ASTVผู้จัดการรายวัน-“ก่อแก้ว”โวเสนอพรรคส่ง “ไอ้ตู่”ลงเลือกตั้งซ่อมเขตดอนเมืองหาก “เก่ง การุณ”ถูกศาลตัดสินให้ใบแดงจริง ส่วน “พท.” ตั้งเวทีดอนเมืองให้ “เก่ง”เปิดใจ 22 มิ.ย. ส่วน“แทนคุณ”ไม่หวั่น หาก“ตู่”ลงชิง เตือนระวังถูกถอดถอนเพราะมีคดีติดตัว ปูด!เจอดีเจแดงแจกเบอร์โทร. สั่งจัดหนัก แถมขู่หัวคะแนน ยัน "กึ้ง-เฉลิมชัย"ลงเหมาะกว่า ด้าน“ตู่” ปัดรออ้างคดีก่อน
วานนี้(20 มิ.ย.) นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.มีมติ 3 ต่อ 2 ให้ใบแดง นายการรุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทยจากจากกรณี ปราศรัยใส่ร้ายด้วยความเท็จ นายแทนคุณ จิตอิสระ ผู้สมัคร ส.ส. จากพรรคประชาธิปัตย์ว่า ตนรู้สึกไม่ค่อยสบายใจที่ กกต.ใช้ข้อกล่าวหาที่เบาบางเช่นนี้มาตัดอนาคตทางการเมืองของนายการุณ ซึ่งถ้าจะใช้มาตรฐานแบบนี้ก็สามารถตัดสินยุบพรรคประชาธิปัตย์ได้เช่นกัน ตนจึงหวังว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะไม่คล้อยตามมติของ กกต.ในครั้งนี้
ทั้งนี้ หากศาลมามติเช่นเดียวกับ กกต.และต้องมีการเลือกตั้งซ่อมนั้น ตนจะเสนอนายจตุพร พรหมพันธ์ ในรับสมัครเลือกตั้งแทน แต่จะต้องตรวจสอบคุณสมบัติก่อน
นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล กล่าวว่า ทางพรรคได้ตั้งข้อสังเกตว่า องค์กรอิสระยังดำเนินการอยู่ และทางพรรคยังมีความหวัง เพราะยังสามารถต่อสู้ทางศาลได้ แต่ตอนนี้ก็ได้ให้สมาชิกในพรรคระมัดระวังมากขึ้น เพราะยังอยู่ในอำนาจของ กกต. ในการตรวจสอบ
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า น่ากังขา เพราะประธานกกต.ออกเสียงถึง 2 ครั้ง หลังจากกกต.ลงคะแนนเท่ากันฝ่ายละ 2 คน ประธานกกต.ก็ใช้สิทธิ์ชี้ขาด ซึ่งความจริงแล้วการจะใช้สิทธิ์ชี้ขาดได้นั้น กกต.ทั้ง 5 คนควรอยู่ครบ ไม่ใช่ขาดไป 1 คนแบบนี้ และไม่รู้ว่ามีนัยยะอะไรหรือไม่ กระบวนการตัดสินในขั้นตอนสุดท้ายถึงดูรีบเร่ง รีบร้อน และข้อหาของนายการุณก็ไม่ใช่การทุจริต เป็นเพียงการปราศรัยโจมตี เหตุใดจึงให้ใบแดง ทั้งที่ควรจะเป็นเพียงใบเหลืองก่อน ส่วนตัวรู้สึกเป็นห่วงการทำหน้าที่ของกกต. สำนวนที่เหลือค้างอยู่อยากให้มีการพิจารณาโดยครบองค์ประชุม อย่าออกเสียงซ้ำแบบนี้ วันนี้สังคมมองด้วยความเคลือบแคลงถึง มาตรฐานการตัดสิน ซึ่งมันอาจทำให้ความเชื่อถือขององค์กรอิสระเสื่อมถอยลงได้
ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ในวันที่ 22 มิถุนายน พรรค พท.จะจัดเวทีปราศรัยที่บริเวณตลาดโกสุมรวมใจ ใกล้สำนักงานเขตดอนเมือง ครั้งที่ 2 โดยไฮไลต์ของเวทีปราศรัยครั้งนี้จะมีการเปิดใจของนายการุณ ด้วย
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตผู้สมัครส.ส.กรุงเทพฯ เขตดอนเมือง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายก่อแก้ว จะเสนอให้พรรคเพื่อไทยส่งนายจตุพร ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมหากศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งมีคำสั่งให้นายการุณ พ้นจากการเป็นส.ส.ว่า อยากให้ประชาชนตัดสินที่ผลงานในพื้นที่มากกว่า แต่ก็ยอมรับว่านายจตุพร เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว เฉพาะเรื่องการปราศรัยฮาร์ดคอร์ ซึ่งถ้าปราศรัยให้เกิดความรุนแรง ปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชัง ก็จะทำให้เกิดภาพการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์ และหากนายจตุพร หาเสียงโดยปราศรัยลักษณะใส่ร้ายป้ายสี ก็อาจจะถูกดำเนินการในลักษณะเดียวกับที่นายการุณ โดนอยู่ก็ได้ ที่สำคัญขณะนี้นายจตุพร ยังมีคดีติดตัวอยู่ ถ้าได้รับการเลือกตั้งเป็นส.