สอดแนมการเมือง
โดย : ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย
คำโกหกจะถูกปกปิดได้...ตราบเท่าที่คนโกหกยังไม่ได้กล่าวคำพูดใดๆออกมา!
แต่ปตท.เป็นองค์กรในตลาดหลักทรัพย์ ที่พูดอย่างหนึ่ง..แต่ทำอีกอย่างหนึ่ง โดยแสดงผ่านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ที่พูดเรื่องจริงบ้าง-ไม่จริงบ้าง รวมทั้งพูดเรื่องไม่จริงออกมามากมายในแต่ละปี
แน่นอน..จะพูดโฆษณาโกหกสวยหรูอย่างไร ก็ไม่เท่ากับตัวเลขที่ปตท.ต้องเสนอ ผลประกอบการ ทั้งกลางปีและปลายปี ต่อตลาดหลักทรัพย์หรือผู้ถือหุ้นให้ทราบว่า ปตท.กำไร-ขาดทุนเท่าใด?
ยกตัวอย่าง 7 ปี..ปตท.กำไรมาโดยตลอดเท่าไหร่? กลุ่มเอกชนได้ส่วนแบ่งจาก ปตท.เท่าไหร่?
ปี 2544 ปตท.กำไร 21,612 ล้านบาท แบ่งกำไรให้ผู้ถือหุ้นเอกชน 10,589.88 ล้านบาท
ปี 2545 ปตท.กำไร 24,485 ล้านบาท แบ่งกำไรให้ผู้ถือหุ้นเอกชน 11,997.65 ล้านบาท
ปี 2546 ปตท.กำไร 39,401 ล้านบาท แบ่งกำไรให้ผู้ถือหุ้นเอกชน 19,306.49 ล้านบาท
ปี 2547 ปตท.กำไร 62,666 ล้านบาท แบ่งกำไรให้ผู้ถือหุ้นเอกชน 30,706.34 ล้านบาท
ปี 2548 ปตท.กำไร 87,843 ล้านบาท แบ่งกำไรให้ผู้ถือหุ้นเอกชน 43,043.07 ล้านบาท
ปี 2549 ปตท.กำไร 95,261 ล้านบาท แบ่งกำไรให้ผู้ถือหุ้นเอกชน 46,677.89 ล้านบาท
ปี 2550 ปตท.กำไร 110,333 ล้านบาท แบ่งกำไรให้ผู้ถือหุ้นเอกชน 54,063.17 ล้านบาท
รวมปตท.กำไร 441,601 ล้านบาท แบ่งกำไรให้ผู้ถือหุ้นเอกชน 216,384.49 ล้านบาท!
เห็นไหมว่า..หาก ปตท.เป็นบริษัทของคนไทยดังเดิม 100% เงิน 216,384.49 ล้านบาท ก็ไม่ต้องไปแบ่งปันให้นักการเมืองชั่วเหล่านั้นสวาปาม เงินมหาศาลเหล่านั้น..นำมาช่วยคนไทยได้มากมายเลย..จริงไหม?
ครานี้มาดูหุ้น ปตท.ว่า..ทำกำไรให้ผู้ถือหุ้นเอกชนมากน้อยแค่ไหน?
การปั่นหุ้น ปตท.รอบแรกจาก 35 บาท พุ่งไปที่ 190 บาท กำไรช่วงนี้ 155 บาทต่อหุ้น การปั่นหุ้นปตท.รอบสองจาก 150 บาท พุ่งไปถึง 270 บาท กำไรห้วงนี้ 120 บาทต่อหุ้น การปั่นหุ้นปตท.รอบสามจาก 200 บาท พุ่งไปถึง 440 บาท กำไรห้วงนี้ 240 บาทต่อหุ้น
ดังนั้น ในห้วงเวลา 5 ปี หุ้น ปตท.ทำกำไรให้ผู้ถือหุ้นถึง 515 บาทต่อหุ้น!
คนไทยบางคนยังไม่รู้ว่า น้ำมันสำเร็จรูปที่ไทยผลิตได้ราว 527,000 บาเรลต่อวัน ส่วนใหญ่ถูกนำออกไปขายให้ต่างประเทศ แต่ไทยกลับต้องสั่งน้ำมันเกรดเลวกว่ามาให้คนไทยใช้
ไทยเป็นผู้ส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติไปขายต่างประเทศ มากกว่าบางประเทศในกลุ่มผู้ค้าน้ำมันโอเปกอีกด้วย มาดูซิว่า..ส่งอะไรไปขายบ้าง?
