ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ตะลึง! งูเหลือมยักษ์เลื้อยเข้าไปขดตัวอยู่ในห้องเครื่องยนต์รถกู้ภัยโคราช เชื่อเป็น “งูเจ้าที่” คาดงูยักษ์เลื้อยเข้าไปอยู่ในรถขณะอาสาสมัครขับไปช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ แต่รถยังใช้งานได้ดีจนปฏิบัติงานเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่าครึ่งชั่วโมงจึงช่วยออกมาได้ก่อนนำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ
วันนี้ (23 พ.ค.) ที่มูลนิธิหลักเสียงเซี่ยงตึ้ง สว่างเมตตาธรรมสถาน อ.เมือง จ.นครราชสีมา อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาธรรมสถานได้ช่วยกันรื้อบริเวณหลังกันชนหน้ารถยนต์กระบะฟอร์ด เรนเจอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน ผค 6888 นครราชสีมา ซึ่งเป็นรถกู้ภัยคันที่ 17 ของมูลนิธิหลักเสียงเซี่ยงตึ้ง สว่างเมตตาธรรมสถาน หลังจากพบมีงูเหลือมขนาดใหญ่ความยาวกว่า 3 เมตร ได้เลื้อยเข้าไปขดตัวอยู่ภายในห้องเครื่องยนต์ของรถคันดังกล่าว
อาสาสมัครกู้ภัยพยายามช่วยกันดึงตัวงูเหลือมยักษ์ออกมาจากห้องเครื่องยนต์ เพราะเกรงว่างูจะได้รับอันตรายจากความร้อนของเครื่องยนต์อาจทำให้ตายได้ โดยใช้เวลานานกว่าครึ่งชั่วโมงจึงสามารถดึงงูเหลือมยักษ์ออกมาได้
จากการสอบถาม นายสมประสงค์ กล้ากลาง อายุ 28 ปี อาสาสมัครกู้ชีพ หน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาธรรมสถาน ซึ่งเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบรถกู้ภัยคันดังกล่าว ทราบว่า ก่อนหน้านี้ตนและเพื่อนอาสาสมัครกู้ภัยได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนกันและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่บริเวณ ถ.ท้าวสุระ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา จึงขับรถกู้ภัยออกไปให้การช่วยเหลือ แต่ระหว่างขับรถไปถึงบริเวณด้านหน้ามูลนิธิฯ สังเกตเห็นงูเหลือมยักษ์ตัวนี้เลื้อยตัดหน้ารถกลางถนน จึงได้หยุดรถเพื่อให้งูเลื้อยข้ามถนนไปก่อน
โดยให้เพื่อนอาสาสมัครกู้ภัยลงไปดูแต่ไม่พบงูตัวดังกล่าวแล้ว คิดว่างูน่าจะเลื้อยผ่านรถไปแล้ว จึงขับรถกู้ภัยคันนี้ไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุดังกล่าว และนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาก่อนจะขับรถกลับมามูลนิธิฯ แต่ขณะกำลังดับเครื่องยนต์เพื่อจอดรถในโรงรถ สังเกตอาการของเครื่องยนต์ผิดปกติ จึงเปิดห้องเครื่องยนต์ดูถึงกับตกใจ เมื่อพบงูเหลือมยักษ์นอนขดตัวอยู่ในห้องเครื่องยนต์ จึงช่วยกันพยายามดึงงูเหลือมตัวดังกล่าวออกมาเนื่องจากเกรงว่าความร้อนของเครื่องยนต์จะทำให้งูตายได้
สำหรับงูเหลือมตัวนี้อาสาสมัครกู้ภัยจะได้นำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ที่สุสานของมูลนิธิหลักเสียงเซี่ยงตึ้ง ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับงูเหลือมยักษ์ดังกล่าว อาสาสมัครกู้ภัยบางคนเชื่อว่าเป็น “งูเจ้าที่” หรือไม่อาจเป็นงูเหลือมที่อดีตชาติเคยเป็นอาสาสมัครกู้ภัย เนื่องจากตลอดระยะเวลาเกือบ 1 ชั่วโมงที่ขับรถกู้ภัยออกไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ รถกู้ภัยไม่มีอาการแสดงว่าจะมีงูยักษ์เข้าไปติดอยู่ภายในห้องเครื่องยนต์เลย และกว่าจะรู้ว่ามีงูเข้าไปอยู่ก็ได้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจนเสร็จสิ้นแล้ว