xs
xsm
sm
md
lg

แดงปัญญาชนฝุ่นใต้ตีนทักษิณ

เผยแพร่:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ

ผมนั่งฟังคลิปวิดีโอลิงก์การปราศรัยของทักษิณในวันรำลึกการเผาบ้านเผาเมือง และการชุมนุมที่นำมาสู่การสูญเสียชีวิตทั้งฝ่ายพลเรือน ทหารจำนวน 91 ชีวิตความยาว 43.52 นาทีจนจบอีกรอบก่อนเขียนบทความชิ้นนี้

นั่งฟังเต็มๆ ก็เห็นเลยว่า ทักษิณนี่ร้ายนะครับ เปิดฉากมาด้วยมุกขอแสดงความยินดีกับจตุพร จนเจ้าตัวยิ้มแฉ่งออกมายืนแถวหน้า คงนึกในใจว่าทักษิณจะพูดถึงตำแหน่งรัฐมนตรี ฟังไปฟังมาแค่ชมว่าเป็นนักสู้เพื่อประชาชน หลังจากนั้นกล้องตัดมาบนเวทีอีกครั้งในนาทีที่ 5.37 สีหน้าตุ๊ดตู่เปลี่ยนไปเป็นเศร้าซึม แล้วตั้งแต่นาทีที่ 14 ที่ตัดมาบนเวทีอีกครั้ง ตุ๊ดตู่ก็หายไปจากแถวหน้าเลย

ฟังใหม่จนจบแล้ว ผมค่อนข้างมั่นใจว่า การสื่อด้วยข้อความภาษาไทยที่ชัดแจ้งของทักษิณนั้น มันฟังได้เพียงอย่างเดียวว่า ทักษิณบอกให้คนเสื้อแดงยุติบทบาทไป

คนเสื้อแดงขับเรือมาส่งเขาขึ้นฝั่งแล้ว ตอนนี้กำลังจะขับรถขึ้นเขา คนเสื้อแดงไม่ต้องตามมาอีก และจะพูดในการรำลึกครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย แม้จะพูดจาเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้ทำนองว่า พวกเราต้องเกาะกลุ่มกันต่อไป จับตาดูหากว่าบ้านเมืองยังไม่เป็นประชาธิปไตยหรือถูกเบี้ยวนั่นแหละค่อยมารวมตัวกันอีก

ผมคิดว่าแกนนำเสื้อแดงรู้นะครับว่า คำพูดของทักษิณนั้นอาจจะส่งผลกระทบต่อแนวร่วมระดับหนึ่ง โดยเฉพาะพวกปัญญาชนที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มเสื้อแดง บรรดาแกนนำเสื้อแดงจึงต้องเรียงหน้ากันออกมาอธิบายคำปราศรัยของทักษิณในทางบวก ทั้งๆ ที่ทักษิณพูดจาด้วยภาษาไทยชัดเจนไม่ต้องแปลความอะไรกันอีก

จริงอยู่ครับว่า บทเรียนที่ผ่านมาอาจทำให้เราไม่ไว้ใจคำพูดอันกลิ้งกลอกของทักษิณนัก ครั้งนี้เขาอาจพูดเพื่อเอาใจคนที่ทักษิณไปสัญญิงสัญญาเอาไว้ว่าจะทำให้เขาได้กลับมาประเทศ คำว่า “เบี้ยว” นั่นแหละครับมันมีความหมายให้เข้าใจไปทำนองนั้น

ตีความได้ว่า จริงแล้วทักษิณอาจไม่ได้ต้องการพูดกับคนเสื้อแดงหรอก แต่อาศัยวาระของคนเสื้อแดงเพื่อพูดให้คนที่เขาสัญญิงสัญญาฟังว่า นับจากนี้ไปเขาจะไม่สร้างความวุ่นวายในประเทศอีกแล้ว และด่าตัวเองและพรรคพวกให้ฟังด้วยว่าที่ทำลงไปในอดีตนั้นเป็นเรื่องปัญญาอ่อน