ปี 2550 ไทยส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป 4,097 ล้านดอลลาร์สหรัฐ น้ำมันดิบ 1,188 ล้านดอลลาร์ฯ ก๊าซปิโตรเลียมเหลว 179 ล้านดอลลาร์ฯ รวม 5,434 ล้านดอลลาร์ฯ
ปี 2551 ไทยส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป 7,913 ล้านดอลลาร์สหรัฐ น้ำมันดิบ 1,742 ล้านดอลลาร์ฯ ก๊าซปิโตรเลียมเหลว 18 ล้านดอลลาร์ฯ รวม 9,673 ล้านดอลลาร์ฯ
ในขณะที่การส่งออกยางพารา ในปี 2550 เป็นเงิน 5,640 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในปี 2551เป็นเงิน 6,792 ล้านดอลลาร์ฯ
ส่วนการส่งออกข้าวของชาติไทยนั้น ปี 2550 เป็นเงิน 3,467 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปี 255 เป็นเงิน 6,204 ล้านดอลลาร์ฯ
ประเทศส่งออกน้ำมันให้โลกอย่าง“เอกวาดอร์” ปี 2549 ส่งออกน้ำมัน 7.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 7.7 ล้านดอลลาร์ฯ ในปี 2550 และ 10.2 พันล้านดอลลาร์ฯ ในปี 2551
ขณะที่ประเทศไทยส่งออกน้ำมัน 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2549 และ 5.4 พันล้านดอลลาร์ฯ ในปี 2550 และ 9.7 พันล้านดอลลาร์ฯ ในปี 2551
เห็นไหมว่า..ไทยส่งออกสินค้าด้านปิโตรเลียม มากกว่ายางพาราและข้าวแล้ว แต่ปตท.ทำเป็นเงียบฉี่..ไม่โฆษณาประชาสัมพันธ์ ให้คนไทยทั้งชาติได้รู้ได้ภูมิใจ เพราะปตท.แอบเล่นกลสวาปามกำไรหลายต่อจากการเอาน้ำมันดีส่วน ใหญ่ของไทยไปขายให้ต่างชาติ แล้วทะลึ่งไปซื้อน้ำมันเลว-ราคาสูง จากต่างประเทศมากลั่นให้คนไทยซื้อใช้ในราคาโคตรแพงไงล่ะ
การหากินแบบเห็นแก่ตัวและเจ้าเล่ห์มีหลายวิธีการ เช่น ตั้งสูตรสวาปามอย่างชั่วช้า ดังนี้
น้ำมันกลั่นสำเร็จรูปในประเทศไทย+ค่าขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปจาก สิงคโปร์+ค่าสูญเสียระหว่างขนส่ง+ค่าปรับปรุงมาตรฐานสิงคโปร์มาเป็นมาตรฐานไทย+ค่าประกันภัยจากสิงคโปร์มาไทย=ราคาน้ำมันสำเร็จรูปในไทย
แต่รายการทั้งหมดเบื้องต้นมิได้เกิดขึ้นจริง เพราะเป็นน้ำมันดิบในประเทศไทย เข้าโรงกลั่นของไทยซึ่งเป็นมาตรฐานไทยอยู่แล้ว
ค่าใช้จ่ายเทียมที่ปั้นแต่งนี้ประมาณ 2 บาทต่อลิตร แต่ละปีคนไทยใช้น้ำมันสำเร็จรูปประมาณ 4 หมื่นล้านลิตร คนไทยจึงต้องจ่ายเงินถึง 8 หมื่นล้านบาทต่อปี หากินกันอย่างนี้มาหลายสิบปี ใครฟาดเงินนี้ไปรับประทานจนพุงกาง..หือ..?
