล้างผิด และแก้รธน. มาพร้อมกัน เล่นกันแบบแพ็กเกจชุดใหญ่อาจตกม้าตายทั้งคู่ ดีไม่ดีทำให้รัฐบาลของน้องสาวตัวเอง คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องอายุสั้นแบบซื่อบื้อเสียด้วยซี เพราะอย่างที่รู้กันว่า ร่าง กฎหมายล้างผิดนั้นมีแต่เสียงคัดค้านดังขรมไปหมด แม้กระทั่งพวกเดียวกันเองก็ยังรู้สึกอึดอัด บางส่วนไม่เอาด้วย เนื่องจากต้องการให้ทุกฝ่าย “เจ๊ากันไป” ทำให้คนเสื้อแดงที่สูญเสียรับไม่ได้ ก็ไหนปลุกระดมว่า “มาร์ค-เทือก” รวมทั้งบิ๊กกองทัพ เป็นคนสั่งฆ่าและคนฆ่า แต่จู่ๆ มาบอกว่าให้หยุด ให้ลืมง่ายๆ มันออกจะปาหี่แบบเห็นแก่ตัวไปหน่อย นี่แหละคือต้อง “ถอยแรก” อีกทั้งเพื่อต้องการให้การขับเคลื่อนพลังเป็นหนึ่งเดียวในเรื่องสนับสนุนแก้ไข รธน.
00 แต่ก็อีกนั่นแหละ ในบรรยากาศที่คนรู้ทันมันเพิ่มขึ้นทุกวัน อีกทั้งตัวแปรสำคัญก็คือ “ผลงานของรัฐบาล” เอาเข้าจริงมันไม่เข้าตา ไปเรื่อยๆ เรียงๆ แบบนี้มันไม่จุใจ ไม่ได้อย่างใจตามที่ชาวบ้านต้องการ เวลานี้ลองไปถามแม่ค้าริมถนนพิสูจน์ดูก็ได้ว่า ทำมาหากินเป็นอย่างไร เกือบร้อยทั้งร้อยบ่นรายได้หด กำไรน้อย หรือขาดทุน เพราะอะไร คนมันไม่มีกำลังซื้อ ต้องประหยัดใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น ส่วนหนึ่งมาจากแรงกระทบภายนอก ทำให้การส่งออกของไทยหดตัว ทำให้เกิดกระทบเป็นลูกโซ่ นี่ขนาดของจริงยังไม่มาจากวิกฤติยูโรโซน แต่อีกไม่นานต้องมาถึงแน่ เตรียมทำใจไว้เถอะ และนี่แหละจึงเป็นคำตอบว่า ทำไม “เสี่ยโต้ง” กิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.คลัง ที่เป็นหัวหน้าทีมศก. จึงได้ซุ่มวางแผนกู้ชุดใหญ่ 2 ล้านล้านบาท อ้างว่าเอามาลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน แต่ความหมายก็คือ นำมา “กระตุ้น” ศก.ภายในอย่างขนานใหญ่
00 ด้วยความเป็นจริงดังกล่าว มันยิ่งเป็นเหตุผลต้องถอย เพราะหากปลุกเหตุผลขึ้นมา ว่า พ.ร.บ.ล้างผิด รวมทั้ง การแก้ไขรธน.นี่มันเร่งด่วน และจำเป็นกับชาวบ้านตรงไป ยิ่งพูดก็ยิ่งเป็นผลลบ ดังนั้นเมื่อหยั่งกระแสก็รับรู้ว่า น่าจะถอยดีกว่า เพราะแรงต้านนับวันยิ่งแรง และหนักแน่นทุกที ไม่ใช่เป็นเพราะข้อเสนอของ “ค้อนปลอม” สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อะไรนั่นหรอก ถ้าถอยออกมานั่นแหละทำให้ตัวเองได้เกาะตำแหน่งได้นานขึ้นต่างหาก
00 ว่ากันถึงเรื่องแก้ไขรธน. ก็เหมือนกัน ล่าสุดก็เริ่มฝ่อลงเรื่อยๆ จากเดิมที่เคยปลุกเร้าให้คนเสื้อแดง มีการข่มขู่ตุลาการศาลรธน. แต่มาวันนี้เหมือนกับหนังคนละม้วน มีการสั่งการให้หยุดเคลื่อนไหว รอฟังอย่างเดียว ถ้าผลการตัดสินออกมาอย่างไร ก็ให้ยอมรับ แต่ก็วิงวอนว่าให้ยุติธรรมเท่านั้นเอง คำแถลงของหัวโจก อย่าง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ จตุพร พรหมพันธุ์ ก็เปลี่ยนไป เบรกมวลชนให้อยู่นิ่งๆ อาจเป็นเพราะภาพความถ่อย เถื่อน ที่ผ่านมาสร้างภาพลบ เป็นอันธพาล ชาวบ้านรับไม่ได้ ถามว่าถ้าเกิดการปะทะกันขึ้น แล้วคิดว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ จะอยู่ได้หรือ สู้อยู่นิ่งๆ กุมอำนาจรัฐเอาไว้ในมือต่อไปไม่ดีกว่า นี่แหละคือคำตอบว่า ทำไมต้องถอย เพราะถ้าไม่ถอย แม้วเจ๊งแน่ !!