ทักษิณยกเอาสงครามมาเปรียบเปรยว่าคนที่ได้ประโยชน์คือพ่อค้าอาวุธก็จริง แต่พอประโยคถัดมาทักษิณพูดนะครับว่า ถ้าปล่อยให้ความขัดแย้งต่อไป “อย่างที่ผมบอกถ้ารบกันต่อไปพ่อค้าอาวุธได้ประโยชน์ ในที่นี้หมายถึงคนที่ได้ประโยชน์จากความขัดแย้งทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายเราและฝ่ายเขา”

ขีดเส้นใต้ตรงคำว่า “ในที่นี้หมายถึงคนที่ได้ประโยชน์จากความขัดแย้งทั้งสองฝ่ายทั้งฝ่ายเราและฝ่ายเขา”

การวิจารณ์ของทักษิณต่อฝ่ายตรงข้ามหรือ “ฝ่ายเขา” นั้นไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกครับ แต่นัยนี้ทักษิณต้องการสื่อไปยังฝ่ายของตัวเองด้วย

น่าสงสารแต่พวกแดงล้มเจ้า และแดงที่ต้องการเปลี่ยนระบอบที่เข้ามาเกาะเกี่ยวกับขบวนการทักษิณ เพราะการพูดครั้งนี้ทักษิณยังเน้นย้ำว่าให้ช่วยกันรักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ด้วย

นับเป็นครั้งแรกที่ทักษิณพูดเป็นนัยเพื่อส่งสัญญาณไปยังกลุ่มแดงล้มเจ้าที่เข้ามาเกาะกุมขบวนการเสื้อแดงออกไป

สิ่งเหล่านี้เห็นได้จากปฏิกิริยาของคนเสื้อแดงในสายปัญญาชน ไม่ว่าจะเป็นนายใจ อึ๊งภากรณ์ ลูกจีนเชื้อสายอังกฤษ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล และนายสมบัติ บุญงามอนงค์หรือ บก.ลายจุด และพวกลิ่วล้อที่ด่าทักษิณกันโขมงโฉงเฉงในโซเชียลมีเดีย ฯลฯ

“ใบตองแห้ง” อดีตคอลัมนิสต์ไทยโพสต์ ที่หันไปจัดรายการในทีวีช่องของลูกชายทักษิณ ถึงกับแสดงความเห็นว่า

“เมื่อกี้ตอนที่ทักกี้บอกให้ลืมอดีต มันน่าจะมีคนโห่สวน เชื่อว่ามีมวลชนคันปากเยอะอยู่เหมือนกัน แต่คงเกรงใจไม่อยากสวนต่อหน้า คอยดูพรุ่งนี้สิ ด่ากันเละ”

“โง่เปล่าก็ไม่รู้ ดันมาพูดในวันที่มวลชนเขารำลึกคนตาย ให้น้ำหนักก็ผิด คือพูดเรื่องการก้าวไปข้างหน้าน่ะพูดได้ สังคมไทยจะฆ่ากันเอาเป็นเอาตายตลอดไปไม่ได้ แต่มันต้องจบอย่างยุติธรรม”

แต่วันรุ่งขึ้นผมก็ไม่เห็น “ใบตองแห้ง” ออกมาวิจารณ์อะไรต่อคำปราศรัยของทักษิณในครั้งนี้เลย

สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ฟังสดในคืนแรกก็เงียบหายไปเลยครับ ถึงขนาดมีคนเขียนมาเตือนว่า อยากฟังความเห็นของสมศักดิ์ต่อการโฟนอินของทักษิณ

กระทั่งวันอาทิตย์ข้ามมาอีกวันสมศักดิ์จึงออกมาโพสต์ยาว มีข้อความตอนหนึ่งว่า “ผมกำลังนั่งฟังสปีชของคุณทักษิณ เป็นเที่ยวที่ 3 หรือ 4 เพื่อทบทวนว่าจะเขียนคอมเมนต์อะไร บอกตรงๆ ว่า ตอนแรกที่ฟังใหม่อีกครั้ง (เป็นครั้งที่ 2) หลังฟังสดเมื่อคืนนี้ ก็รู้สึก “อ่อนใจ” มากๆ (มากกว่าเมื่อคืนเสียอีก) จนขี้เกียจเขียนอะไร”

