xs
xsm
sm
md
lg

ลัทธิเสื้อแดง ภัยอันตรายของแผ่นดิน

เผยแพร่:   โดย: ประพันธ์ คูณมี

การเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มมวลชนคนรักทักษิณ ภายใต้กลุ่มต่างๆ หลังการรัฐประหาร 19 ก.ย. 49 เพื่อโค่นล้มอำนาจของรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ได้เติบโตขยายตัวและพัฒนามาเป็นกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)โดยเริ่มจากแกนนำที่มีนายวีระ มุสิกพงศ์, นพ.เหวง โตจิราการ, นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และรับช่วงต่อมาคือนางธิดา ถาวรเศรษฐ หรือโตจิราการ ภรรยานายแพทย์เหวง โตจิราการ เป็นตัวขับเคลื่อนกิจกรรมทางการเมืองกลุ่ม นปช. ดำเนินการเคลื่อนไหวทางการเมือง ด้วยเป้าหมายปกป้องและช่วยทักษิณในทุกรูปแบบ เพื่อไม่ให้ถูกดำเนินคดีทางอาญาและทางการเมือง เพื่อให้ได้ทรัพย์สินทั้งหลายที่ถูกยึดอันเนื่องจากการได้มาโดยมิชอบ และเพื่อให้ทักษิณสามารถช่วงชิงอำนาจทางการเมืองที่สูญเสียไปคืนมาโดยทุกวิถีทาง

การเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช. มีทักษิณ และพวกเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่สุดในทุกๆ ด้าน ไม่ว่ากำลังเงิน กำลังคน กำลังทหาร ตำรวจ สื่อมวลชน และนักวิชาการทั้งในและต่างประเทศที่ทักษิณซื้อ จ้าง ชุบเลี้ยงไว้ คอยสนับสนุน นปช. นอกจากจะมีแกนนำที่เปิดเผยเป็นตัวขับเคลื่อนทางการเมืองแล้ว ยังมีพรรคการเมือง นักการเมือง ที่เป็นสมุนบริวารทั้งหลายของทักษิณ เป็นกำลังสนับสนุนทั้งในและนอกสภาฯ ทั้งเปิดเผยและปกปิด โดยเฉพาะการช่วยกันระดมมวลชนในพื้นที่ของ ส.ส.แต่ละคนให้เคลื่อนไหวเข้าร่วม และสนับสนุนการชุมนุมต่อสู้ของ นปช.ทุกๆ ครั้งที่เรียกร้อง

กำลังสำคัญอีกส่วนหนึ่งที่เลือกเข้าเป็นแนวร่วมและสนับสนุนการต่อสู้ด้วยกำลังมวลชนของทักษิณ ภายใต้การนำของกลุ่ม นปช.ก็คือ กลุ่มอดีตนักการเมือง นักกิจกรรม ผู้นำนักศึกษาในยุค 14 ต.ค. 2516 โดยผนวกรวมเข้ากับพวกอดีตฝ่ายซ้าย และอดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ที่ยังตกค้างและหลงเหลืออยู่ กลุ่มนี้ยังมีความฝังใจในอุดมการณ์และความเชื่อในลัทธิมาร์กซ์-เลนิน-เหมา เจ๋อตุง ด้วยความต้องการแสวงหาอำนาจและเปลี่ยนสังคมไทยไปตามความเชื่อของคน แต่ไม่มีกำลัง จึงคิดเข้าร่วมขบวนการของทักษิณ ภายใต้คำขวัญว่า “ทุนนิยมสามานย์ยังดีกว่าศักดินาที่ล้าหลัง” หวังยืมมือและใช้มวลชน นปช.เป็นบันได และทางผ่าน

เช่นเดียวกับนักวิชาการ และกลุ่มขบวนการล้มเจ้าที่มีนักวิชาการและกลุ่มนิติราษฎร์เป็นหัวหอก ก็ถือโอกาสเข้าผสมโรงโดยมีเป้าหมายไม่แตกต่างจากขบวนการฝ่ายซ้าย หรือพรรคคอมมิวนิสต์ในอดีต ทักษิณและพรรคการเมืองของเขาต้องการอำนาจรัฐมาจัดการปัญหาของตน แต่ขบวนการฝ่ายซ้าย และล้มเจ้า ต้องการเปลี่ยนสังคม เปลี่ยนประเทศ ล้มระบอบการเมืองการปกครองในปัจจุบัน เพื่อการสถาปนารัฐไทยใหม่ ซึ่งขบวนการของทักษิณ ก็ไม่ขัดข้อง หรือขัดขวาง หากการเปลี่ยนแปลงนั้นทำให้เขามีอำนาจสูงสุดในแผ่นดิน และไม่กระทบกระเทือนถึงอำนาจ และผลประโยชน์ของเขา

การเมืองหรือสงครามการเมืองที่ทักษิณและขบวนการของพวกเขา ภายใต้องค์ประกอบที่กล่าวมา ระยะเวลา 5-6 ปีที่มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เขาสามารถยึดกุมอำนาจรัฐได้อีกครั้ง สามารถผลักดันน้องสาวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี อันถือได้ว่า การเมืองภายใต้การกำกับบงการของทักษิณ นอกจากทำให้เขาเป็นนายกรัฐมนตรีถึง 5 ปีแล้ว ยังสามารถสร้างหุ่นเชิดและตัวแทนของเขาเข้ามาเป็นนายกฯ ได้อีกถึง 3 คน ย่อมแสดงให้เห็นว่า นอกจากเขาได้สร้างการเมือง “ระบอบทักษิณ” ขึ้นมาแล้ว นักการเมืองตัวแทน ตัวจริงของ “กลุ่มทุนสามานย์” ผู้นี้ยังได้สร้างลัทธิการเมืองขึ้นมาอีกลัทธิหนึ่ง คือ “ลัทธิคนเสื้อแดง” ซึ่งคำว่า “ลัทธิ” (Doctrine) คือ คำสั่งสอนที่มีผู้เชื่อถือ และมีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิตมนุษย์

