“ชาญชัย” ยื่นหลักฐานเพิ่ม ขอให้ กกต.นับคะแนนใหม่ทั้ง 17 เขตเลือกตั้งนครนายก ยันมีหลักฐานทุจริต อ้างมติเสียงข้างมาก กกต.เห็นด้วย ขณะที่ 2 พรรคใหญ่ยื่นสมัครเลือกซ่อม ส.ส.ปทุมฯ เรียบร้อย
วันนี้ (26 มี.ค.) นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมายื่นหลักฐานเพิ่มเติมต่อ กกต.กรณีที่ กกต.มีมติให้มีการนับคะแนนการเลือกตั้ง ส.ส.นครนายก ใหม่ใน 17 หน่วยเลือกตั้ง โดย นายชาญชัย กล่าวว่า คำร้องที่ขอให้มีการนับคะแนนใหม่ ตนได้ยื่นตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.54 เนื่องจากพบการทุจริตการเลือกตั้งจำนวนมาก โดยหลักฐานที่ยื่นในขณะนั้น เป็นหลักฐานที่ยืนยันว่า มีการทุจริตใน 17 หน่วยเลือกตั้ง พร้อมกับขอให้ กกต.ตรวจสอบการเลือกตั้ง ผลการนับคะแนนในทุกหน่วยเลือกตั้ง หากพบการทุจริตก็ขอให้มีการนับคะแนนใหม่ทั้งหมด และในวันที่ 14 ก.ค.54 ตนได้ไปยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งทั้งหมดต่อศาลจังหวัดนครนายก ในความผิดทางอาญา กรณีการทุจริตการเลือกตั้ง ทำให้ได้ตรวจสอบเอกสารการเลือกตั้งกว่า 3 แสนแผ่น และพบการกระทำผิดอีก 100 หน่วยเลือกตั้ง อาทิ คนที่ขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด แต่กลับมาใช้สิทธิเลือกตั้งในเขตเดิมอีก การลงลายมือชื่อในต้นขั้วไม่เหมือนกับใบ ส.ส.10 ไม่มีการเซ็นชื่อในต้นขั้วบัตรเลือกตั้ง โดยเฉพาะในหน่วยเลือกตั้งโรงเรียนนายร้อย จปร.จ.นครนายก ที่ได้มีการกระทำผิด 302 ราย ซึ่งเป็นการสวมสิทธิเลือกตั้ง โดยที่เจ้าตัวไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย รวมการกระทำผิดทั้งสิ้นแล้วมีกว่า 1 พันราย และยังพบว่า จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมีจำนวนน้อยกว่าบัตรเลือกตั้ง แสดงให้เห็นว่ามีการทุจริตทั้งระบบ”
“ผลการเลือกตั้งใน จ.นครนายก ผมแพ้ผู้ชนะเพียง 113 เสียง เมื่อ กกต.มีมติให้นับคะแนนใหม่เพียง 17 หน่วยเลือกตั้ง จึงถือว่าไม่ตรงตามเจตนารมณ์ที่ผมร้อง วันนี้ จึงจำเป็นต้องนำเอกสารมาชี้แจงให้ กกต.พิจารณาประกอบเพิ่มเติมว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมติ กกต.ที่ให้มีการนับคะแนนใหม่นั้น ในการลงมติ นายประพันธ์ นัยโกวิท และ นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น มีมติให้ยกคำร้อง นายอภิชาต สุขัคคานนท์ นางสดศรี สัตยธรรม มีมติให้นับคะแนน ทั้งเขตเลือกตั้ง ขณะที่ นายสมชัย จึงประเสริฐ มีมติให้นับ 17 หน่วยเลือกตั้ง ที่มีปัญหา ซึ่งเมื่อรวมมติแล้วเท่ากับว่ามี 3 เสียงที่ให้มีการนับคะแนนใหม่ แต่เหตุที่มติของ กกต.ออกมาให้มีการนับ 17 หน่วยเลือกตั้ง เพราะใน 2 เสียงที่ให้นับทั้งเขตเลือกตั้ง ก็คือ เห็นชอบที่จะให้นับ 17 หน่วยเลือกตั้งที่มีปัญหาด้วย ดังนั้น เมื่อ นายสมชัย เป็นอีก 1 เสียงที่ให้นับ 17 หน่วยเลือกตั้ง มติที่ออกมาจึงเป็นเสียงข้างมากให้นับ 17 หน่วยเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทาง จ.นครนายก ยังไม่มีการกำหนดวันนับคะแนนใหม่ใน 17 หน่วยเลือกตั้ง เนื่องจาก กกต.ยังไม่ได้ส่งคำสั่งให้มีการนับคะแนนใหม่มายังจังหวัด หากได้รับคำสั่งแล้วทางจังหวัดจึงจะมีการกำหนดวันนับคะแนนใหม่ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำสั่ง ซึ่งก็มีรายงานว่า คำสั่งดังกล่าวจะมีการเสนอต่อที่ประชุม กกต.พิจารณาในการประชุมวันที่ 27 มี.ค.นี้ แต่ทั้งนี้ ก็ต้องรอดูว่าที่ประชุม กกต.จะมีการพิจารณาหลักฐานเพิ่มเติมที่ นายชาญชัย มายื่น เพื่อขอให้ กกต.นับคะแนนใหม่ทั้งเขตเลือกตั้งไปในคราวเดียวกัน ก่อนที่จะออกคำสั่งนับคะแนนใหม่ไปยัง กกต.จังหวัดนครนายกหรือไม่
ด้าน นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต.กล่าวถึงการที่ กกต.กำหนดเปิดรับสมัคร ส.ส. จ.ปทุมธานี ระหว่างวันที่ 26-30 มี.ค.นี้ ว่า จากการเปิดสมัครรับเลือกตั้งวันแรกตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.ณ ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลเมืองลาดสวาย ชั้น 3 บรรยากาศการรับสมัครตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นไปด้วยความคึกคัก จนกระทั่งถึงเวลาปิดรับสมัคร มีพรรคการเมืองส่งผู้สมัคร จำนวน 2 พรรค คือ 1.นายสมชาย รังสิวัฒนศักดิ์ ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ได้หมายเลข 1 และ 2.นายเกียรติศักดิ์ ส่องแสง ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ ได้หมายเลข 2
อย่างไรก็ตาม กกต.ยังเปิดรับสมัครไปจนถึงวันศุกร์ที่ 30 มี.ค.นี้ ซึ่งผู้ที่ประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้งควรตรวจสอบคุณสมบัติของตนเองและจัดเตรียมเอกสารหลักฐานการสมัครให้ครบถ้วน เพื่อจะได้ไม่เสียเวลาในการสมัคร เช่น หนังสือรับรองของหัวหน้าพรรคการเมือง, ภาพถ่ายสีหรือขาว-ดำ ขนาด 8.5x13.5 เซนติเมตร จำนวน 10 รูป, สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, ใบรับรองแพทย์, ค่าธรรมเนียมการสมัคร คนละ 5,000 บาท เป็นต้น