หลังจากนั้นก็มีคนออกมาเตือนว่าไม่ควรพูดวิจารณ์กันในที่สาธารณะ สมศักดิ์ก็เปลี่ยนเรื่องพูด หันมาแดกดันพันธมิตรฯ กับ ปชป.แก้เกี้ยวทำนองว่า สนับสนุนทักษิณดีกว่าสนับสนุนฝ่ายเจ้า เพราะสามารถวิจารณ์ได้

ผมเชื่อนะครับว่า คนเหล่านี้นั้นไม่ได้ชื่นชมและเชิดชูทักษิณเหมือนกับบรรดาแกนนำเสื้อแดง แต่หวังจะใช้ทักษิณเป็นเครื่องมือไปสู่การบรรลุเป้าหมายของตัวเอง

พูดภาษาง่ายๆ ก็คือ พวกนี้คิดว่าจะหลอกใช้ทักษิณและมวลชนของทักษิณ และหลอกตัวเองว่า ตัวเองมีมวลชนของตัวเอง สามารถควบคุมมวลชนได้ระดับหนึ่ง โดยเฉพาะ บก.ลายจุดนั้น ผมฟังและคิดว่าเขาเข้าใจประมาณนี้ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วถ้าบก.ลายจุดคิดจะแข็งข้อกับทักษิณจริงจะมีคนตามเขาไปถึง 50 คนหรือไม่ก็ยังไม่รู้ หรือต่อให้สองร้อยสามร้อยคนก็ไม่มีพลังอะไร

เอาเข้าจริงๆ มวลชนส่วนใหญ่เขาฟังทักษิณทั้งนั้น

คนเหล่านี้มักชอบเรียกฝ่ายเราว่าเป็นพวกล้าหลัง เพื่อให้เข้าใจว่า ฝ่ายพวกเขาเป็นฝ่ายก้าวหน้า แต่ความคิดของพวกเขาเหล่านี้กลับดูโน้มนำด้วยทฤษฎีฝ่ายซ้ายที่ดักดานล้าหลัง เพราะโลกแม้กระทั่งเจ้าทฤษฎีเขาเผาตำราทิ้งไปหมดแล้ว

พวกนี้พยายามอธิบายและมองว่าทักษิณนั้นเป็นทุนนิยมก้าวหน้า และเป็นนักประชาธิปไตยเพื่อให้สอดคล้องกับความเชื่อของตัวเอง แต่ตอนที่มีอำนาจและทำธุรกิจนั้น ไม่มีอะไรที่อธิบายได้เลยว่า ทักษิณเป็นนักประชาธิปไตยและทุนนิยมก้าวหน้า นอกจากเป็นทุนนิยมผูกขาดและเผด็จการ

พวกนี้หลงตัวเองเชื่อว่าตัวเองฉลาดกว่าทักษิณ จึงเอาตัวเข้าไปแลกเพื่อการันตีให้คนเข้าใจว่าทักษิณเป็นเทพเจ้าของระบอบประชาธิปไตย หวังเอาว่า ทักษิณจะมีความคิดที่ท้าทายต่อสถาบันและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงระบอบที่ตัวเองต้องการ

วันนี้คงรู้ตัวกันบ้างแล้วว่า ตัวเองนั้นโง่กว่าทักษิณและถูกเขาหลอกใช้เป็นเครื่องมือ

ผมคิดว่า หลังจากนี้ไปแดงที่เพ้อฝันเรื่องเปลี่ยนระบอบคงจะถอยห่างจากทักษิณออกมา พวกนี้ไม่กลับไปเป็นพวกประชาธิปัตย์หรอกครับ ยังคงท่องจำและฝังหัวเรื่องอำมาตยาธิปไตย เป็นพวกที่มีความคิดดักดานแบบฝ่ายซ้ายและสร้างฝันเรื่องเปลี่ยนระบอบกันต่อไป แต่ก็ไม่มีพลังอะไรพอที่จะเปลี่ยนแปลงสังคม

และได้รับบทเรียนว่า สุดท้ายพวกเขาก็เป็นได้แค่ฝุ่นใต้ตีนของทักษิณเท่านั้นเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น