วานนี้ ( 11 มิ.ย.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต.ได้จัดงานคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 14 ปี การก่อตั้งสำนักงานกกต. โดยได้มีการจัดทำบุญในช่วงเช้าและช่วงบ่าย กกต.ทั้ง 5 คนได้ร่วมกันแถลงผลงาน โดยนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. กล่าวว่า กกต.ชุดนี้เหลือเวลาปฏิบัติงานเหลือเพียงปีกว่า ที่ผ่านมาได้ปฏิบัติภารกิจที่สำคัญอย่างต่อเนื่องโดยจัดการเลือกตั้งระดับชาติ และระดับท้องถิ่น รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 1 ฉบับ รวมถึงปรับปรุงระเบียบ ประกาศ ที่ใช้ในการบริหารจัดการองค์กร และจัดการเลือกตั้งรวม 16 ฉบับ และกกต.ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 โดยเร่งดำเนินการเร่งพัฒนาองค์กรบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถทางด้านภาษา เพื่อให้ปฏิบัติงานให้ทันต่อการเปลี่ยนแปงของสังคมโลก และพร้อมรวมกับองค์กรต่างประเทศจัดทำและพัฒนาการเมือง เสริมสร้างกระบวนการการมีส่วนร่วมในอนาคตต่อไป
อย่างไรก็ตามนายอภิชาต ยอมรับว่า กกต.แจกใบเหลืองใบแดงในการเลือกตั้งส.ส. 3 ก.ค. 54 ได้น้อย เนื่องจากติดขัดเวลา 30 ที่กฎหมายกำหนดให้ต้องประกาศผลนับจากวันเลือกตั้ง โดยเงื่อนเวลา 30 วันเป็นระยะเวลาที่สั้น โดยตนเห็นว่าควรที่จะให้เวลาในการพิจารณา 60- 90 วัน เชื่อว่ากกต.จะให้ใบเหลืองใบแดงได้มากกว่านี้ แต่มีความพอใจในผลงานรอบปีที่ผ่านมาเพราะงานของกกต.เป็นงานที่ละเอียดอ่อนและหนักมากจริง จึงอยากของความเห็นใจ ซึ่งเราพยายามทำให้เป็นองค์กรที่ทำให้ได้รับการยอมรับนับถือ
ด้านนายประพันธ์ กล่าวว่า การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 ก.ค.2554 ถือเป็นการเลือกตั้งที่มีผู้ออกมาใช้สิทธิมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ถึงร้อยละ 75.03 และจัดให้มีการเลือกตั้งส.ส.ใหม่ก่อนการประกาศผลการเลือกตั้ง 2 แห่ง และสั่งให้นับคะแนนใหม่ก่อนประกาศผลการเลือกตั้งที่จ.ยะลา และจัดการเลือกตั้งส.ส.แทนตำแหน่งที่ว่างอีก 2 แห่ง จะเห็นได้ว่ากกต.ให้ความสำคัญในการจัดการเลือกตั้งทุกระดับ เพื่อให้ผลการเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับทั้งในและนอกประเทศ แม้ว่าช่วงที่ประเทศไทยประสบปัญหาอุทกภัยต้องเลื่อนการเลือกตั้งหลายแห่ง แต่สุดท้ายก็จัดการเลือกตั้งได้อย่างลุล่วง ได้ทุกภาคส่วน
ด้านนางสดศรี กล่าวว่า ปีที่ผ่านมามีพรรคการเมืองจดทะเบียนพรรคการเมืองทั้งสิ้น 52 พรรค ซึ่งกกต.ยุบเลิกไปแล้ว 8 พรรค โดยเป็นการยุบโดยศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุบพรรค 2 พรรค และอีก 6 พรรคการเมือง เป็นการยุบโดยสิ้นสภาพตามกฎหมาย ทั้งนี้ในเรื่องของคำร้องให้กกต.ยุบพรรคการเมืองนั้น มีคำร้องเข้ามาทั้งสิ้นจำนวน 32 คำร้อง ไต่สวนแล้วเสร็จ 15 คำร้อง อย่างไรก็ตามปีที่ผ่านมากกต.ยังได้ให้เงินสนับสนุนพรรคการเมืองตามมาตรา 75 และ 81 ตามพ.ร.บ.พรรคการเมือง เป็นเงินจำนวนประมาณ 63 ล้านบาท
