ASTVผู้จัดการรายวัน -ระทึก! เกิดเหตุไฟไหม้ตึก 4 ชั้นโรงเรียนกวดวิชาชื่อดังกลางเมืองโคราช เด็กนักเรียนกว่า 150 คนหนีตายอลหม่าน-วิ่งขึ้นดาดฟ้า จนท.ระดมดับเพลิงและนำรถฉุกเฉินส่งบันไดขึ้นไปเร่งช่วยเหลือลำเลียงลงมา เผยสำลักควันบาดเจ็บ 24 ราย ด้าน ตร.คาดไฟฟ้าลัดวงจรสูญกว่า 5 ล้าน สั่งระงับใช้อาคารชั่วคราว แฉโรงเรียนแห่งนี้ไม่มีใบอนุญาต ขณะเดียวกันยังพบว่ามีโรงเรียนกวดวิชาที่ไม่มีใบอนาคตอีกร่วม 100 แห่งด้วย
วานนี้ (24 มิ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ร.ต.อ.อุดร ขัดแก้ว ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้ที่โรงเรียนกวดวิชา “ครูแจ๋ว” เลขที่ 99/101 ถ.มนัส เขตเทศบาลนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ตรงข้ามกับอาคารราชสีมาเซ็นเตอร์ ส่งผลให้เด็กนักเรียนที่กำลังเรียนกวดวิชาอยู่ได้รับบาดเจ็บจากการสำลักควันจำนวนมากและมีเด็กติดอยู่ในอาคารอีกกว่า 20 คน จึงได้ประสานรถดับเพลิง และรถกู้ภัยฉุกเฉินของเทศบาลนครนครราชสีมาเข้าช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน
ในที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ขนาด 4 ชั้น จำนวน 2 คูหา เปิดเป็นโรงเรียนกวดวิชานักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 6 (ป.6) ที่จะเข้าศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (ม.3) เข้าศึกษาต่อชั้น ม.4 โดยมีนางพนัชกร สิงห์เจริญกิจ อายุ 54 ปี หรือ“ครูแจ๋ว”อยู่บ้านเลขที่ 210 ม.9 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นเจ้าของ
ขณะเกิดเหตุกำลังทำการเรียนการสอนอยู่ ส่งผลให้ครูและเด็กนักเรียนกว่า 150 คนวิ่งหนีตายเอาตัวรอดออกมาจากจุดเกิดเหตุอย่างโกลาหล โดยต้นเพลิงเกิดขึ้นที่บริเวณชั้น 2 ของอาคาร ซึ่งเป็นที่ติดตั้งแผงควบคุมระบบไฟฟ้าของอาคารดังกล่าว
โดยนักเรียนชั้น ป. 6 ที่กำลังเรียนกวดวิชาอยู่บริเวณชั้น 4 จำนวน 21 คน ไม่สามารถวิ่งออกมาจากอาคารได้เนื่องจากต้นเพลิงลุกไหม้อยู่บริเวณชั้น 2 และ มีกลุ่มควันจำนวนมาก ครูผู้สอนต้องนำเด็กนักเรียนวิ่งหนีขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้า ซึ่งเด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บจากการสำลักควัน บางคนหายใจไม่ออก แสบร้อนตา จมูก ทางเทศบาลนครนครราชสีมา ได้นำรถกู้ภัยฉุกเฉินส่งบันไดขึ้นไปเร่งลำเลียงเด็กนักเรียนจากชั้นดาดฟ้าลงมาอย่างปลอดภัย และนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลใกล้เคียง ซึ่งเด็กส่วนใหญ่มีอาการหายใจติดขัด แสบร้อนตา จมูก เนื่องจากสำลักควันไฟ รวมผู้บาดเจ็บจำนวน 24 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องทุบกระจกชั้น 2 เข้าไประดมฉีดน้ำดับเพลิง ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถดับเพลิงได้
จากการสอบสวน นางพนัชกร สิงห์เจริญกิจ หรือ ครูแจ๋ว เจ้าของโรงเรียนกวดวิชาดังกล่าว ทราบว่า ได้เปิดเป็นโรงเรียนกวดวิชามานานกว่า 7 ปีแล้ว ซึ่งวันนี้ขณะที่ทางโรงเรียนกำลังมีการเรียนการสอนเด็กนักเรียนชั้น ป.6 และ ม.3 อายุระหว่าง 11-14 ปี ซึ่งกระจายกันเรียนตามห้องเรียนที่จัดไว้ให้กว่า 150 คนตามปกติ ก็ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดเกิดขึ้นที่บริเวณชั้น 2 ซึ่งเป็นจุดที่ติดตั้งแผงควบคุมไฟฟ้าในตัวอาคารทั้งหมด