ส. ก็อาจจะถูกถอดถอนภายหลังก็ได้ ซึ่งจะทำให้ต้องมีการจัดการเลือกตั้งซ่อมอีกรอบ จึงอยากให้พรรคเพื่อไทยคิดให้ดีในการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ทั้งนี้ตนยังได้ข่าวว่าพรรคเพื่อไทยอาจส่งนายเฉลิมชัย มหากิจศิริ อดีตรองโฆษกรัฐบาล สมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลงสมัคร ซึ่งถือว่าน่าจะเหมาะสมกว่า
“การเลือกตั้งครั้งนี้ผมไม่ประมาท เพราะได้ข่าวว่าฝ่ายตรงข้ามประกาศทุ่มหมดหน้าตัก และเริ่มมีการข่มขู่หัวคะแนนของผมอย่างชัดเจนว่าจะมีอนาคตเหมือนกับนายชุติเดช สุวรรณเกิด ที่ถูกยิงเสียชีวิต และกลุ่มอิทธิพลหลายพื้นที่ที่มีผลประโยชน์ยึดโยงอยู่ในดอนเมืองเริ่มเคลื่อนไหว เพราะกังวลว่าหากผมได้เป็นส.ส.จะกระทบกับเครือข่ายต่าง ๆ ล่าสุดมีคนโทรศัพท์มาบอกว่า ดีเจวิทยุคนเสื้อแดงในเขตสายไหม กทม.ประกาศเบอร์โทรศัพท์ของผมผ่านรายการ โดยบอกว่าเจอผมให้จัดหนัก เพราะทำให้นายการุณ พ้นจากส.ส. ซึ่งทำให้ผมกังวลในเรื่องความปลอดภัย แต่ผมก็พร้อมสู้เต็มที่ไม่ว่าพรรเพื่อไทยจะส่งใครลงแข่งก็ตาม” นายแทนคุณ กล่าว
ด้านนายจตุพร กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ ข่าวที่ออกมาเป็นความคิดเห็นและความรู้สึกของเพื่อนฝูงมากกว่า อีกทั้งต้องรอศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งตัดสินคดีคาดว่ากว่าจะถึงวันนั้นก็อีกตั้ง 4 เดือน แต่อย่างไรก็ตามต้องให้ความเป็นธรรมกับนายการุณเหมือนกัน เพราะเขาไม่ได้ผิด นายการุณต้องเข้าสู่ขบวนการต่อสูคดีก่อน เพราะฉะนั้นตอนนี้จึงยังไม่ได้มีการพูดคุยหารือกันแน่นอน
วานนี้(20 มิ.ย.) นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.มีมติ 3 ต่อ 2 ให้ใบแดง นายการรุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทยจากจากกรณี ปราศรัยใส่ร้ายด้วยความเท็จ นายแทนคุณ จิตอิสระ ผู้สมัคร ส.ส. จากพรรคประชาธิปัตย์ว่า ตนรู้สึกไม่ค่อยสบายใจที่ กกต.ใช้ข้อกล่าวหาที่เบาบางเช่นนี้มาตัดอนาคตทางการเมืองของนายการุณ ซึ่งถ้าจะใช้มาตรฐานแบบนี้ก็สามารถตัดสินยุบพรรคประชาธิปัตย์ได้เช่นกัน ตนจึงหวังว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะไม่คล้อยตามมติของ กกต.ในครั้งนี้
ทั้งนี้ หากศาลมามติเช่นเดียวกับ กกต.และต้องมีการเลือกตั้งซ่อมนั้น ตนจะเสนอนายจตุพร พรหมพันธ์ ในรับสมัครเลือกตั้งแทน แต่จะต้องตรวจสอบคุณสมบัติก่อน
นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล กล่าวว่า ทางพรรคได้ตั้งข้อสังเกตว่า องค์กรอิสระยังดำเนินการอยู่ และทางพรรคยังมีความหวัง เพราะยังสามารถต่อสู้ทางศาลได้ แต่ตอนนี้ก็ได้ให้สมาชิกในพรรคระมัดระวังมากขึ้น เพราะยังอยู่ในอำนาจของ กกต. ในการตรวจสอบ
