เอเอฟพี - ฝาแฝดจากแดนอิเหนาซึ่งต่างมีพ่อแม่บุญธรรมชาวสวีเดนมาขอรับเลี้ยงไปตั้งแต่ยังเล็ก ได้พบหน้ากันเป็นครั้งแรกผ่านเฟสบุ๊กในอีกเกือบ 30 ปีให้หลัง ทั้งที่บ้านของทั้งคู่อยู่ห่างกันเพียง 40 กิโลเมตรเท่านั้น
ตลอด 29 ปีที่ผ่านมา เอมิลี โฟล์ก และ ลิน แบคแมน ไม่เคยรับรู้ว่าตนเองมีฝาแฝด จนกระทั่งพบกันเมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว
ผลตรวจดีเอ็นเอปรากฎว่า มีความเป็นไปได้ถึง 99.98 เปอร์เซ็นต์ที่ เอมิลี และ ลิน จะเป็นพี่น้องกัน
ทั้งคู่เคยอาศัยอยู่ในศูนย์เด็กกำพร้าเมืองเซมารัง ทางตอนเหนือของอินโดนีเซีย และมีพ่อแม่ชาวสวีเดนมาขอรับเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม ทว่าในเอกสารกลับไม่ระบุว่าเด็กทั้งสองเป็นฝาแฝด
ขณะที่พ่อแม่ของ ลิน พาเธอออกมาจากศูนย์รับเลี้ยงเด็กกำพร้า คนขับแท็กซี่ได้หันมาถามว่า “แล้วเด็กอีกคนที่เป็นแฝดกันล่ะ?” พวกเขาจึงจดชื่อภาษาอินโดนีเซียของเด็กทั้ง 2 คนลงกระดาษไว้
พ่อแม่ของ ลิน ตามหาครอบครัว เอมิลี เจอในสวีเดน จากนั้นทั้งสองบ้านจึงมาเจอกัน 2-3 ครั้งเพื่อเปรียบเทียบข้อมูล ในขณะที่เด็กทั้งคู่ยังเป็นเพียงทารก
“พวกเขาตรวจสอบเอกสารการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม แต่คิดว่าเราสองคนก็ไม่เหมือนกันเท่าไหร่ ข้อมูลหลายๆอย่างก็ไม่ตรงกันด้วย และสมัยนั้นก็ยังไม่มีการตรวจดีเอ็นเอ” เอมิลี เผย
เอกสารระบุชื่อบิดาของเด็กทั้งสองไม่ตรงกัน และแม้ชื่อมารดาจะเหมือนกันก็ตาม แต่สองครอบครัวก็สรุปว่า นั่นคงจะเป็นความผิดพลาดด้วยเช่นกัน
ในที่สุด สามีภรรยาทั้ง 2 คู่ก็มั่นใจว่า เด็กที่ตนรับเลี้ยงไม่ใช่พี่น้อง และขาดการติดต่อไปตั้งแต่นั้น
แม้พ่อแม่บุญธรรมจะเคยเล่าเรื่องราวให้ ลิน และ เอมิลี ฟัง แต่พวกเธอก็ลืมมันไป และเมื่อโตขึ้นก็ยิ่งไม่สนใจชาติกำเนิดของตัวเอง จึงไม่เคยไถ่ถามอีก
“แต่พอฉันแต่งงานเมื่อ 2 ปีก่อน ฉันก็เริ่มนึกถึงครอบครัวและการที่พ่อแม่นำฉันมาเลี้ยง พอกลับไปถามท่าน ท่านก็เล่าให้ฟังอีกครั้งหนึ่ง ฉันจึงตัดสินใจออกตามหา ลิน” เอมิลี กล่าว
เอมิลี นำชื่อของเด็กอีกคนไปค้นหาในเครือข่ายเด็กอินโดนีเซียที่ถูกรับเลี้ยงโดยพ่อแม่ชาวสวีเดน และพบชื่อของ ลิน ในเฟสบุ๊ก
“ฉันเกิดวันที่ 18 มีนาคม ปี 1983 ที่เมืองเซมารัง แม่ที่ให้กำเนิดฉันชื่อ มาร์ยาตี ราจิมัน” เอมิลี ส่งข้อความไปถึง ลิน และไม่นานนักได้คำตอบกลับมาว่า “ว้าว... แม่ฉันก็ชื่อนั้นเหมือนกัน และฉันก็เกิดวันเดียวกับเธอด้วย”
หลังจากรู้จักกัน เอมิลี และ ลิน ก็พบว่า พวกเธอมีหลายอย่างที่เหมือนกันอย่างน่าประหลาด
บ้านของทั้งคู่อยู่ห่างกันเพียง 40 กิโลเมตรทางตอนใต้ของสวีเดน ต่างมีอาชีพเป็นครูเหมือนกัน แต่งงานในวันเดียวกันแต่ห่างกัน 1 ปี และในวันแต่งงานก็ยังเต้นรำเพลง “ยู แอนด์ มี” ของวงไลฟ์เฮาส์ เหมือนกันเสียด้วย
“มันแปลกมากเลยล่ะค่ะ” เอมิลี กล่าว
“ตอนที่ ลิน โทรมาบอกฉัน (เรื่องผลตรวจดีเอ็นเอ) จำได้ว่าฉันนั่งอยู่ในรถ พอได้ยินเข้าฉันก็หัวเราะก๊ากเลย เพราะมันเหลือเชื่อมาก... แล้วจู่ๆฉันก็คิดขึ้นมาว่า เราคงเคยอยู่ในท้องแม่มาด้วยกัน มันเป็นความรู้สึกที่แปลก แต่ก็เยี่ยมมากเลย”
นับจากวันนั้น ลิน และ เอมิลี ก็ติดต่อกันเสมอมา และคุยกันว่าจะเดินทางไปอินโดนีเซียด้วยกันเพื่อตามหาพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด
เอกสารรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมบอกข้อมูลหลายอย่าง แต่บางอย่างก็ขัดแย้ง รวมถึงข้อมูลที่ว่า บิดาของทั้งคู่มีอาชีพเป็นคนขับแท็กซี่
“เราสงสัยมากเลยว่า ท่านจะเป็นคนขับแท็กซี่คนนั้นหรือเปล่า” เอมิลี กล่าว
เมื่อถูกถามว่า เสียดายหรือไม่ที่ไม่ได้เจอฝาแฝดเร็วกว่านี้ เอมิลี บอกว่า “ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเสียดายกับสิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อน แค่ฉันได้เจอเธอก็ดีใจมากแล้ว”
