ASTVผู้จัดการรายวัน- "ศิริโชค" แฉ พท.ผนึกเสื้อแดง-ขรก.จัดกิจกรรม "แดงทั้งแผ่นดิน" อัด "ทวี" อ้างให้ความรู้เรื่องยาเสพติดบังหน้า เตือนรบ.เอาหน่วยงานความมั่นคงมาเคลื่อนไหวร่วมกับเสื้อแดง เนื้อเดียวกับแดง ระวังสถานการณ์บานปลาย ด้านกลุ่ม"แดงล้มเจ้า"เหิมหนัก! ยื่นหนังสือถึง"ปู"จี้แก้ม.112 "สุรชัย แซ่ด่าน" เขียนพินัยกรรม ถ้าตายห้ามเผา จนกว่าจะยกเลิก ม.112 "เทือก"อนาถใจที่ขรก.เอาใจฝ่ายการเมืองจนยอมร่วมทำผิด ลั่นฟ้องดีเอสไอ ที่ไม่ฟ้อง"ตู่"
นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวแสดงความเป็นห่วงต่อการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทย(พท.) ในการจัดตั้งหมู่บ้านแดงในพื้นที่ภาคใต้ ว่า เป็นการคำนึงถึงแต่ประโยชน์ในทางการเมืองของรัฐบาล ที่สวนทางกับนโยบายที่ประกาศว่า จะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น แต่กลับนำธงแดงไปแบ่งแยกความเป็นชาติ จนประชาชนเกิดความแตกแยก เช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการต่อต้านการเปิดหมู่บ้านเสื้อแดง ของชาวภูเก็ต และล่าสุดที่ อ.จะนะ จ.สงขลา
ดังนั้น รัฐบาลต้องทบทวนเรื่องนี้ ไม่ใช่ให้ท้ายคนเสื้อแดงเพื่อประโยชน์ทางการเมืองในการครอบงำประเทศของตัวเอง เพราะในขณะนี้มีการใช้งบประมาณแผ่นดิน กลไกรัฐ ไปรับใช้พรรคการเมือง ด้วยการนำเรื่องของประชาธิปไตย และยาเสพติด มาบังหน้า ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง และไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้จะเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะเอาระบบราชการไปใช้ประโยชน์ในทางการเมือง
นายศิริโชค ยกตัวอย่างกิจกรรมการเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงที่ อ. จะนะ จ.สงขลา วันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา และจะมีการจัดกิจกรรมฝึกอบรมในวันที่ 2-3 มิ.ย.นี้ โดยกลุ่มผู้จัดงานคือ อดีตผู้สมัครส.ส.ของพรรคเพื่อไทย มีแกนนำเสื้อแดงไปเป็นวิทยากร ที่สำคัญคือ มีเจ้าหน้าที่รัฐด้านความมั่นคงเข้าไปร่วมกับโครงการ “แดงทั้งแผ่นดิน” ด้วย ซึ่งปรากฏชัดในหัวข้อบรรยาย เช่น วันที่ 2 มิ.ย. มีการบรรยายของ นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานนปช. นพ.เหวง โตจิราการ นายจตุพร พรหมพันธุ์ โดยในวันที่ 3 มิ.ย. ยิ่งชัดเจนว่า กิจกรรมครั้งนี้คือ "โรงเรียนนปช.แปลงร่าง" เพราะผู้บรรยายคือ นายนิสิต สินธุไพร ผอ.โรงเรียนนปช. บรรยายหัวข้อ “สถานภาพแดงทั้งแผ่นดิน” และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. ไปร่วมบรรยายกับเขาด้วย จากนั้นมีการแจกประกาศนียบัตร นปช.แดงทั้งแผ่นดิน และกล่าวปิดงานโดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯ
" ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่น่ากังวลมาก ในอดีตเราต่อสู้กับลัทธิคอมมิวนิสต์ จนได้รับชัยชนะ เพราะรัฐบาลไม่ได้รู้เห็นเป็นใจกับการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง แต่ตอนนี้มีข้าราชการเข้าไปร่วมด้วย เช่น พ.ต.อ.ทวี นายณรงค์พร ณ พัทลุง นายอำเภอจะนะ และพ.ต.อ.อดิเรก บือราเฮง ผกก.สภอ.จะนะ เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย"
