นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ แถลงว่า ที่ประชุมมีมติปรับปรุงหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชน กรณีเสียชีวิตและทุพพลภาพ จากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งกรณีนายสมชาย นีละไพจิตร ที่สูญหายนั้น มีหลักฐานชัดเจนว่า เจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องโดยตรงในเหตุการณ์ และมีความเชื่อมโยงกับความไม่สงบกับพื้นที่ภาคใต้ โดยที่ประชุม เห็นควรให้จ่ายเงินช่วยเหลือจำนวน 7,500,000 บาท โดยไม่ตัดสิทธิ์ทายาทที่จะใช้สิทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
ส่วนกรณีผู้ถูกบังคับให้สูญหาย โดยมีข้อมูลน่าเชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง ที่ประชุมเห็นควรจ่ายเงินช่วยเหลือจำนวน 7,500,000 บาท และกรณีสูญหาย ซึ่งมีข้อมูลว่า อาจมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง ให้จ่ายเงินเยียวยาจำนวน 4,000,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม มติดังกล่าวจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 19 มิถุนายนนี้
ทั้งนี้ นายธงทอง แถลงว่า ที่ประชุมมีมติปรับปรุงหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชนกรณีเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบ จากเดิม 1 แสนบาท เป็น 5 แสนบาท กรณีทุพพลภาพ จากเดิม 8 หมื่นบาท เพิ่มเป็น 5 แสนบาท โดยให้มีผลตั้งแต่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ความเห็นชอบเป็นต้นไป และย้อนหลังครอบคลุมไปตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2547 ซึ่งในส่วนที่จ่ายเงินเยียวยาย้อนหลัง จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2555-2558 สำหรับในการจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์วันที่ 28 เมษายน 2547 ถึงกรณีมัสยิดกรือเซะ ที่ประชุมเห็นว่า สมควรจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ทายาทของผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย โดยอาศัยหลักมนุษยธรรมเป็นหลัก คือเจ้าหน้าที่ของรัฐ และผู้ที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามหลักเกณฑ์ขั้นต้น
ส่วนกรณีผู้ถูกบังคับให้สูญหาย โดยมีข้อมูลน่าเชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง ที่ประชุมเห็นควรจ่ายเงินช่วยเหลือจำนวน 7,500,000 บาท และกรณีสูญหาย ซึ่งมีข้อมูลว่า อาจมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง ให้จ่ายเงินเยียวยาจำนวน 4,000,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม มติดังกล่าวจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 19 มิถุนายนนี้
ทั้งนี้ นายธงทอง แถลงว่า ที่ประชุมมีมติปรับปรุงหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชนกรณีเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบ จากเดิม 1 แสนบาท เป็น 5 แสนบาท กรณีทุพพลภาพ จากเดิม 8 หมื่นบาท เพิ่มเป็น 5 แสนบาท โดยให้มีผลตั้งแต่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ความเห็นชอบเป็นต้นไป และย้อนหลังครอบคลุมไปตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2547 ซึ่งในส่วนที่จ่ายเงินเยียวยาย้อนหลัง จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2555-2558 สำหรับในการจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์วันที่ 28 เมษายน 2547 ถึงกรณีมัสยิดกรือเซะ ที่ประชุมเห็นว่า สมควรจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ทายาทของผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย โดยอาศัยหลักมนุษยธรรมเป็นหลัก คือเจ้าหน้าที่ของรัฐ และผู้ที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามหลักเกณฑ์ขั้นต้น