หุ้นไทยร่วงต่ออีก 20 จุด โบรกฯชี้ลงแรงกว่าหลายตลาด จากแรงเทขายหุ้นพลังงานช่วยซ้ำเติม ต่างชาติขาย1.2 พันล้าน คาดปรับตัวลงต่อ ให้ติดตามผลการประชุมผู้นำยุโรป
หุ้นไทยวานนี้(23พ.ค.) ยังปรับตัวลงต่อ โดยปิดที่ระดับ 1,110.70 จุด ลดลง 20.82 จุด หรือ 1.84% มูลค่าการซื้อขาย 28,830.99 ล้านบาท ดดยเป็นการปรับตัวในทิศทางเดียวกับภูมิภาค แต่แรงกว่า เนื่องจากปัจจัยยุโรปยังกดดันอย่างหนัก นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,198.80 ล้านบาท
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า (23 พ.ค. 2555) การปรับลดลง 1.84% ของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) มาอยู่ที่ 1,110.70 จุด เป็นระดับที่ใกล้เคียงกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคที่ปรับลดลงโดยเฉลี่ย 1-2% ซึ่งยังคงเป็นผลจากความกังวลอันเนื่องมาจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะความไม่แน่นอนในการแก้ไขปัญหาหนี้ของประเทศในยุโรป ที่อาจส่งผลกระทบต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในยูโรโซน ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ติดตามความเคลื่อนไหวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในยุโรปอย่างต่อเนื่อง โดยยังมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของตลาดหุ้นไทย เห็นได้จากความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาสแรกที่ดีขึ้นต่อเนื่อง จากปีก่อนแม้จะได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤตน้ำท่วม โดย SET Index เพิ่มขึ้น 8.33% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2554 โดยยังคงเป็นหนึ่งในสามอันดับแรกของตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย
นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงแรงกว่าที่คาดไว้ จากปัจจัยยุโรปที่ยังคงกดดันตลาดหุ้นทั่วโลก และตลาดหุ้นยุโรปซึ่งเปิดทำการก็ปรับตัวลดลงกันถ้วนหน้า ประกอบกับ มีแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานที่มีน้ำหนักต่อตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมากออกมา โดยเฉพาะกลุ่มปตท. เช่น PTTEP จากความกังวลการเสนอซื้อ Cove ว่าอาจจะสร้างปัญหาถึงขั้นต้องเพิ่มทุน และราคาเสนอซื้อสูงเกินไป
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (24พ.ค.) ยังคงแกว่งตัวลงต่อ แต่ก็ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป แม้จะประเมินว่าคงไม่มีมาตรการใดๆ ออกมาเพิ่มเติม และคงต้องรอดูตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่จะประกาศออกมาทั้งจีน และยุโรปประกอบด้วย กรอบการลงทุนแนวรับที่ 1,100 จุด แนวต้านที่ 1,110 จุด
หุ้นไทยวานนี้(23พ.ค.) ยังปรับตัวลงต่อ โดยปิดที่ระดับ 1,110.70 จุด ลดลง 20.82 จุด หรือ 1.84% มูลค่าการซื้อขาย 28,830.99 ล้านบาท ดดยเป็นการปรับตัวในทิศทางเดียวกับภูมิภาค แต่แรงกว่า เนื่องจากปัจจัยยุโรปยังกดดันอย่างหนัก นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,198.80 ล้านบาท
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า (23 พ.ค. 2555) การปรับลดลง 1.84% ของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) มาอยู่ที่ 1,110.70 จุด เป็นระดับที่ใกล้เคียงกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคที่ปรับลดลงโดยเฉลี่ย 1-2% ซึ่งยังคงเป็นผลจากความกังวลอันเนื่องมาจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะความไม่แน่นอนในการแก้ไขปัญหาหนี้ของประเทศในยุโรป ที่อาจส่งผลกระทบต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในยูโรโซน ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ติดตามความเคลื่อนไหวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในยุโรปอย่างต่อเนื่อง โดยยังมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของตลาดหุ้นไทย เห็นได้จากความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาสแรกที่ดีขึ้นต่อเนื่อง จากปีก่อนแม้จะได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤตน้ำท่วม โดย SET Index เพิ่มขึ้น 8.33% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2554 โดยยังคงเป็นหนึ่งในสามอันดับแรกของตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย
นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงแรงกว่าที่คาดไว้ จากปัจจัยยุโรปที่ยังคงกดดันตลาดหุ้นทั่วโลก และตลาดหุ้นยุโรปซึ่งเปิดทำการก็ปรับตัวลดลงกันถ้วนหน้า ประกอบกับ มีแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานที่มีน้ำหนักต่อตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมากออกมา โดยเฉพาะกลุ่มปตท. เช่น PTTEP จากความกังวลการเสนอซื้อ Cove ว่าอาจจะสร้างปัญหาถึงขั้นต้องเพิ่มทุน และราคาเสนอซื้อสูงเกินไป
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (24พ.ค.) ยังคงแกว่งตัวลงต่อ แต่ก็ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป แม้จะประเมินว่าคงไม่มีมาตรการใดๆ ออกมาเพิ่มเติม และคงต้องรอดูตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่จะประกาศออกมาทั้งจีน และยุโรปประกอบด้วย กรอบการลงทุนแนวรับที่ 1,100 จุด แนวต้านที่ 1,110 จุด