จากนั้นไฟได้ลุกไหม้ตัวอาคารและมีกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุ่งออกมา ครูผู้สอนได้ช่วยกันนำเด็กนักเรียนที่อยู่บริเวณชั้น 1 และ 2 หนีออกมาจากตัวอาคาร แต่เด็กนักเรียนที่เรียนอยู่ชั้น 4 ของอาคารไม่สามารถลงมาได้เพราะไฟลุกไหม้และมีควันจำนวนมากที่บริเวณชั้น 2 จึงพาเด็กวิ่งหนีขึ้นไปชั้นดาดฟ้า และเรียกเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ตนพร้อมที่จะรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.สนธยา แต่แดงเพชร ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา กล่าวว่า สาเหตุเบื้องต้นจากการสอบปากคำพยานน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งได้ประสานให้เจ้าหน้าที่กลุ่มงานตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 มาตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง ส่วนมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท สำหรับอาคารดังกล่าวได้ประสานเจ้าหน้าที่กองช่าง เทศบาลนครนครราชสีมา สั่งระงับการใช้อาคารชั่วคราว จนกว่าจะมีการยืนยันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนว่าปลอดภัย
ส่วนเจ้าของอาคาร และบรรดาครู จะเชิญตัวมาให้ปากคำภายหลัง สำหรับเด็กนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บจากการสำลักควันขณะนี้มีอาการปลอดภัยทั้งหมดแล้วแต่ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์ ซึ่งเข้ารักษาอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาจำนวน 16 คน, โรงพยาบาลโคราชเมโมเรียล 6 คน และโรงพยาบาล ป.แพทย์ นครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา 2 คน รวม 24 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ และเยี่ยมอาการของเด็กนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บดังกล่าวที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา
**แฉ ร.ร.กวดวิชาไม่มีใบอนุญาต
ด้านนายเผด็จศึก โชติกลาง รอง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปฐมศึกษานครราชสีมา เขต 1 (สพป.นม.เขต 1) ประธานคณะกรรมการดูแลรับผิดชอบโรงเรียนเอกชนและโรงเรียนกวดวิชา ในพื้น สพป.นม.เขต 1 กล่าวว่า โรงเรียนกวดวิชาแห่งนี้ไม่มีใบอนุญาตประกอบการ แต่แอบเปิดทำการกวดวิชามาเป็นระยะเวลาเกือบ 10 ปีแล้ว โดยที่ทาง สพป.นม.เขต 1 ไม่ได้เข้ามาตรวจสอบมาตรฐานของตัวอาคารและห้องเรียนแต่อย่างใด จึงไม่มีบันไดหนีไฟ และระบบรักษาความปลอดภัยเท่าที่ควร โชคดีที่อาคารมีชั้นดาดฟ้า ทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิง สามารถใช้รถบันไดสูงช่วยเหลือนำเด็กทุกคนลงมาได้ด้วยความปลอดภัย
นายเผด็จศึก กล่าวว่า ปกติโรงเรียนกวดวิชาที่มีใบอนุญาตนั้นทาง สพป.นม.เขต 1 จะมีการตรวจสอบมาตรฐานหลายด้าน ทั้งด้านวิชาการ สถานที่ตั้ง มาตรฐานการก่อสร้างอาคาร ห้องเรียน และระบบรักษาความปลอดภัย ซึ่งรวมถึงทางหนีไฟด้วย แต่ในปัจจุบันมีโรงเรียนกวดวิชาเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของ สพป.นม.เขต 1 คาดว่าจะมีถึง 150 แห่ง แต่มีเพียง 50 แห่งเท่านั้นที่มีใบอนุญาตประกอบการ