ขณะที่นายสมชัย กล่าวว่า งานด้านสืบสวนสอบสวนอยู่ในส่วนที่ตนรับผิดชอบนั้นยังมีจุดอ่อน จึงต้องมีการเน้นในเรื่องของการพัฒนาการให้ความรู้ เพื่อยกระดับให้มีความน่าเชื่อถือเพราะกกต.มีหน้าที่กลั่นกรองให้ประชาชนได้คนดี เรารู้สึกละอายเหมือนกันที่ประกาศรับรองคนไม่ดีให้เข้าไปทำหน้าที่ส.ส. ตามที่เคยได้ประกาศไว้ และขณะนี้การเมืองการปกครองกำลังเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ดังนั้นจึงมองว่าการเมืองไม่ได้เป็นของใครคนใดคนหนึ่งแต่เป็นของทุกคน ฉะนั้นควรที่จะมาช่วยกันปฏิวัติให้ประชาชนมาเป็นเจ้าของประเทศที่แท้จริง ทุกองค์ควรทำหน้าที่ของตัวเองให้สมบูรณ์บ้านเมืองก็จะเจริญ
อย่างไรก็ตามนายอภิชาต ยอมรับว่า กกต.แจกใบเหลืองใบแดงในการเลือกตั้งส.ส. 3 ก.ค. 54 ได้น้อย เนื่องจากติดขัดเวลา 30 ที่กฎหมายกำหนดให้ต้องประกาศผลนับจากวันเลือกตั้ง โดยเงื่อนเวลา 30 วันเป็นระยะเวลาที่สั้น โดยตนเห็นว่าควรที่จะให้เวลาในการพิจารณา 60- 90 วัน เชื่อว่ากกต.จะให้ใบเหลืองใบแดงได้มากกว่านี้ แต่มีความพอใจในผลงานรอบปีที่ผ่านมาเพราะงานของกกต.เป็นงานที่ละเอียดอ่อนและหนักมากจริง จึงอยากของความเห็นใจ ซึ่งเราพยายามทำให้เป็นองค์กรที่ทำให้ได้รับการยอมรับนับถือ
ด้านนายประพันธ์ กล่าวว่า การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 ก.ค.2554 ถือเป็นการเลือกตั้งที่มีผู้ออกมาใช้สิทธิมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ถึงร้อยละ 75.03 และจัดให้มีการเลือกตั้งส.ส.ใหม่ก่อนการประกาศผลการเลือกตั้ง 2 แห่ง และสั่งให้นับคะแนนใหม่ก่อนประกาศผลการเลือกตั้งที่จ.ยะลา และจัดการเลือกตั้งส.ส.แทนตำแหน่งที่ว่างอีก 2 แห่ง จะเห็นได้ว่ากกต.ให้ความสำคัญในการจัดการเลือกตั้งทุกระดับ เพื่อให้ผลการเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับทั้งในและนอกประเทศ แม้ว่าช่วงที่ประเทศไทยประสบปัญหาอุทกภัยต้องเลื่อนการเลือกตั้งหลายแห่ง แต่สุดท้ายก็จัดการเลือกตั้งได้อย่างลุล่วง ได้ทุกภาคส่วน
ด้านนางสดศรี กล่าวว่า ปีที่ผ่านมามีพรรคการเมืองจดทะเบียนพรรคการเมืองทั้งสิ้น 52 พรรค ซึ่งกกต.ยุบเลิกไปแล้ว 8 พรรค โดยเป็นการยุบโดยศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุบพรรค 2 พรรค และอีก 6 พรรคการเมือง เป็นการยุบโดยสิ้นสภาพตามกฎหมาย ทั้งนี้ในเรื่องของคำร้องให้กกต.ยุบพรรคการเมืองนั้น มีคำร้องเข้ามาทั้งสิ้นจำนวน 32 คำร้อง ไต่สวนแล้วเสร็จ 15 คำร้อง อย่างไรก็ตามปีที่ผ่านมากกต.ยังได้ให้เงินสนับสนุนพรรคการเมืองตามมาตรา 75 และ 81 ตามพ.ร.บ.พรรคการเมือง เป็นเงินจำนวนประมาณ 63 ล้านบาท
ขณะที่นายสมชัย กล่าวว่า งานด้านสืบสวนสอบสวนอยู่ในส่วนที่ตนรับผิดชอบนั้นยังมีจุดอ่อน จึงต้องมีการเน้นในเรื่องของการพัฒนาการให้ความรู้ เพื่อยกระดับให้มีความน่าเชื่อถือเพราะกกต.มีหน้าที่กลั่นกรองให้ประชาชนได้คนดี เรารู้สึกละอายเหมือนกันที่ประกาศรับรองคนไม่ดีให้เข้าไปทำหน้าที่ส.ส. ตามที่เคยได้ประกาศไว้ และขณะนี้การเมืองการปกครองกำลังเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ดังนั้นจึงมองว่าการเมืองไม่ได้เป็นของใครคนใดคนหนึ่งแต่เป็นของทุกคน ฉะนั้นควรที่จะมาช่วยกันปฏิวัติให้ประชาชนมาเป็นเจ้าของประเทศที่แท้จริง ทุกองค์ควรทำหน้าที่ของตัวเองให้สมบูรณ์บ้านเมืองก็จะเจริญ