เอเจนซีส์ – เจ้าหน้าที่กาตาร์เร่งสืบสวนหาสาเหตุไฟไหม้ชอปปิ้งมอลล์หรูในกรุงโดฮา ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 19 คน ในจำนวนนี้รวมถึงฝาแฝด 3 ชาวนิวซีแลนด์ที่อยู่ในวัย 3 ขวบ ตลอดจนเด็กเล็กคนอื่นๆ อีก 10 คน ซึ่งติดอยู่ในเนิร์สเซอรีที่คาดว่าเป็นต้นเพลิง ขณะที่สื่อท้องถิ่นตั้งคำถามถึงใบอนุญาตของสถานรับเลี้ยงเด็กดังกล่าวที่ตั้งอยู่กลางศูนย์การค้าหรู
คลิปภาพที่เผยแพร่ทางออนไลน์เผยให้เห็นควันดำคลุ้งพวยพุ่งออกมาจากคอมเพล็กซ์มอลล์หรูสไตล์เวนิสแห่งนี้ ขณะที่รถหน่วยฉุกเฉินรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ และอีกหลายภาพมองเห็นเจ้าหน้าที่อุ้มเด็กออกมาจากหลังคามอลล์
เวลานี้ยังไม่สามารถระบุชัดเจนถึงสาเหตุของเพลิงไหม้ ซึ่งสื่อรายงานว่า ต้นเพลิงมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กที่มีชื่อว่าจิมแปนซีเนิร์สเซอรี ซึ่งตั้งอยู่กลางมอลล์
อับดุลเลาะห์ บิน นัสเซอร์ อัล ตานิ รัฐมนตรีมหาดไทยกาตาร์ แถลงว่า ได้รับรายงานเหตุเพลิงไหม้ศูนย์การค้าหรู วิลแลกจิโอ มอลล์ แห่งนี้ครั้งแรกเมื่อเวลา 11.02 น. ของวันจันทร์ (ตรงกับ 15.02 น. ตามเวลาไทย) และตำรวจและเจ้าหน้าที่ป้องกันฝ่ายพลเรือนตรงไปยังที่เกิดเหตุภายในเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น
อัล ตานิเสริมว่า เจ้าหน้าที่รับรู้ชัดเจนว่ามีเด็ก 20 คนติดอยู่ที่ชั้นหนึ่งของสถานรับเลี้ยงเด็กที่อยู่ภายในมอลล์ และได้ทุ่มเทความพยายามทั้งหมดเพื่อนำตัวเด็กๆ เหล่านั้นออกมา โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องพังหลังคาเพื่อลงไปช่วยเด็กเนื่องจากบันไดพัง
ตัวแทนเจ้าหน้าที่ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนผู้หนึ่งเล่าว่า ควันหนาทึบภายในมอลล์ประกอบกับอุณหภูมิที่ร้อนจัดจากเปลวไฟทำให้การเข้าไปช่วยเด็กทำได้ยาก
ด้าน พ.อ.มูบารัค โบไอนาอิน อธิบดีกรมสารนิเทศของกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า เหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 19 ราย เป็นเด็ก 13 คนจากนิวซีแลนด์ สเปน แอฟริกาใต้ อเมริกันที่มีเชื้อสายอาหรับ จีน แคนาดา และอียิปต์ โดยประกอบด้วยเด็กหญิง 7 คน และเด็กชาย 3 คน ผู้เสียชีวิตที่เหลือเป็นครูผู้หญิง 4 คน จากแอฟริกาใต้ 1 คน และฟิลิปปินส์ 3 คน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนอีก 2 คน โดยเหยื่อทั้งหมดเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ
นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บ 17 คน ซึ่งมีเด็กอยู่ 4 คน แต่ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิง
ที่กรุงเวลลิงตัน นายกรัฐมนตรีจอห์น คีย์ แถลงว่าฝาแฝดนิวซีแลนด์วัย 3 ขวบทั้ง 3 คน เสียชีวิตในเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่กรุงโดฮา ขณะที่สถานีวิทยุเรดิโอ นิวซีแลนด์รายงานว่า เด็กน้อยทั้งสามคือ ลิลลี, แจ็คสัน และวิลเชอร์ วีกเคส