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า น่ากังขา เพราะประธานกกต.ออกเสียงถึง 2 ครั้ง หลังจากกกต.ลงคะแนนเท่ากันฝ่ายละ 2 คน ประธานกกต.ก็ใช้สิทธิ์ชี้ขาด ซึ่งความจริงแล้วการจะใช้สิทธิ์ชี้ขาดได้นั้น กกต.ทั้ง 5 คนควรอยู่ครบ ไม่ใช่ขาดไป 1 คนแบบนี้ และไม่รู้ว่ามีนัยยะอะไรหรือไม่ กระบวนการตัดสินในขั้นตอนสุดท้ายถึงดูรีบเร่ง รีบร้อน และข้อหาของนายการุณก็ไม่ใช่การทุจริต เป็นเพียงการปราศรัยโจมตี เหตุใดจึงให้ใบแดง ทั้งที่ควรจะเป็นเพียงใบเหลืองก่อน ส่วนตัวรู้สึกเป็นห่วงการทำหน้าที่ของกกต. สำนวนที่เหลือค้างอยู่อยากให้มีการพิจารณาโดยครบองค์ประชุม อย่าออกเสียงซ้ำแบบนี้ วันนี้สังคมมองด้วยความเคลือบแคลงถึง มาตรฐานการตัดสิน ซึ่งมันอาจทำให้ความเชื่อถือขององค์กรอิสระเสื่อมถอยลงได้
ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ในวันที่ 22 มิถุนายน พรรค พท.จะจัดเวทีปราศรัยที่บริเวณตลาดโกสุมรวมใจ ใกล้สำนักงานเขตดอนเมือง ครั้งที่ 2 โดยไฮไลต์ของเวทีปราศรัยครั้งนี้จะมีการเปิดใจของนายการุณ ด้วย
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตผู้สมัครส.ส.กรุงเทพฯ เขตดอนเมือง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายก่อแก้ว จะเสนอให้พรรคเพื่อไทยส่งนายจตุพร ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมหากศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งมีคำสั่งให้นายการุณ พ้นจากการเป็นส.ส.ว่า อยากให้ประชาชนตัดสินที่ผลงานในพื้นที่มากกว่า แต่ก็ยอมรับว่านายจตุพร เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว เฉพาะเรื่องการปราศรัยฮาร์ดคอร์ ซึ่งถ้าปราศรัยให้เกิดความรุนแรง ปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชัง ก็จะทำให้เกิดภาพการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์ และหากนายจตุพร หาเสียงโดยปราศรัยลักษณะใส่ร้ายป้ายสี ก็อาจจะถูกดำเนินการในลักษณะเดียวกับที่นายการุณ โดนอยู่ก็ได้ ที่สำคัญขณะนี้นายจตุพร ยังมีคดีติดตัวอยู่ ถ้าได้รับการเลือกตั้งเป็นส.ส. ก็อาจจะถูกถอดถอนภายหลังก็ได้ ซึ่งจะทำให้ต้องมีการจัดการเลือกตั้งซ่อมอีกรอบ จึงอยากให้พรรคเพื่อไทยคิดให้ดีในการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ทั้งนี้ตนยังได้ข่าวว่าพรรคเพื่อไทยอาจส่งนายเฉลิมชัย มหากิจศิริ อดีตรองโฆษกรัฐบาล สมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลงสมัคร ซึ่งถือว่าน่าจะเหมาะสมกว่า
“การเลือกตั้งครั้งนี้ผมไม่ประมาท เพราะได้ข่าวว่าฝ่ายตรงข้ามประกาศทุ่มหมดหน้าตัก และเริ่มมีการข่มขู่หัวคะแนนของผมอย่างชัดเจนว่าจะมีอนาคตเหมือนกับนายชุติเดช สุวรรณเกิด ที่ถูกยิงเสียชีวิต และกลุ่มอิทธิพลหลายพื้นที่ที่มีผลประโยชน์ยึดโยงอยู่ในดอนเมืองเริ่มเคลื่อนไหว เพราะกังวลว่าหากผมได้เป็นส.ส.จะกระทบกับเครือข่ายต่าง ๆ ล่าสุดมีคนโทรศัพท์มาบอกว่า ดีเจวิทยุคนเสื้อแดงในเขตสายไหม กทม.ประกาศเบอร์โทรศัพท์ของผมผ่านรายการ โดยบอกว่าเจอผมให้จัดหนัก เพราะทำให้นายการุณ พ้นจากส.ส. ซึ่งทำให้ผมกังวลในเรื่องความปลอดภัย แต่ผมก็พร้อมสู้เต็มที่ไม่ว่าพรรเพื่อไทยจะส่งใครลงแข่งก็ตาม” นายแทนคุณ กล่าว
ด้านนายจตุพร กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ ข่าวที่ออกมาเป็นความคิดเห็นและความรู้สึกของเพื่อนฝูงมากกว่า อีกทั้งต้องรอศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งตัดสินคดีคาดว่ากว่าจะถึงวันนั้นก็อีกตั้ง 4 เดือน แต่อย่างไรก็ตามต้องให้ความเป็นธรรมกับนายการุณเหมือนกัน เพราะเขาไม่ได้ผิด นายการุณต้องเข้าสู่ขบวนการต่อสูคดีก่อน เพราะฉะนั้นตอนนี้จึงยังไม่ได้มีการพูดคุยหารือกันแน่นอน