ส่วนอีกประมาณ 100 แห่งล้วนเปิดทำการเรียนการสอนอย่างผิดกฎหมายทั้งสิ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบโรงเรียนกวดวิชาของ สพป.นม.เขต 1 มีเพียง 5 คน จึงทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างทั่วถึง นอกจากนี้ ไม่มีกฎหมายที่จะเอาผิดโรงเรียนกวดวิชาเถื่อน จึงทำได้เพียงว่ากล่าวตักเตือนและขอร้องให้ไปยื่นขอใบอนุญาตให้ถูกต้องเท่านั้น
วานนี้ (24 มิ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ร.ต.อ.อุดร ขัดแก้ว ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้ที่โรงเรียนกวดวิชา “ครูแจ๋ว” เลขที่ 99/101 ถ.มนัส เขตเทศบาลนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ตรงข้ามกับอาคารราชสีมาเซ็นเตอร์ ส่งผลให้เด็กนักเรียนที่กำลังเรียนกวดวิชาอยู่ได้รับบาดเจ็บจากการสำลักควันจำนวนมากและมีเด็กติดอยู่ในอาคารอีกกว่า 20 คน จึงได้ประสานรถดับเพลิง และรถกู้ภัยฉุกเฉินของเทศบาลนครนครราชสีมาเข้าช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน
ในที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ขนาด 4 ชั้น จำนวน 2 คูหา เปิดเป็นโรงเรียนกวดวิชานักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 6 (ป.6) ที่จะเข้าศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (ม.3) เข้าศึกษาต่อชั้น ม.4 โดยมีนางพนัชกร สิงห์เจริญกิจ อายุ 54 ปี หรือ“ครูแจ๋ว”อยู่บ้านเลขที่ 210 ม.9 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นเจ้าของ
ขณะเกิดเหตุกำลังทำการเรียนการสอนอยู่ ส่งผลให้ครูและเด็กนักเรียนกว่า 150 คนวิ่งหนีตายเอาตัวรอดออกมาจากจุดเกิดเหตุอย่างโกลาหล โดยต้นเพลิงเกิดขึ้นที่บริเวณชั้น 2 ของอาคาร ซึ่งเป็นที่ติดตั้งแผงควบคุมระบบไฟฟ้าของอาคารดังกล่าว
โดยนักเรียนชั้น ป. 6 ที่กำลังเรียนกวดวิชาอยู่บริเวณชั้น 4 จำนวน 21 คน ไม่สามารถวิ่งออกมาจากอาคารได้เนื่องจากต้นเพลิงลุกไหม้อยู่บริเวณชั้น 2 และ มีกลุ่มควันจำนวนมาก ครูผู้สอนต้องนำเด็กนักเรียนวิ่งหนีขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้า ซึ่งเด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บจากการสำลักควัน บางคนหายใจไม่ออก แสบร้อนตา จมูก ทางเทศบาลนครนครราชสีมา ได้นำรถกู้ภัยฉุกเฉินส่งบันไดขึ้นไปเร่งลำเลียงเด็กนักเรียนจากชั้นดาดฟ้าลงมาอย่างปลอดภัย และนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลใกล้เคียง ซึ่งเด็กส่วนใหญ่มีอาการหายใจติดขัด แสบร้อนตา จมูก เนื่องจากสำลักควันไฟ รวมผู้บาดเจ็บจำนวน 24 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องทุบกระจกชั้น 2 เข้าไประดมฉีดน้ำดับเพลิง ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถดับเพลิงได้
จากการสอบสวน นางพนัชกร สิงห์เจริญกิจ หรือ ครูแจ๋ว เจ้าของโรงเรียนกวดวิชาดังกล่าว ทราบว่า ได้เปิดเป็นโรงเรียนกวดวิชามานานกว่า 7 ปีแล้ว ซึ่งวันนี้ขณะที่ทางโรงเรียนกำลังมีการเรียนการสอนเด็กนักเรียนชั้น ป.6 และ ม.3 อายุระหว่าง 11-14 ปี ซึ่งกระจายกันเรียนตามห้องเรียนที่จัดไว้ให้กว่า 150 คนตามปกติ ก็ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดเกิดขึ้นที่บริเวณชั้น 2 ซึ่งเป็นจุดที่ติดตั้งแผงควบคุมไฟฟ้าในตัวอาคารทั้งหมด