ที่มาดริด โฆษกกระทรวงต่างประเทศสเปนแถลงว่า เด็กสเปนเสียชีวิต 4 คน และเจ้าหน้าที่สถานทูตกำลังรวบรวมรายละเอียดเพิ่มเติม ส่วนสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำกาตาร์แจ้งว่า เด็กอียิปต์ 2 คนเป็นชาย 1 หญิง 1 ซึ่งเสียชีวิตนั้น เด็กชายคนดังกล่าวถือสัญชาติฝรั่งเศสด้วย
สำนักข่าวอัล-จาซีเราะห์รายงานว่า มกุฎราชกุมารชีค ทามิม บิน ฮาหมัด อัล-ตานิ สั่งให้ตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อสอบสวนสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้
ทาเร็ก แบซลีย์ นักข่าวนิวซีแลนด์ เล่าว่า อยู่ในมอลล์แห่งนั้นกับลูก 2 คนขณะเกิดเพลิงไหม้ แต่สามารถหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย กระนั้น เขาตั้งข้อสังเกตว่า เจ้าหน้าที่ในมอลล์ขาดความกระตือรือร้นเมื่อสัญญาณเตือนภัยที่เสียงเหมือนกริ่งในบ้านดัง นอกจากนั้นยังขาดการวางแผนและการประสานงานเพื่ออพยพคนออกจากพื้นที่
สำหรับเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่กาตาร์ยืนยันว่า อาคารทุกแห่งทั่วประเทศปฏิบัติตามกฎข้อบังคับด้านความปลอดภัย “โดยไม่มีข้อยกเว้น” และจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบปัญหาด้านความปลอดภัยเหล่านี้
ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์อัล-วาตันของกาตาร์ ตั้งคำถามต่อกระทรวงกิจการสังคมว่า เนิร์สเซอรีแห่งดังกล่าวมีคุณสมบัติเหมาะสมในการได้รับใบอนุญาตดำเนินการหรือไม่ เนื่องจากเห็นได้ว่า ไม่มีการติดตั้งอุปกรณ์อย่างเพียงพอและเหมาะสม
“การละเลยนั้นดูเหมือนเข้าข่ายการฆ่าคนโดยไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าและเป็นหายนะอย่างแท้จริง” ซาเลห์ อัล-กาวารี บรรณาธิการบริหารอัล-รายา หนังสือพิมพ์อีกฉบับของกาตาร์ วิจารณ์ในบทบรรณาธิการ
คลิปภาพที่เผยแพร่ทางออนไลน์เผยให้เห็นควันดำคลุ้งพวยพุ่งออกมาจากคอมเพล็กซ์มอลล์หรูสไตล์เวนิสแห่งนี้ ขณะที่รถหน่วยฉุกเฉินรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ และอีกหลายภาพมองเห็นเจ้าหน้าที่อุ้มเด็กออกมาจากหลังคามอลล์
เวลานี้ยังไม่สามารถระบุชัดเจนถึงสาเหตุของเพลิงไหม้ ซึ่งสื่อรายงานว่า ต้นเพลิงมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กที่มีชื่อว่าจิมแปนซีเนิร์สเซอรี ซึ่งตั้งอยู่กลางมอลล์
อับดุลเลาะห์ บิน นัสเซอร์ อัล ตานิ รัฐมนตรีมหาดไทยกาตาร์ แถลงว่า ได้รับรายงานเหตุเพลิงไหม้ศูนย์การค้าหรู วิลแลกจิโอ มอลล์ แห่งนี้ครั้งแรกเมื่อเวลา 11.02 น. ของวันจันทร์ (ตรงกับ 15.02 น. ตามเวลาไทย) และตำรวจและเจ้าหน้าที่ป้องกันฝ่ายพลเรือนตรงไปยังที่เกิดเหตุภายในเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น
อัล ตานิเสริมว่า เจ้าหน้าที่รับรู้ชัดเจนว่ามีเด็ก 20 คนติดอยู่ที่ชั้นหนึ่งของสถานรับเลี้ยงเด็กที่อยู่ภายในมอลล์ และได้ทุ่มเทความพยายามทั้งหมดเพื่อนำตัวเด็กๆ เหล่านั้นออกมา โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องพังหลังคาเพื่อลงไปช่วยเด็กเนื่องจากบันไดพัง