ปตท.กำหนดวิสัยทัศน์องค์กรว่า “เป็นบริษัทพลังงานของไทย ประกอบธุรกิจก๊าซธรรมชาติและน้ำมันครบวงจร และธุรกิจปิโตรเคมีที่เน้นการใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นหลัก รวมทั้งธุรกิจต่อเนื่อง มุ่งไปสู่องค์กรแห่งความเป็นเลิศ (High Performance Organization) และเป็นผู้นำในภูมิภาค ด้วยความรับผิดชอบ เป็นธรรม และให้ผลประโยชน์ตอบแทนที่เหมาะสมต่อผู้มีส่วนได้เสีย”
วันนี้ ปตท.ได้พิสูจน์ตัวองค์กรแล้วว่า ส่วนได้ส่วนเสียที่ปตท.คำนึงถึงนั้น มิใช่ผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ในชาติ หากแต่เป็นผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นที่เป็นคนส่วนน้อย
ดังนั้น คนไทยทั้งชาติที่เป็นทั้งผู้ซื้อน้ำมัน และเป็นผู้จ่ายเงินสร้างปตท.ให้เกิดขึ้นในชาติไทย แต่กลับได้รับการสนองตอบจาก ปตท. ด้วยการต้องซื้อน้ำมันในราคาที่แพงเกินจริงมาโดยตลอด ชนิดที่ปตท.ไม่เคยมีน้ำใจเอื้ออาทรต่อผู้ใช้และผู้ให้กำเนิดตนเลย
แถมน้ำมันที่ราคาแพงเกินจริงยังเป็นต้นเหตุสำคัญ ที่ทำให้สินค้าราคาแพงตามไปด้วย นั่นเท่ากับคนไทยโดน ปตท.กระทืบซ้ำสอง เพียงเพื่อปตท.จะทำกำไรสูงสุดให้ผู้ถือหุ้นไม่กี่คน และผู้บริหาร ปตท.ได้เงินปันผลเข้ากระเป๋า โดย ปตท.ไม่แยแสต่อทุกข์เข็ญคนไทยทั้งชาติแม้แต่น้อย
ต้องถือว่า..ปตท.เป็นองค์กรที่เป็นเลิศในค้ากำไรเกินควร เป็นเลิศในการเนรคุณ เป็นเลิศในความอำมหิตอย่างยิ่ง ต่อคนไทยที่เป็นทั้งลูกค้าผู้ใช้น้ำมัน และยังเป็นผู้ให้กำเนิด ปตท.อีกด้วย..จริงไหม?
วงการน้ำมันระดับโลกและระดับชาติ จึงเต็มไปด้วยผลประโยชน์มหาศาลที่ไม่โปร่งใส ต้องจ่ายเงินกันทั้งบนโต๊ะและใต้โต๊ะ ทำให้บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของโลก และบริษัทน้ำมันระดับชาติต่างๆ ต้องมีหรือต้องเปิดบัญชีลับๆบนเกาะฟอกเงินดังๆ ทั้งเกาะเคย์แมน-เกาะเวอร์จิ้น เพื่อจ่ายเงินค่าคอมมิชชั่น และฟอกเงินสกปรกให้กลายเป็นเงิน“สะอาด”ให้กับคนขี้โกง
ประเทศข้างบ้านไทยวันนี้อย่างเกาะสิงคโปร์ ก็กลายเป็นแหล่งที่นักการเมืองไทย ชอบขนเงินสกปรกไปฟอกและซุกซ่อนไว้เช่นกัน ปตท.เองก็มีบัญชีทำนองนี้ตามเกาะฟอกเงินต่างๆ มิใช่หรือ?
หนังสือเดินทางของนักการเมืองไทยบางคน จึงมีแต่ตารางเดินทางเข้าออกเกาะสกปรกเหล่านี้ จนประเทศอเมริกาและบางประเทศในยุโรป ไม่ให้นักการเมืองชั่วเหล่านี้เข้าประเทศ เพราะมีกฎหมายห้ามคนทำธุรกิจที่ไม่โปร่งใส หรือนำเงินไม่มีที่ไป-ที่มาไปลงทุนในประเทศของเขา
วันนี้..คนหน้าเหลี่ยมที่ขี้โกงคนนั้น ยังคงโดนประเทศอังกฤษอายัดเงินราว 140,000 ล้านบาทที่ขนไปลงทุนในสโมสรฟุตบอลและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะบอกที่มา-ที่ไปของเงินไม่ได้ไงล่ะครับ
เมื่อ ปตท.มีพฤติกรรมมากมายที่ไม่โปร่งใส การใช้สื่อทั้งในและต่างประเทศ มาโฆษณาประชาสัมพันธ์ลบภาพร้าย เพื่อผลักให้หุ้น ปตท.ในตลาดราคาดี และหลอกผู้คนให้หลงในภาพดีอันจอมปลอม จึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่ในแต่ละปี ปตท.ต้องทุ่มเงินจำนวนมหาศาลไปกับโกหกนี้
การสร้างภาพพจน์ดีอันจอมปลอมของปตท.ทรราชน้ำมัน มี“ไพร่แดงบางตัว..เอ๊ย..บางคน”เข้าไปแทะเล็มเงินปตท.เข้ากระเป๋าด้วยครับ!
