ASTVผู้จัดการรายวัน- ดัชนีเชื่อมั่นอุตฯพ.ค.ยังโตต่อเนื่องแต่ส่งสัญญาณลดลงในอีก 3 เดือนข้างหน้าเหตุกังวลวิกฤติอียูหลังออร์เดอร์เริ่มลด ส.อ.ท.ยังกัดฟันหวังดันเป้าส่งออกโต 15% แต่ต้องเร่งหามาตรการหนุนทั้งการทำบาทอ่อนลงเล็กน้อย รวมถึงตรึงดบ. และทุกส่วนเดินหน้าหาตลาดใหม่ๆ รับมือวิกฤติอียู
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทยในเดือนพฤษภาคม 2555 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอุตฯพ.ค. 55 อยู่ที่ 106 เพิ่มขึ้นจากระดับ 104 ในเดือนเม.ย.55 และเป็นการเพิ่มติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวม อย่างไรก็ตามดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 111.1 ลดลงจากระดับ 112.6 ในเดือนเม.ย.เนื่องจากคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเริ่มลดลงจากผลกระทบวิกฤติการเงินสหภาพยุโรป(อียู) และต้นทุนผู้ประกอบการที่สูงขึ้นจากค่าแรง ค่าพลังงาน ฯลฯ
สำหรับภาวะส่งออกไทยปีนี้ยังหวังที่จะเห็นการเติบโตระดับ 15% อยู่เช่นเดิมเพราะยังเหลือเวลาอีกเกือบครึ่งปีแม้จะเป็นเรื่องที่ท้าทายแต่เอกชนและรัฐคงจะต้องทำงานหนักและร่วมมืออย่างจริงจังทั้งฑูตต่างประเทศ ทูตพาณิชย์ ในการแสวงหาตลาดใหม่ๆ โดยรัฐต้องหาข้อมูลและอำนวยความสะดวกขั้นตอนต่างๆ ขณะที่นโยบายสำคัญคือ อยากเห็นอัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับภูมิประเทศเพื่อนบ้านที่ไทยอยู่ในระดับกลางๆ เพื่อไม่ให้เสียเปรียบแง่การแข่งขัน
“ เศรษฐกิจอียูมีปัญหาจะทำให้เงินไหลออกการอ่อนค่าของเงินบาทน่าจะมีมากขึ้นแต่กระนั้นประเทศเพื่อนบ้านก็อ่อนลงเช่นกันเราจึงอยากเห็นค่าเงินบาทที่มีสเถียรภาพและอ่อนค่าลงเล็กน้อยหากเป็นไปได้ ซึ่งผมก็ยังเชื่อมั่นว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)และคลังจะดูแลได้อย่างดี
ส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายนั้นผมคิดว่าการคงที่ระดับนี้น่าจะปลอดภัยที่สุดเพราะหากลดลงมากจะทำให้เงินไหลออกมากขึ้น”นายพยุงศักดิ์กล่าว
นายพยุงศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้ภาพรวมอุตสาหกรรมไทยยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากปัญหาอียูมากนักมีเพียงบางอุตสาหกรรมเท่านั้นที่คำสั่งซื้อเริ่มลดลงเห็นได้ชัดขึ้นเช่น อุตสาหกรรมอัญมณี ยางและผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องปรับอากาศ อาหารบางกลุ่ม เป็นต้น ซึ่งคงจะต้องติดตามการตั้งรัฐบาลของกรีซและแผนการช่วยเหลือประเทศอื่นๆ ในกลุ่มยูโรโซนทั้งสเปนและอิตาลีต่อไป
***ไทยผลิตรถสูงสุดรอบ50ปี
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. กล่าวว่า ยอดการผลิตยานยนต์ในเดือนพ.ค.55สามารถผลิตได้ 202,834 คัน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ไทยสามารถผลิตรถยนต์มากกว่า 2 แสนคันต่อเดือน และเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 50 ปี จึงมั่นใจว่าในปีนี้ยอดการผลิตรถยนต์ของไทยจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 2,200,000 คัน ทำให้ไทยเป็นประเทศที่ผลิตรถยนต์ได้มากที่สุดเป็นอันดับที่ 13ของโลก
