xs
xsm
sm
md
lg

ดันปตท.ลงทุน4.8หมื่นล. สร้างคลังสำรองLPG

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กพช. ถกวันนี้เตรียมพิจารณาให้ปตท.ลงทุน 4.8 หมื่นล้านบาทสร้างคลังสำรองแอลพีจี ท่าเรือแห่งใหม่ พร้อมดันแผนสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ของไทยเพิ่มเป็น 90 วันพร้อมไฟเขียวแผนพีดีพีฉบับปรับปรุงใหม่รอบที่ 3 ด้านปตท.ยื่นสนพ.ขออุดหนุนNGV เพิ่มหลังชะลอขึ้นราคา3เดือน

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) เปิดเผยว่า การประชุมกพช.ที่มีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธานวันที่ 8 มิ.ย. 2555 ที่ประชุมจะมีการพิจารณาให้ความเห็นชอบใน 4 วาระที่ กระทรวงพลังงานเสนอขอความเห็นชอบได้แก่ 1. เสนอให้บริษัทปตท. จำกัด(มหาชน)เป็นผู้ลงทุนการจัดหาและการให้บริการก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี)ในทุกกลุ่มผู้ใช้ วงเงินรวม48,500 ล้านบาท
ซึ่งปตท.จะเป็นผู้รับผิดชอบการก่อสร้างคลังสำรองแอลพีจี ท่าเรือขนส่งแอลพีจีแห่งใหม่ การจัดหาเรือบรรทุกแอลพีจีเพิ่มเติม

“ การลงทุนดังกล่าวกพช.จะมอบหมายให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานหรือกบง.ไปพิจารณาผลตอบแทนการลงทุนที่จะต้องให้เกิดความเป็นธรรมที่จะต้องนำมาบวกกับราคาจำหน่ายแอลพีจีกับทุกกลุ่มผู้ใช้ “แหล่งข่าวกล่าว

2. การพิจารณาให้ความเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์สำรองน้ำมันของประเทศไทยในระยะยาว ซึ่งสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.)จะเสนอผลการศึกษาที่ใช้แผนการสำรองน้ำมันของประเทศญี่ปุ่นมาเป็นต้นแบบการสำรองในเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศไทย ที่จะนำน้ำมันมาใช้ได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเช่น สงครามอ่าวเปอร์เซีย โดยจะเพิ่มการสำรองน้ำมันของประเทศไทยเป็น 90 วันจากปัจจุบัน 60 วัน สำหรับสัดส่วนการสำรองที่ต้องแบ่งกันรับภาระระหว่างบริษัทน้ำมันเอกชนกับบริษัทน้ำมันของรัฐบาลในสัดส่วนกี่วันและจำนวนบาร์เรล ของน้ำมันที่ต้องสำรอง จะมอบให้กบง.เป็นผู้กำหนดต่อไป

3. การเห็นชอบแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าหรือพีดีพีฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3 หรือแผนผลิตไฟช่วงปี 2555-2573 ที่กำหนดลดสัดส่วนการผลิตไฟฟ้านิวเคลียร์จาก 4 แห่งเหลือ 2 แห่ง ลดโรงไฟฟ้าถ่านหินจาก 9 แห่งเหลือ 4 แห่ง โดยจะเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นและ 4. การพิจารณาเห็นชอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)ลงนามในการรับซื้อไฟฟ้าจากประเทศลาว ในโครงการเซเบียนและเซน้ำน้อย ที่แขวงจำปาศักดิ์ ปริมาณรับซื้อ390 เมกะวัตต์ ในราคา ณ จุดส่งมอบที่จ.อุบลราชธานี 1.30 บาทต่อหน่วย.

นายเติมชัย บุนนาค ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ บริษัท ปตท. กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ปตท.ได้ส่งหนังสือไปยังสำนักนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) เพื่อขอให้มีการพิจารณาอุดหนุนราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ หรือ NGV หลังจากรัฐบาลได้ตรึงราคาNGV ไว้ที่ 10.50 บาท/กิโลกรัมเป็นเวลา 3 เดือนหรือถึง 15 ส.ค. 2555 จากแผนเดิมราคาจะต้องทยอยปรับขึ้นเดือนละ 50 สต./ก.ก.

ทั้งนี้ที่ผ่านมาปตท.ได้เข้ามาช่วยแบกรับภาระราคาเอ็นจีวีไว้กว่า 3 หมื่นล้านบาท แต่เมื่อนโยบายปรับโครงสร้างราคาต้องชะลอออกไปส่งผลให้ยังมีภาระเพิ่มขึ้นออกไปอีก ขณะเดียวกันการปรับขึ้นราคาเอ็นจีวีตั้งแต่ต้นปี 2555 รวม 2 บาท/กก.ก. ปตท.ก็เข้าไปช่วยบรรเทาผลกระทบให้กับรถบริการสาธารณะจากการออบัตรส่วนลดราคาเอ็นจีวี2 บาท/ก.ก. เพื่อรองรับกับการทยอยปรับราคาแต่เมื่อภาครัฐมีนโยบายตรึงราคาออกไปก็ควรเข้ามาพิจารณาเพิ่มอัตราการอุดหนุนราคาในส่วนนี้บ้าง

สำหรับ แผนการลงทุนของธุรกิจเอ็นจีวี ยังคงเดินหน้าต่อไปโดยเฉพาะการเพิ่มปริมาณการจัดส่งเอ็นจีวีปั๊มแนวท่อให้มากขึ้น ให้ได้อีก 900 ล้านลูกบาศก์ฟุต(ลบ.ฟุต)/วัน แต่ในส่วนของปั๊มเอ็นจีวีปตท.จะทยอยเปิดให้ครบ500แห่งจากปัจจุบัน 466 แห่ง โดย หลังจากนั้นจะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเอกชนเข้ามาลงทุนเปิดปั๊มเอ็นจีวีเองแทน เพื่อเป็นการลดภาระขาดทุนของปตท.
กำลังโหลดความคิดเห็น