โดย : ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย
คำโกหกจะถูกปกปิดได้...ตราบเท่าที่คนโกหกยังไม่ได้กล่าวคำพูดใดๆออกมา!
แต่ปตท.เป็นองค์กรในตลาดหลักทรัพย์ ที่พูดอย่างหนึ่ง..แต่ทำอีกอย่างหนึ่ง โดยแสดงผ่านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ที่พูดเรื่องจริงบ้าง-ไม่จริงบ้าง รวมทั้งพูดเรื่องไม่จริงออกมามากมายในแต่ละปี
แน่นอน..จะพูดโฆษณาโกหกสวยหรูอย่างไร ก็ไม่เท่ากับตัวเลขที่ปตท.ต้องเสนอ ผลประกอบการ ทั้งกลางปีและปลายปี ต่อตลาดหลักทรัพย์หรือผู้ถือหุ้นให้ทราบว่า ปตท.กำไร-ขาดทุนเท่าใด?
ยกตัวอย่าง 7 ปี..ปตท.กำไรมาโดยตลอดเท่าไหร่? กลุ่มเอกชนได้ส่วนแบ่งจาก ปตท.เท่าไหร่?
ปี 2544 ปตท.กำไร 21,612 ล้านบาท แบ่งกำไรให้ผู้ถือหุ้นเอกชน 10,589.88 ล้านบาท
ปี 2545 ปตท.กำไร 24,485 ล้านบาท แบ่งกำไรให้ผู้ถือหุ้นเอกชน 11,997.65 ล้านบาท
ปี 2546 ปตท.กำไร 39,401 ล้านบาท แบ่งกำไรให้ผู้ถือหุ้นเอกชน 19,306.49 ล้านบาท
ปี 2547 ปตท.กำไร 62,666 ล้านบาท แบ่งกำไรให้ผู้ถือหุ้นเอกชน 30,706.34 ล้านบาท
ปี 2548 ปตท.กำไร 87,843 ล้านบาท แบ่งกำไรให้ผู้ถือหุ้นเอกชน 43,043.07 ล้านบาท
ปี 2549 ปตท.กำไร 95,261 ล้านบาท แบ่งกำไรให้ผู้ถือหุ้นเอกชน 46,677.89 ล้านบาท
ปี 2550 ปตท.กำไร 110,333 ล้านบาท แบ่งกำไรให้ผู้ถือหุ้นเอกชน 54,063.17 ล้านบาท
รวมปตท.กำไร 441,601 ล้านบาท แบ่งกำไรให้ผู้ถือหุ้นเอกชน 216,384.49 ล้านบาท!
เห็นไหมว่า..หาก ปตท.เป็นบริษัทของคนไทยดังเดิม 100% เงิน 216,384.49 ล้านบาท ก็ไม่ต้องไปแบ่งปันให้นักการเมืองชั่วเหล่านั้นสวาปาม เงินมหาศาลเหล่านั้น..นำมาช่วยคนไทยได้มากมายเลย..จริงไหม?
ครานี้มาดูหุ้น ปตท.ว่า..ทำกำไรให้ผู้ถือหุ้นเอกชนมากน้อยแค่ไหน?
การปั่นหุ้น ปตท.รอบแรกจาก 35 บาท พุ่งไปที่ 190 บาท กำไรช่วงนี้ 155 บาทต่อหุ้น การปั่นหุ้นปตท.รอบสองจาก 150 บาท พุ่งไปถึง 270 บาท กำไรห้วงนี้ 120 บาทต่อหุ้น การปั่นหุ้นปตท.รอบสามจาก 200 บาท พุ่งไปถึง 440 บาท กำไรห้วงนี้ 240 บาทต่อหุ้น
ดังนั้น ในห้วงเวลา 5 ปี หุ้น ปตท.ทำกำไรให้ผู้ถือหุ้นถึง 515 บาทต่อหุ้น!
คนไทยบางคนยังไม่รู้ว่า น้ำมันสำเร็จรูปที่ไทยผลิตได้ราว 527,000 บาเรลต่อวัน ส่วนใหญ่ถูกนำออกไปขายให้ต่างประเทศ แต่ไทยกลับต้องสั่งน้ำมันเกรดเลวกว่ามาให้คนไทยใช้
ไทยเป็นผู้ส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติไปขายต่างประเทศ มากกว่าบางประเทศในกลุ่มผู้ค้าน้ำมันโอเปกอีกด้วย มาดูซิว่า..ส่งอะไรไปขายบ้าง?