ลัทธิเสื้อแดงจึงเป็นลัทธิทางการเมืองที่ทักษิณและกลุ่มแกนนำได้ปลูกฝังและสั่งสอนให้คนเสื้อแดงคล้อยตาม และหลงเชื่อจนมีอิทธิพลทางความคิดต่อการดำเนินชีวิตและการปฏิบัติตนของคนพวกนั้น ซึ่งเมื่อพิจารณาถึงพฤติกรรมและหลักคิดที่คนเสื้อแดงจำนวนมากได้รับการปลูกฝัง เสี้ยมสอนแล้วจะเห็นได้ว่า ล้วนแต่เป็นความคิดและพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อประเทศชาติ และแผ่นดินไทยอย่างน่าสะพรึงกลัว หากไม่กำจัดความคิดและความเชื่ออันชั่วร้ายนี้แล้ว ประเทศไทย สังคมไทย ก็ยากที่จะหาความสงบสุขและพัฒนาให้เจริญรุดหน้า ยากที่จะมีความมั่นคง มั่งคั่ง ทัดเทียมนานาอารยประเทศทั้งหลายในโลกนี้ได้ ประเทศไทยจะมีแต่ความวุ่นวาย ไร้เสถียรภาพ สถาบันหลักของประเทศก็จะมีแต่ถูกบั่นทอน ทำลายไปในที่สุด

ความคิดความเชื่อของ “ลัทธิคนเสื้อแดง” มีความอันตรายที่สามารถจำแนกได้ดังนี้ คือ 1. ไม่เชื่อมั่นระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เขาเชื่อประชาธิปไตยที่ทักษิณต้องเป็นใหญ่ในแผ่นดิน 2. นิยมศรัทธาต่อคนชั่ว คนโกง คนเนรคุณแผ่นดิน 3. อ้างประชาธิปไตยแต่จิตใจเป็นเผด็จการ พวกเขาไม่เคยเคารพความคิดเห็นและสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ถือว่าพวกกูคือความถูกต้อง ใครเห็นต่าง ต้องเข้ากลุ้มรุมทำลาย ทำร้าย และคุกคาม 4. พวกนี้จะถูกปลูกฝังให้นิยมความรุนแรงอย่างป่าเถื่อน กล้าเผาประเทศ เผาบ้านเผาเมือง ทำลายทรัพย์สินเอกชน และของราชการอย่างหน้าตาเฉย 5. มุ่งสร้างแต่ความแตกแยก แบ่งฝ่าย ไม่เห็นหัวคนอื่น เห็นแก่ได้ เอาประโยชน์ให้พวกตนแบบหน้าด้านๆ เลือกปฏิบัติทำตัวสองมาตรฐาน แต่ปากเรียกสร้างความปรองดอง ตะโกนหายุติธรรม และมาตรฐาน

6. ยึดเอาประโยชน์ตนเหนือประโยชน์ชาติ หัวโจกโกงไม่เสียภาษี ลูกน้องสมุน บริวารเผาประเทศ และยังมาปล้นเงินภาษีประชาชนไปชดเชย 7. ไม่คำนึงถึงความถูก ผิดชอบชั่วดีใดๆ ศีลธรรม คุณธรรม ไม่มีสำหรับคนพวกนี้ หลอกคนไปตายแทนได้ แห่ศพคนตายเพื่อหวังผลทางการเมืองก็กล้าทำ 8. มีทัศนคติที่ไม่ดีและเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ สนับสนุนพวกต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มีพฤติกรรมที่ไม่จงรักภักดี 9. ไม่เคารพกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม ไม่ปฏิบัติตนให้เป็นพลเมืองที่ดี 10. เป็นพวกเหิมเกริม ก้าวร้าว หลงอำนาจ ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย อ้างอำนาจและอภิสิทธิ์เหนือผู้อื่น ถือดีว่ามีรัฐบาลเป็นพวกตัวเอง

ความคิดและพฤติกรรมทั้งหมดของคนเสื้อแดงได้สะท้อนให้เห็นถึงลัทธิความเชื่อผิดๆ และความคิดที่เป็นอันตรายอย่างยิ่ง ลักษณะดังกล่าวได้กลายเป็น “ลัทธิเสื้อแดง” ที่กำลังคุกคามและปกคลุมอยู่ในสังคมไทยซึ่งนับวันมีแต่จะเหิมเกริม เติบใหญ่ และขยายตัวไปเรื่อยๆ หากตราบใดที่พวกเขายังมีอำนาจรัฐแดงปกป้องคุ้มครองพวกเขา ประชาชนไทยทั้งหลายที่มิได้เป็นสาวกของพวกทักษิณและลัทธิเสื้อแดงกำลังถูกทำให้กลายเป็นประชาชนชั้นสอง ใครอยากได้ดีมีอำนาจ ต้องยอมตนและเปลี่ยนสี แปรธาตุ ไปเป็นพวกเขาเท่านั้นจึงจะอยู่ได้

“ระบอบทักษิณ” และ “ลัทธิเสื้อแดง” จึงเป็นอันตรายที่สุดของแผ่นดิน จะกำจัดภยันตรายนี้ได้ ต้องกำจัด “อำนาจรัฐแดง” ให้สิ้นไปเท่านั้น ไทยทั้งแผ่นดินจึงจะเดินเชิดหน้าอย่างมีเกียรติได้ในแผ่นดิน
กำลังโหลดความคิดเห็น