xs
xsm
sm
md
lg

สช.สั่ง สพป.โคราช ตรวจพบ ร.ร.กวดวิชาครูแจ๋ว ไม่ได้รับใบอนุญาต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สช.สั่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาโคราช รายงานข้อเท็จจริงให้ สช.ทราบด่วน กรณีโรงเรียนกวดวิชาครูแจ๋วไฟไหม้

วันนี้ (25 มิ.ย.) นายชาญวิทย์ ทับสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(เลขาธิการ กช.) กล่าวถึงกรณีโรงเรียนกวดวิชาครูแจ๋ว เขตเทศบาลนครราชสีมา จ.นครราชสีมา เกิดเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้เด็กนักเรียนที่นั่งเรียนกวดวิชาอยู่จำนวนกว่า 150 คนวิ่งหนีตายกันอลหม่าน และมีเด็กนักเรียน 27 คนสำลักควันไฟอาการสาหัสว่า ตนได้แจ้งไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) นครราชสีมา ให้รายงานข้อเท็จจริงมายังสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) โดยด่วนแล้ว อย่างไรก็ตาม พ.ร.บ.การศึกษาเอกชน พ.ศ. 2550 โรงเรียนเอกชนหรือโรงเรียนกวดวิชาที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคหรือตามจังหวัดต่างๆ ก็ได้มอบให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาทุกเขตเป็นผู้ดูแลโรงเรียนเอกชนในเขตพื้นที่นั้นๆ ทั้งให้อำนาจในการอนุญาตจัดตั้งโรงเรียน ติดตาม ตรวจสอบดำเนินคดี แต่หากเป็นโรงเรียนที่อยู่ในเขตพื้นที่ กทม. ทาง สช.จะเป็นผู้ดูแลเอง

เลขาธิการ กช.กล่าวต่อว่า จากการรายงานพบว่าโรงเรียนดังกล่าวไม่ได้ขออนุญาตจัดตั้งมายังเขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน มาตรา 120 ที่กำหนดให้การจัดตั้งโรงเรียนนอกระบบต้องได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต รวมทั้งการจัดการเรียนการสอนและหลักสูตรของโรงเรียนนอกระบบ ต้องเป็นไปตามที่คณะกรรมการ สช.กำหนด เพราะฉะนั้นจะมีโทษตามมาตรา 147 ให้ระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ต้องเป็นหน้าที่ของเขตพื้นที่การศึกษาจะไปแจ้งความดำเนินคดี รวมทั้งลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงซึ่งตนได้ทำหนังสือถึงเขตพื้นที่การศึกษา แล้วว่าให้ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงโดยด่วน พร้อมกันนี้ให้ทำหนังสือชี้แจงมาด้วยว่าเหตุใดทางเขตพื้นที่การศึกษาจึงไม่ทราบเรื่องการเปิดสอนของโรงเรียนแห่งนี้ ทั้งที่เปิดทำการเรียนการสอนมาระยะเวลา 7 ปีแล้ว

“ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้นั้นมาจากหม้อแปลงไฟระเบิด ขณะเดียวกันก็ทราบว่าที่โรงเรียนไม่มีทางหนีไฟ ซึ่งตามกฎหมายแล้วอาคารเรียนของโรงเรียนกวดวิชาจะต้องมีความมั่นคง มีบันไดหนีไฟ มีพื้นที่ให้นักเรียน 1 คน ต่อ 1 ตารางเมตร และมีครูดูแลนักเรียน 1 ต่อ 30 หากเป็นโรงเรียนกวดวิชาที่อยู่ใน กทม. อาคารเรียนจะต้องผ่านการตรวจสอบจาก กทม. แต่ถ้าเป็นโรงเรียนในต่างจังหวัด อาคารเรียนจะต้องผ่านการตรวจสอบจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีกฎหมายของกระทรวงมหาดไทยควบคุมไว้ เพราะฉะนั้น โรงเรียนเถื่อนจะมีความผิดทั้งตามกฎหมายโรงเรียนเอกชน และกฎหมายกระทรวงมหาดไทย สำหรับเจ้าของโรงเรียนแห่งนี้หากเป็นข้าราชการ สช.ก็จะแจ้งไปยังต้นสังกัดให้สอบสวนเอาผิดทางวินัยต่อเจ้าของ
โรงเรียนด้วย” นายชาญวิทย์กล่าว และว่า เพื่อสามารถตรวจสอบข้อมูลโรงเรียนกวดวิชา หรือโรงเรียนเสริมสวย ฯลฯ ทุกแห่งที่ขึ้นตรงกับ สช.จัดส่งรายงานงบดุลประจำปีของสถานประกอบการมายัง สช.ภายในสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งเป็นไปตามที่กำหนดใน พ.ร.บ.การศึกษาเอกชน พ.ศ. 2550 กำหนดให้ปฏิบัติตาม ทั้งนี้ การจัดส่งข้อมูลดังกล่าวจะทำให้ต่อไปเราจะสามารถจำแนกโรงเรียนที่เปิดสอนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย หรือโรงเรียนใดเป็นโรงเรียนเถื่อน

ด้าน ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ได้สั่งการให้ สช. และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานซึ่งเป็นต้นสังกัดของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ ไปตรวจสอบโรงเรียนกวดวิชาทุกแห่งทั่วประเทศ ว่า มีใบอนุญาตจัดตั้งถูกต้องทุกแห่งหรือไม่ และอาคารเรียน สถานที่มีมาตรฐานตามที่กำหนดไว้หรือไม่ โดยเฉพาะในเรื่องของทางหนีไฟ หากพบว่า โรงเรียนกวดวิชาแห่งใดไม่มีใบอนุญาตจัดตั้ง ให้แจ้งความดำเนินคดี ส่วนโรงเรียนใดที่ยังจัดอาคารสถานที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็ต้องมีการปรับปรุงให้ถูกต้อง
กำลังโหลดความคิดเห็น