ปี 2550 ไทยส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป 4,097 ล้านดอลลาร์สหรัฐ น้ำมันดิบ 1,188 ล้านดอลลาร์ฯ ก๊าซปิโตรเลียมเหลว 179 ล้านดอลลาร์ฯ รวม 5,434 ล้านดอลลาร์ฯ
ปี 2551 ไทยส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป 7,913 ล้านดอลลาร์สหรัฐ น้ำมันดิบ 1,742 ล้านดอลลาร์ฯ ก๊าซปิโตรเลียมเหลว 18 ล้านดอลลาร์ฯ รวม 9,673 ล้านดอลลาร์ฯ
ในขณะที่การส่งออกยางพารา ในปี 2550 เป็นเงิน 5,640 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในปี 2551เป็นเงิน 6,792 ล้านดอลลาร์ฯ
ส่วนการส่งออกข้าวของชาติไทยนั้น ปี 2550 เป็นเงิน 3,467 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปี 255 เป็นเงิน 6,204 ล้านดอลลาร์ฯ
ประเทศส่งออกน้ำมันให้โลกอย่าง“เอกวาดอร์” ปี 2549 ส่งออกน้ำมัน 7.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 7.7 ล้านดอลลาร์ฯ ในปี 2550 และ 10.2 พันล้านดอลลาร์ฯ ในปี 2551
ขณะที่ประเทศไทยส่งออกน้ำมัน 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2549 และ 5.4 พันล้านดอลลาร์ฯ ในปี 2550 และ 9.7 พันล้านดอลลาร์ฯ ในปี 2551
เห็นไหมว่า..ไทยส่งออกสินค้าด้านปิโตรเลียม มากกว่ายางพาราและข้าวแล้ว แต่ปตท.ทำเป็นเงียบฉี่..ไม่โฆษณาประชาสัมพันธ์ ให้คนไทยทั้งชาติได้รู้ได้ภูมิใจ เพราะปตท.แอบเล่นกลสวาปามกำไรหลายต่อจากการเอาน้ำมันดีส่วน ใหญ่ของไทยไปขายให้ต่างชาติ แล้วทะลึ่งไปซื้อน้ำมันเลว-ราคาสูง จากต่างประเทศมากลั่นให้คนไทยซื้อใช้ในราคาโคตรแพงไงล่ะ
การหากินแบบเห็นแก่ตัวและเจ้าเล่ห์มีหลายวิธีการ เช่น ตั้งสูตรสวาปามอย่างชั่วช้า ดังนี้
น้ำมันกลั่นสำเร็จรูปในประเทศไทย+ค่าขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปจาก สิงคโปร์+ค่าสูญเสียระหว่างขนส่ง+ค่าปรับปรุงมาตรฐานสิงคโปร์มาเป็นมาตรฐานไทย+ค่าประกันภัยจากสิงคโปร์มาไทย=ราคาน้ำมันสำเร็จรูปในไทย
แต่รายการทั้งหมดเบื้องต้นมิได้เกิดขึ้นจริง เพราะเป็นน้ำมันดิบในประเทศไทย เข้าโรงกลั่นของไทยซึ่งเป็นมาตรฐานไทยอยู่แล้ว
ค่าใช้จ่ายเทียมที่ปั้นแต่งนี้ประมาณ 2 บาทต่อลิตร แต่ละปีคนไทยใช้น้ำมันสำเร็จรูปประมาณ 4 หมื่นล้านลิตร คนไทยจึงต้องจ่ายเงินถึง 8 หมื่นล้านบาทต่อปี หากินกันอย่างนี้มาหลายสิบปี ใครฟาดเงินนี้ไปรับประทานจนพุงกาง..หือ..?