จากปีที่ผ่านมาที่ไทยตกไปอยู่อันดับที่ 14 เพราะปัญหาอุทกภัย
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทยในเดือนพฤษภาคม 2555 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอุตฯพ.ค. 55 อยู่ที่ 106 เพิ่มขึ้นจากระดับ 104 ในเดือนเม.ย.55 และเป็นการเพิ่มติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวม อย่างไรก็ตามดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 111.1 ลดลงจากระดับ 112.6 ในเดือนเม.ย.เนื่องจากคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเริ่มลดลงจากผลกระทบวิกฤติการเงินสหภาพยุโรป(อียู) และต้นทุนผู้ประกอบการที่สูงขึ้นจากค่าแรง ค่าพลังงาน ฯลฯ
สำหรับภาวะส่งออกไทยปีนี้ยังหวังที่จะเห็นการเติบโตระดับ 15% อยู่เช่นเดิมเพราะยังเหลือเวลาอีกเกือบครึ่งปีแม้จะเป็นเรื่องที่ท้าทายแต่เอกชนและรัฐคงจะต้องทำงานหนักและร่วมมืออย่างจริงจังทั้งฑูตต่างประเทศ ทูตพาณิชย์ ในการแสวงหาตลาดใหม่ๆ โดยรัฐต้องหาข้อมูลและอำนวยความสะดวกขั้นตอนต่างๆ ขณะที่นโยบายสำคัญคือ อยากเห็นอัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับภูมิประเทศเพื่อนบ้านที่ไทยอยู่ในระดับกลางๆ เพื่อไม่ให้เสียเปรียบแง่การแข่งขัน
“ เศรษฐกิจอียูมีปัญหาจะทำให้เงินไหลออกการอ่อนค่าของเงินบาทน่าจะมีมากขึ้นแต่กระนั้นประเทศเพื่อนบ้านก็อ่อนลงเช่นกันเราจึงอยากเห็นค่าเงินบาทที่มีสเถียรภาพและอ่อนค่าลงเล็กน้อยหากเป็นไปได้ ซึ่งผมก็ยังเชื่อมั่นว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)และคลังจะดูแลได้อย่างดี
ส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายนั้นผมคิดว่าการคงที่ระดับนี้น่าจะปลอดภัยที่สุดเพราะหากลดลงมากจะทำให้เงินไหลออกมากขึ้น”นายพยุงศักดิ์กล่าว
นายพยุงศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้ภาพรวมอุตสาหกรรมไทยยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากปัญหาอียูมากนักมีเพียงบางอุตสาหกรรมเท่านั้นที่คำสั่งซื้อเริ่มลดลงเห็นได้ชัดขึ้นเช่น อุตสาหกรรมอัญมณี ยางและผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องปรับอากาศ อาหารบางกลุ่ม เป็นต้น ซึ่งคงจะต้องติดตามการตั้งรัฐบาลของกรีซและแผนการช่วยเหลือประเทศอื่นๆ ในกลุ่มยูโรโซนทั้งสเปนและอิตาลีต่อไป
***ไทยผลิตรถสูงสุดรอบ50ปี
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. กล่าวว่า ยอดการผลิตยานยนต์ในเดือนพ.ค.55สามารถผลิตได้ 202,834 คัน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ไทยสามารถผลิตรถยนต์มากกว่า 2 แสนคันต่อเดือน และเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 50 ปี จึงมั่นใจว่าในปีนี้ยอดการผลิตรถยนต์ของไทยจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 2,200,000 คัน ทำให้ไทยเป็นประเทศที่ผลิตรถยนต์ได้มากที่สุดเป็นอันดับที่ 13ของโลก
จากปีที่ผ่านมาที่ไทยตกไปอยู่อันดับที่ 14 เพราะปัญหาอุทกภัย