จากนั้นไฟได้ลุกไหม้ตัวอาคารและมีกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุ่งออกมา ครูผู้สอนได้ช่วยกันนำเด็กนักเรียนที่อยู่บริเวณชั้น 1 และ 2 หนีออกมาจากตัวอาคาร แต่เด็กนักเรียนที่เรียนอยู่ชั้น 4 ของอาคารไม่สามารถลงมาได้เพราะไฟลุกไหม้และมีควันจำนวนมากที่บริเวณชั้น 2 จึงพาเด็กวิ่งหนีขึ้นไปชั้นดาดฟ้า และเรียกเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ตนพร้อมที่จะรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.สนธยา แต่แดงเพชร ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา กล่าวว่า สาเหตุเบื้องต้นจากการสอบปากคำพยานน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งได้ประสานให้เจ้าหน้าที่กลุ่มงานตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 มาตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง ส่วนมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท สำหรับอาคารดังกล่าวได้ประสานเจ้าหน้าที่กองช่าง เทศบาลนครนครราชสีมา สั่งระงับการใช้อาคารชั่วคราว จนกว่าจะมีการยืนยันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนว่าปลอดภัย
ส่วนเจ้าของอาคาร และบรรดาครู จะเชิญตัวมาให้ปากคำภายหลัง สำหรับเด็กนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บจากการสำลักควันขณะนี้มีอาการปลอดภัยทั้งหมดแล้วแต่ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์ ซึ่งเข้ารักษาอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาจำนวน 16 คน, โรงพยาบาลโคราชเมโมเรียล 6 คน และโรงพยาบาล ป.แพทย์ นครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา 2 คน รวม 24 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ และเยี่ยมอาการของเด็กนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บดังกล่าวที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา
**แฉ ร.ร.กวดวิชาไม่มีใบอนุญาต
ด้านนายเผด็จศึก โชติกลาง รอง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปฐมศึกษานครราชสีมา เขต 1 (สพป.นม.เขต 1) ประธานคณะกรรมการดูแลรับผิดชอบโรงเรียนเอกชนและโรงเรียนกวดวิชา ในพื้น สพป.นม.เขต 1 กล่าวว่า โรงเรียนกวดวิชาแห่งนี้ไม่มีใบอนุญาตประกอบการ แต่แอบเปิดทำการกวดวิชามาเป็นระยะเวลาเกือบ 10 ปีแล้ว โดยที่ทาง สพป.นม.เขต 1 ไม่ได้เข้ามาตรวจสอบมาตรฐานของตัวอาคารและห้องเรียนแต่อย่างใด จึงไม่มีบันไดหนีไฟ และระบบรักษาความปลอดภัยเท่าที่ควร โชคดีที่อาคารมีชั้นดาดฟ้า ทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิง สามารถใช้รถบันไดสูงช่วยเหลือนำเด็กทุกคนลงมาได้ด้วยความปลอดภัย
นายเผด็จศึก กล่าวว่า ปกติโรงเรียนกวดวิชาที่มีใบอนุญาตนั้นทาง สพป.นม.เขต 1 จะมีการตรวจสอบมาตรฐานหลายด้าน ทั้งด้านวิชาการ สถานที่ตั้ง มาตรฐานการก่อสร้างอาคาร ห้องเรียน และระบบรักษาความปลอดภัย ซึ่งรวมถึงทางหนีไฟด้วย แต่ในปัจจุบันมีโรงเรียนกวดวิชาเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของ สพป.นม.เขต 1 คาดว่าจะมีถึง 150 แห่ง แต่มีเพียง 50 แห่งเท่านั้นที่มีใบอนุญาตประกอบการ
ส่วนอีกประมาณ 100 แห่งล้วนเปิดทำการเรียนการสอนอย่างผิดกฎหมายทั้งสิ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบโรงเรียนกวดวิชาของ สพป.นม.เขต 1 มีเพียง 5 คน จึงทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างทั่วถึง นอกจากนี้ ไม่มีกฎหมายที่จะเอาผิดโรงเรียนกวดวิชาเถื่อน จึงทำได้เพียงว่ากล่าวตักเตือนและขอร้องให้ไปยื่นขอใบอนุญาตให้ถูกต้องเท่านั้น