ปตท.กำหนดวิสัยทัศน์องค์กรว่า “เป็นบริษัทพลังงานของไทย ประกอบธุรกิจก๊าซธรรมชาติและน้ำมันครบวงจร และธุรกิจปิโตรเคมีที่เน้นการใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นหลัก รวมทั้งธุรกิจต่อเนื่อง มุ่งไปสู่องค์กรแห่งความเป็นเลิศ (High Performance Organization) และเป็นผู้นำในภูมิภาค ด้วยความรับผิดชอบ เป็นธรรม และให้ผลประโยชน์ตอบแทนที่เหมาะสมต่อผู้มีส่วนได้เสีย”
วันนี้ ปตท.ได้พิสูจน์ตัวองค์กรแล้วว่า ส่วนได้ส่วนเสียที่ปตท.คำนึงถึงนั้น มิใช่ผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ในชาติ หากแต่เป็นผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นที่เป็นคนส่วนน้อย
ดังนั้น คนไทยทั้งชาติที่เป็นทั้งผู้ซื้อน้ำมัน และเป็นผู้จ่ายเงินสร้างปตท.ให้เกิดขึ้นในชาติไทย แต่กลับได้รับการสนองตอบจาก ปตท. ด้วยการต้องซื้อน้ำมันในราคาที่แพงเกินจริงมาโดยตลอด ชนิดที่ปตท.ไม่เคยมีน้ำใจเอื้ออาทรต่อผู้ใช้และผู้ให้กำเนิดตนเลย
แถมน้ำมันที่ราคาแพงเกินจริงยังเป็นต้นเหตุสำคัญ ที่ทำให้สินค้าราคาแพงตามไปด้วย นั่นเท่ากับคนไทยโดน ปตท.กระทืบซ้ำสอง เพียงเพื่อปตท.จะทำกำไรสูงสุดให้ผู้ถือหุ้นไม่กี่คน และผู้บริหาร ปตท.ได้เงินปันผลเข้ากระเป๋า โดย ปตท.ไม่แยแสต่อทุกข์เข็ญคนไทยทั้งชาติแม้แต่น้อย
ต้องถือว่า..ปตท.เป็นองค์กรที่เป็นเลิศในค้ากำไรเกินควร เป็นเลิศในการเนรคุณ เป็นเลิศในความอำมหิตอย่างยิ่ง ต่อคนไทยที่เป็นทั้งลูกค้าผู้ใช้น้ำมัน และยังเป็นผู้ให้กำเนิด ปตท.อีกด้วย..จริงไหม?
วงการน้ำมันระดับโลกและระดับชาติ จึงเต็มไปด้วยผลประโยชน์มหาศาลที่ไม่โปร่งใส ต้องจ่ายเงินกันทั้งบนโต๊ะและใต้โต๊ะ ทำให้บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของโลก และบริษัทน้ำมันระดับชาติต่างๆ ต้องมีหรือต้องเปิดบัญชีลับๆบนเกาะฟอกเงินดังๆ ทั้งเกาะเคย์แมน-เกาะเวอร์จิ้น เพื่อจ่ายเงินค่าคอมมิชชั่น และฟอกเงินสกปรกให้กลายเป็นเงิน“สะอาด”ให้กับคนขี้โกง
ประเทศข้างบ้านไทยวันนี้อย่างเกาะสิงคโปร์ ก็กลายเป็นแหล่งที่นักการเมืองไทย ชอบขนเงินสกปรกไปฟอกและซุกซ่อนไว้เช่นกัน ปตท.เองก็มีบัญชีทำนองนี้ตามเกาะฟอกเงินต่างๆ มิใช่หรือ?
หนังสือเดินทางของนักการเมืองไทยบางคน จึงมีแต่ตารางเดินทางเข้าออกเกาะสกปรกเหล่านี้ จนประเทศอเมริกาและบางประเทศในยุโรป ไม่ให้นักการเมืองชั่วเหล่านี้เข้าประเทศ เพราะมีกฎหมายห้ามคนทำธุรกิจที่ไม่โปร่งใส หรือนำเงินไม่มีที่ไป-ที่มาไปลงทุนในประเทศของเขา
วันนี้..คนหน้าเหลี่ยมที่ขี้โกงคนนั้น ยังคงโดนประเทศอังกฤษอายัดเงินราว 140,000 ล้านบาทที่ขนไปลงทุนในสโมสรฟุตบอลและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะบอกที่มา-ที่ไปของเงินไม่ได้ไงล่ะครับ
เมื่อ ปตท.มีพฤติกรรมมากมายที่ไม่โปร่งใส การใช้สื่อทั้งในและต่างประเทศ มาโฆษณาประชาสัมพันธ์ลบภาพร้าย เพื่อผลักให้หุ้น ปตท.ในตลาดราคาดี และหลอกผู้คนให้หลงในภาพดีอันจอมปลอม จึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่ในแต่ละปี ปตท.ต้องทุ่มเงินจำนวนมหาศาลไปกับโกหกนี้
การสร้างภาพพจน์ดีอันจอมปลอมของปตท.ทรราชน้ำมัน มี“ไพร่แดงบางตัว..เอ๊ย..บางคน”เข้าไปแทะเล็มเงินปตท.เข้ากระเป๋าด้วยครับ!