xs
xsm
sm
md
lg

ปิดร.ร.กวดวิชาเถื่อนกทม.ล้อมคอก50เขต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เด็กนักเรียนเหยื่อเหตุไฟไหม้ ร.ร.กวดวิชาเถื่อนกลางเมืองโคราช 25 ราย แพทย์อนุญาตให้ทยอยกลับบ้านหมดแล้ว ด้าน ตร.พิสูจน์หลักฐานและ รองผอ.สพป.นม.เขต 1 เข้าตรวจที่เกิดเหตุ เผยสั่งปิด ร.ร.กวดวิชาครูแจ๋วเถื่อนพร้อมแจ้งความดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน มีโทษทั้งติดคุกและปรับ ด้าน กทม.ผวาสั่ง 50 เขตตรวจแผนหนีไฟโรงเรียนกวดวิชา

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนกวดวิชา ครูแจ๋ว เลขที่ 99/110 ถ.มนัส เขตเทศบาลนครนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นตึกอาคารขนาด 4 ชั้น 2 คูหา ที่มีนางพนัชกร สิงห์เจริญกิจ หรือ “ครูแจ๋ว” อายุ 54 ปี ข้าราชการครู เป็นเจ้าของ ส่งผลให้เด็กนักเรียนที่กำลังเรียนพิเศษอยู่ภายในอาคารดังกล่าวกว่า 150 คน ต้องวิ่งหนีตายกันอลหม่าน และสำลักควันได้รับบาดเจ็บถูกส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลต่างๆ รวม 25 ราย เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า เมื่อเวลา 11.00 น.วานนี้ (25 มิ.ย.) ผู้บาดเจ็บที่ถูกส่งเข้าพักรักษายังโรงพยาบาลดังกล่าวแพทย์ให้อนุญาตให้กลับบ้านทั้งหมดแล้ว

ด้าน พ.ต.อ.เสรี จันทรประทิน รอง ผบก.ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมสารวัตรศูนย์พิสูจน์หลักฐานได้เดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ โรงเรียนกวดวิชาครูแจ๋ว ที่บริเวณชั้นลอยที่มีการต่อเติมทำเป็นชั้น 2 โดยมีนายฐาปนันท์ สิงห์เจริญกิจ อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นครูสอน และเป็นบุตรชายของนางพนัชกร เจ้าของ นำขึ้นไปชี้ร่องรอยจุดเกิดเหตุไฟไหม้ ซึ่งบริเวณชั้นลอยมีการกั้นเป็นห้องๆ จำนวน 3 ห้อง มีห้องเรียน 2 ห้อง และห้องพักของครู 1 ห้อง ภายในมีเครื่องคอมพิวเตอร์ โซฟา ที่นอน เสื้อผ้า พัดลม ฝากั้นห้องทำด้วยไม้ รวมทั้ง โต๊ะ เก้าอี้ ของใช้พลาสติกจำนวนมากถูกไฟไหม้เกรียมเสียหายทั้งหมด

นพ.วรรณณัตน์ ชาญนุกูล ส.ส. เขต 1 นครราชสีมา และหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) และ นายพรหมมินทร์ ศรีหมื่นไวย รองผู้อำนวยการสำนักงานพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครราชสีมา เขต 1 (รอง ผอ.สพป.นม.เขต 1) ได้เดินทางมาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ โดยพบว่ามีการต่อเติมชั้นลอยและมีการกั้นห้องเรียนจำนวนมากในทุกชั้น ทางขึ้นลงบันไดคับแคบ ไม่มีระบบความปลอดภัยในตัวอาคาร ไม่มีบันไดหนีไฟหน้าต่างติดเหล็กดัดอย่างแน่นหนา ด้านหลังตัวอาคารปิดสนิทไม่มีทางออกฉุกเฉิน รวมทั้งภายในห้องเรียนมีความแออัดมากเกินไป อากาศถ่ายเทไม่สะดวก ส่วนบริเวณชั้น 3-4 ของอาคาร ไม่ได้รับความเสียหายจากไฟไหม้ มีเพียงกลิ่นของควันไฟที่ยังหลงเหลืออยู่บ้าง

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานยังไม่สามารถระบุสาเหตุการเกิดไฟไหม้ได้ชัดเจนได้ ต้องใช้เวลาตรวจพิสูจน์อีกประมาณ 2-3 วัน จึงจะสรุปผลได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่าสาเหตุไฟไหม้น่าจะเป็นไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้โรงเรียนแห่งนี้มีการทำประกันภัยไว้กับ บริษัท กรุงเทพประกันภัย ซึ่ง นางพนัชกร สิงห์เจริญกิจ เจ้าของโรงเรียนกวดวิชาครูแจ๋ว จะขอรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด และล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ตั้งข้อหาดำเนินคดีกับเจ้าของโรงเรียนกวดวิชาครูแจ๋วและผู้เกี่ยวข้องแต่อย่างใด