ตัวแทนเจ้าหน้าที่ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนผู้หนึ่งเล่าว่า ควันหนาทึบภายในมอลล์ประกอบกับอุณหภูมิที่ร้อนจัดจากเปลวไฟทำให้การเข้าไปช่วยเด็กทำได้ยาก
ด้าน พ.อ.มูบารัค โบไอนาอิน อธิบดีกรมสารนิเทศของกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า เหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 19 ราย เป็นเด็ก 13 คนจากนิวซีแลนด์ สเปน แอฟริกาใต้ อเมริกันที่มีเชื้อสายอาหรับ จีน แคนาดา และอียิปต์ โดยประกอบด้วยเด็กหญิง 7 คน และเด็กชาย 3 คน ผู้เสียชีวิตที่เหลือเป็นครูผู้หญิง 4 คน จากแอฟริกาใต้ 1 คน และฟิลิปปินส์ 3 คน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนอีก 2 คน โดยเหยื่อทั้งหมดเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ
นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บ 17 คน ซึ่งมีเด็กอยู่ 4 คน แต่ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิง
ที่กรุงเวลลิงตัน นายกรัฐมนตรีจอห์น คีย์ แถลงว่าฝาแฝดนิวซีแลนด์วัย 3 ขวบทั้ง 3 คน เสียชีวิตในเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่กรุงโดฮา ขณะที่สถานีวิทยุเรดิโอ นิวซีแลนด์รายงานว่า เด็กน้อยทั้งสามคือ ลิลลี, แจ็คสัน และวิลเชอร์ วีกเคส
ที่มาดริด โฆษกกระทรวงต่างประเทศสเปนแถลงว่า เด็กสเปนเสียชีวิต 4 คน และเจ้าหน้าที่สถานทูตกำลังรวบรวมรายละเอียดเพิ่มเติม ส่วนสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำกาตาร์แจ้งว่า เด็กอียิปต์ 2 คนเป็นชาย 1 หญิง 1 ซึ่งเสียชีวิตนั้น เด็กชายคนดังกล่าวถือสัญชาติฝรั่งเศสด้วย
สำนักข่าวอัล-จาซีเราะห์รายงานว่า มกุฎราชกุมารชีค ทามิม บิน ฮาหมัด อัล-ตานิ สั่งให้ตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อสอบสวนสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้
ทาเร็ก แบซลีย์ นักข่าวนิวซีแลนด์ เล่าว่า อยู่ในมอลล์แห่งนั้นกับลูก 2 คนขณะเกิดเพลิงไหม้ แต่สามารถหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย กระนั้น เขาตั้งข้อสังเกตว่า เจ้าหน้าที่ในมอลล์ขาดความกระตือรือร้นเมื่อสัญญาณเตือนภัยที่เสียงเหมือนกริ่งในบ้านดัง นอกจากนั้นยังขาดการวางแผนและการประสานงานเพื่ออพยพคนออกจากพื้นที่
สำหรับเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่กาตาร์ยืนยันว่า อาคารทุกแห่งทั่วประเทศปฏิบัติตามกฎข้อบังคับด้านความปลอดภัย “โดยไม่มีข้อยกเว้น” และจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบปัญหาด้านความปลอดภัยเหล่านี้
ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์อัล-วาตันของกาตาร์ ตั้งคำถามต่อกระทรวงกิจการสังคมว่า เนิร์สเซอรีแห่งดังกล่าวมีคุณสมบัติเหมาะสมในการได้รับใบอนุญาตดำเนินการหรือไม่ เนื่องจากเห็นได้ว่า ไม่มีการติดตั้งอุปกรณ์อย่างเพียงพอและเหมาะสม
“การละเลยนั้นดูเหมือนเข้าข่ายการฆ่าคนโดยไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าและเป็นหายนะอย่างแท้จริง” ซาเลห์ อัล-กาวารี บรรณาธิการบริหารอัล-รายา หนังสือพิมพ์อีกฉบับของกาตาร์ วิจารณ์ในบทบรรณาธิการ
