เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
00 ทำเป็นปิดลับ ดูให้ภาพออกมาเป็นลับๆล่อๆ ให้คนภายนอกทั้งสื่อและคอการเมืองมองตามด้วยความหูผึ่งกับการที่ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีกำหนดการ ว.5 ดอดเข้าหารือกับบิ๊กกองทัพครบชุดใหญ่ ไล่ลงมาตั้งแต่รองนายกฯด้านความมั่นคงอย่าง พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ผบ.กองทัพไทย ปลัดกระทรวงกลาโหม ผบ.ทบ.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทร.และผบ.ทอ.ตบเท้าเข้ามายกแผงแบบนี้เรียกว่าธรรมดาได้ไง
00 งานนี้แม้ว่าจะไม่ได้พูดกันสักคำก็ไม่เป็นไร แต่เห็นนั่งกันหน้าสลอนรับรองว่านี่มันมีความหมายมากกว่าการเจรจาพาทีอีกทั้งพันคำเลยทีเดียว จะด้วย “จงใจ” หรือเปล่าว่าการ “สุมหัว” หารือกันในลักษณะ “ซุบซิบ” ไม่ธรรมดา หากมองในเชิงการเมืองในท่ามกลางสถานการณ์เข้าสู่ภาวะฉุกเฉินเรื่อยๆถือว่าเป็นการ “ส่งสัญญาณ” ออกไปบางอย่าง และ “ส่งไปถึงใคร” นี่สิน่าคิด
00 งานนี้ถ้ามองในเกมอำนาจแบบคิดมากก็ต้องบอกว่าเป็นการจงใจให้เกิด “ความระแวง”ระหว่าง “อำมาตย์” กับผู้นำเหล่าทัพก็เป็นได้ เพราะในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากศาลรธน.รับคำร้องเรื่องการแก้ไขรธน.ก็มีการเป่านกหวีดให้ลิ่วล้อเสื้อแดงออกมาด่าอำมาตย์อีกรอบ และในช่วงเวลานี้หากยังไม่ลืมก็ต้องบอกว่ากำลังอยู่ในช่วงของการพิจารณาของคณะกมธ.งบประมาณ กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม ถ้าหากเสนอว่าให้บิ๊กกองทัพอยู่เฉยๆไม่กี่เดือนก็เกษียณแล้วส่วนเรื่องงบประมาณซื้ออาวุธ และงบลับจิปาถะเสนอมาเท่าไหร่เดี๋ยว “จัดให้” เต็มที่ จะเอามั๊ย มันก็น่าคิดเหมือนกัน
00 แต่ขอโทษไม่ใช่ต้องการปรามาส แต่งานนี้ การพบกันแบบลับๆดังกล่าวไม่ใช่เกิดขึ้นจากมันสมองของ ปู-ยิ่งลักษณ์ แน่นอน แต่เป็นเกมที่คิดขึ้นมาจากบรรดากุนซือที่อยู่ข้างกาย ทักษิณ ชินวัตร ที่แดนไกลโน่น เป็นการ “ยิงนัดเดียว” ได้นกหลายตัว นั่นสร้างความหวาดระแวงระหว่างบิ๊กกองทัพกับอำมาตย์ ขณะเดียวกันก็เอาใจปรนเปรอเรื่องงบประมาณอย่างเต็มที่ดังกล่าว เรื่องแบบนี้แหละที่มัดใจดีนักแล
00 ตั้งแต่วันนี้(4 ก.ค.) เป็นต้นไปสำหรับคดีในศาลรธน.เรื่องข้อร้องเรียนกรณีล้มล้างการปกครองฯก็ถือว่า “นับถอยหลัง” เพราะศาลได้ให้โอกาสทั้งฝ่ายผู้ร้องและผู้ถูกร้องยื่นเอกสาร พยานกันหมดสิ้นแล้ว ต่อไปในวันรุ่งขึ้นคือ 5-6 ก.ค.ก็จะนัดไต่สวนทั้งสองฝ่ายตามลำดับ ทีนี้ก็ต้องลุ้นระทึกกันแล้วพ่อคุณเอ๋ย แต่เห็นอาการของลิ่วล้อทักษิณที่แสดงออกมาร้อนรนมันก็ยิ่งเห็นความผิดปกติ ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาจาก “สัมผัสที่หก” ก็น่าจะเดาออกล่วงหน้าว่าผลจะเป็นแบบไหน เอวัง !!