นายพรหมมินทร์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า โรงเรียนกวดวิชา“ครูแจ๋ว”ไม่มีใบอนุญาตประกอบการ แต่ได้แอบเปิดทำการกวดวิชามาเป็นระยะเวลากว่า 7 ปีแล้ว อาคารที่เปิดสอนกวดวิชาก็ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีบันไดหนีไฟ และระบบรักษาความปลอดภัยพื้นฐาน ซึ่ง ทาง สพป. จะดำเนินการตามกฎหมายโดยประสานกับตำรวจเพื่อแจ้งความดำเนินการตามระเบียบกฎหมายที่กำหนด ตาม พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550 มาตรา 147 อัตราโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ทั้งปรับทั้งจำ ซึ่งเป็นเรื่องละเลยไม่ได้

**สช.สั่ง สพป.โคราชรายงานข้อเท็จจริง

ด้านนายชาญวิทย์ ทับสุพรรณ เลขาธิการ กช.กล่าวว่า ได้แจ้งไปยัง สพป.นครราชสีมา ให้รายงานข้อเท็จจริงมายังสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) โดยด่วนแล้ว ซึ่ง พ.ร.บ.การศึกษาเอกชน พ.ศ.2550 โรงเรียนเอกชนหรือโรงเรียนกวดวิชาที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคหรือตามจังหวัดต่างๆ ก็ได้มอบให้ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาทุกเขตเป็นผู้ดูแลโรงเรียนเอกชนในเขตพื้นที่นั้นๆ ทั้งให้อำนาจในการอนุญาตจัดตั้งโรงเรียน ติดตาม ตรวจสอบดำเนินคดี แต่หากเป็นโรงเรียนที่อยู่ในเขตพื้นที่ กทม.ทาง สช.จะเป็นผู้ดูแลเอง

"จากรายงานพบว่าโรงเรียนดังกล่าวไม่ได้ขออนุญาตจัดตั้งมายังเขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งถือว่าผิดกฏหมาย พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน มาตรา 120 ที่กำหนดให้การจัดตั้งโรงเรียนนอกระบบต้องได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาติ รวมทั้งการจัดการเรียนการสอนและหลักสูตรของโรงเรียนนอกระบบ ต้องเป็นไปตามที่คณะกรรมการ สช.กำหนด เพราะฉะนั้น จะมีโทษตามมาตรา 147 ให้ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่อนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

**กทม.ผวาสั่ง50เขตตรวจแผนหนี

ทางด้านนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงโรงเรียนกวดวิชาที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นได้เกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ว่า แม้ว่าในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว แต่จำนวนสถาบันและโรงเรียนกวดวิชามีอยู่เป็นจำนวนมาก จึงสั่งการให้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต สำรวจอาคารที่เปิดที่เป็นโรงเรียนกวดวิชาว่ามีจำนวนเท่าไหร่ และให้ตรวจสอบใบอนุญาตการใช้อาคารว่าถูกต้องตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคารหรือไม่ โดยคาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 30 วัน ซึ่งหากพบว่าอาคารใดไม่ถูกต้อง อาทิ ไม่มีบันไดหนีไฟ ป้ายบอกทางหนีไฟ ทางเขตฯ จะแจ้งให้เจ้าของอาคารปรับปรุงแก้ไขภายใน 30 วัน หรือหากไม่สามารถทำได้ตามเวลาที่กำหนด เจ้าของอาคารก็มีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์เพื่อทำการแก้ไขให้เสร็จต่อไปอีก 30 วัน แต่ถ้ายังไม่มีการแก้ไข ผู้อำนวยการเขตในพื้นที่นั้นๆ จะดำเนินคดีทางแพ่งและอาญา ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 90 วัน หรือภายในเดือนต.ค.นี้

"ผู้ที่จะเปิดโรงเรียนหรือสถาบันกวดวิชา ต้องขอใบอนุญาตการใช้อาคารจากกทม.ก่อน แล้วค่อยไปขอใบอนุญาตประกอบการจากกระทรวงศึกษาธิการ แม้ว่ายังไม่เกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้อย่างที่จ.นครราชสีมา แต่กทม.ก็ต้องเข้มงวดมากขึ้นเช่นกัน เพราะบางแห่งมีขนาดใหญ่ มีนักเรียนหลายร้อยคน ไม่ต่างจากโรงภาพยนต์หรือศูนย์การค้า โดยเฉพาะบางพื้นที่ที่มีโรงเรียนกวดวิชาจำนวนมาก อาทิ สยามสแควร์ ย่านปิ่นเกล้า และบริเวณถนนงามวงศ์วาน ดังนั้นขอให้เจ้าของอาคารคำนึงถึงความปลอดภัยของนักเรียนด้วย"นายธีระชน กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น