วานนี้(12 มิ.ย.55)นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม เป็นประธานการประชุม โดยจัดที่โรงแรมลีการ์เด้นท์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ว่า ที่ประชุมมีมติให้เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชน กรณีเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบจากเดิม 1 แสนบาท เพิ่มเป็น 5 แสนบาท และกรณีทุพพลภาพ จากเดิม 8 หมื่นบาท เพิ่มเป็น 5แสนบาท โดยคาดว่าข้อเสนอทั้งหมดนี้จะนำต่อเสนอคณะรัฐมนตรีในการประชุมครม.สัญจรที่ จ.ชลบุรี
ทั้งนี้จะเป็นการให้ย้อนหลังครอบคลุมผู้เสียชีวิตและผู้ทุพพลภาพ ในเหตุการณ์ที่เกิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2547 นี้ด้วย โดยสำหรับส่วนที่ให้มีผลย้อนหลังนี้จะดำเนินการให้เสร็จสิ้นไม่ช้ากว่าปีงบประมาณ 2555 - 2558 เพื่อไม่ให้เป็นภาระงบประมาณในปีหนึ่งปีใดเกินสมควร สำหรับงบประมาณในส่วนนี้นั้นตั้งไว้ประมาณ 500 ล้านบาท
นายธงทอง กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติจ่ายเงินเยียวยาฯจากเหตุการณ์มัสยิดกรือเซะวงเงิน 4 ล้านบาท ทั้งผู้ที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และผู้ที่มิใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยในเหตุการณ์ดังกล่าวนี้มีเจ้าหน้าที่รัฐเสียชีวิต 3 ราย และผู้มิใช่เจ้าหน้าที่ 32 ราย โดยในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 8 ราย ซึ่งกรณีการพิจารณานี้คณะกรรมการยึดเหตุผลด้านมนุษยธรรมเป็นหลัก ส่วนกรณีสะบ้าย้อยซึ่งมีผู้เสียชีวิต 19 ราย กรณีตากใบ 85รายนั้น หากเสียชีวิตจะได้รับรายละ 7.5 ล้านบาท เช่นเดียวกับกรณีของนายสมชาย นีละไพจิตร ซึ่งเป็นบุคคลสูญหาย ที่มีหลักฐานว่าเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องก็จะได้รับ7.5ล้านบาทเช่นเดียวกันด้วย โดยจะไม่ตัดสิทธิทายาทที่จะใช้สิทธิตามกระบวนการยุติธรรมในศาลยุติธรรมต่อไป
กรณีของการสูญหายนั้น ถ้ามีข้อมูลน่าเชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้อง จะได้รับ 7.5 ล้านบาท ส่วนข้อมูลชั้นต้นว่าอาจมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องนั้น ให้จ่าย 4 ล้านบาท อย่างไรก็ตามการจ่ายเงินเยียวยา ให้นำจำนวนเงินที่ได้รับความช่วยเหลือไปแล้วมาหักออกจากจำนวนเต็มที่จะพึงได้รับด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ไม่ได้มีรายชื่ออยู่ในหลักเกณฑ์ดังกล่าว ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้รับการพิจารณาในโอกาสต่อไป โดยคณะอนุกรรมการชุดต่างๆ ในคณะกรรมการเยียวยาจะเร่งดำเนินการพิจารณาและเข้าที่ประชุมคณะกรรมการชุดดังกล่าวอีกครั้งหนึ่งต่อไป ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ที่ได้ประกาศไปจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการประชุมครม.สัญจรวันที่ 19 มิ.ย. ด้วย
ทั้งนี้จะเป็นการให้ย้อนหลังครอบคลุมผู้เสียชีวิตและผู้ทุพพลภาพ ในเหตุการณ์ที่เกิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2547 นี้ด้วย โดยสำหรับส่วนที่ให้มีผลย้อนหลังนี้จะดำเนินการให้เสร็จสิ้นไม่ช้ากว่าปีงบประมาณ 2555 - 2558 เพื่อไม่ให้เป็นภาระงบประมาณในปีหนึ่งปีใดเกินสมควร สำหรับงบประมาณในส่วนนี้นั้นตั้งไว้ประมาณ 500 ล้านบาท
นายธงทอง กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติจ่ายเงินเยียวยาฯจากเหตุการณ์มัสยิดกรือเซะวงเงิน 4 ล้านบาท ทั้งผู้ที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และผู้ที่มิใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยในเหตุการณ์ดังกล่าวนี้มีเจ้าหน้าที่รัฐเสียชีวิต 3 ราย และผู้มิใช่เจ้าหน้าที่ 32 ราย โดยในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 8 ราย ซึ่งกรณีการพิจารณานี้คณะกรรมการยึดเหตุผลด้านมนุษยธรรมเป็นหลัก ส่วนกรณีสะบ้าย้อยซึ่งมีผู้เสียชีวิต 19 ราย กรณีตากใบ 85รายนั้น หากเสียชีวิตจะได้รับรายละ 7.5 ล้านบาท เช่นเดียวกับกรณีของนายสมชาย นีละไพจิตร ซึ่งเป็นบุคคลสูญหาย ที่มีหลักฐานว่าเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องก็จะได้รับ7.5ล้านบาทเช่นเดียวกันด้วย โดยจะไม่ตัดสิทธิทายาทที่จะใช้สิทธิตามกระบวนการยุติธรรมในศาลยุติธรรมต่อไป
กรณีของการสูญหายนั้น ถ้ามีข้อมูลน่าเชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้อง จะได้รับ 7.5 ล้านบาท ส่วนข้อมูลชั้นต้นว่าอาจมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องนั้น ให้จ่าย 4 ล้านบาท อย่างไรก็ตามการจ่ายเงินเยียวยา ให้นำจำนวนเงินที่ได้รับความช่วยเหลือไปแล้วมาหักออกจากจำนวนเต็มที่จะพึงได้รับด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ไม่ได้มีรายชื่ออยู่ในหลักเกณฑ์ดังกล่าว ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้รับการพิจารณาในโอกาสต่อไป โดยคณะอนุกรรมการชุดต่างๆ ในคณะกรรมการเยียวยาจะเร่งดำเนินการพิจารณาและเข้าที่ประชุมคณะกรรมการชุดดังกล่าวอีกครั้งหนึ่งต่อไป ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ที่ได้ประกาศไปจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการประชุมครม.สัญจรวันที่ 19 มิ.ย. ด้วย