**อ้างนโยบายปราบยาเสพติดบังหน้า
นายศิริโชค กล่าวว่า แม้ว่าในกิจกรรมนี้ จะระบุหัวข้อการบรรยายของพ.ต.อ.ทวี ไว้ว่าเป็นการไปให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องยาเสพติด แต่ตลอดทั้งงาน มันชัดว่าเป็นงาน “แดงทั้งแผ่นดิน” และที่น่าตกใจคือ มีการระบุชัดเจนถึงผลที่คาดว่าจะได้รับจากการเข้าค่ายอบรมไว้ว่า “จะได้เยาวชนที่เข้าใจนโยบายรัฐบาล และนำไปปฏิบัติเป็นแบบอย่างของเยาวชนอื่นใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้” หมายความว่า รัฐบาล หน่วยงานด้านความมั่นคง เป็นเนื้อเดียวกับคนเสื้อแดง สนับสนุนวิธีคิดเกี่ยวกับการปกครอง ที่คนเสื้อแดงกำลังเคลื่อนไหวอย่างนั้นหรือ
นายศิริโชค กล่าวด้วยว่าตนจะไม่ตำหนิ พ.ต.อ.ทวี เลยหากดำเนินการเรื่องนี้ในนามของภาครัฐร่วมกับประชาชนอย่างแท้จริง โดยไม่มีเป้าหมายทางการเมืองเข้ามาแอบแฝง พ.ต.อ.ทวี ทำงานด้านความมั่นคง ย่อมต้องรู้ถึงความละเอียดอ่อนในเรื่องสัญลักษณ์ของสี ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย การไปร่วมงานที่อ้างว่า เป็นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล แต่วิทยากรคนอื่นๆ ที่ไปอบรม แดงเถือกทั้งงาน หมายความว่า นโยบายด้านความมั่นคงของรัฐบาลชุดนี้คือทิศทางเดียวกับการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง ใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี ไม่ทราบว่า แนวคิดของกลุ่มคนเสื้อแดงมีการประกาศชัดเจนตั้งแต่การชุมนุมที่ผ่านมาว่า มีเป้าหมายนำไปสู่การ “จัดตั้งรัฐไทยใหม่” มีการก่อตั้งโรงเรียนนปช. ซึ่งถ้าหากทำงานสอดประสานกับสมช.และ กอ.รมน. ก็จะทราบดีว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงมีความกังวลต่อการเผยแพร่แนวคิดผ่านโรงเรียน นปช. อย่างไร เพราะหน้าที่ของ เลขาศอ.บต. คือการคืนความสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่สิ่งที่พ.ต.อ.ทวี กำลังจะทำในวันนี้คือ ร่วมมือกับรัฐบาลที่ไร้ความรับผิดชอบ แบ่งแยกประชาชน คนไทยจะมีความหวังได้อย่างไรว่า ความเป็นรัฐไทยจะไม่ถูกแบ่งแยก เมื่อรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐกลายเป็นเจ้าภาพ ในการสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน
" ที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือการใช้งบประมาณแผ่นดินซึ่งเป็นภาษีประชาชน ไปใช้จ่ายในการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทย สิ่งนี้ผมคิดว่าไม่เป็นธรรมกับคนไทย เพราะประชาชนเขาจ่ายภาษีให้รัฐ เพื่อพัฒนาประเทศ ไม่ใช่แบ่งแยกแผ่นดิน ถ้ารัฐบาลใช้อำนาจรัฐเพื่อประโยชน์ทางการเมืองที่อาจก่อให้เกิดอันตราย หรือภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ เชื่อว่าประชาชนคงไม่ยอมให้ทำแบบนี้ และอย่ามากล่าวหาว่า พรรคประชาธิปัตย์อยู่เบื้องหลัง เพราะประชาชนทุกคนเขารักแผ่นดินเกิดของตัวเอง ลุกขึ้นมาปกป้องไม่ให้ใครมาแบ่งแยก หากรัฐมีเจตนาดีจริง ต้องยุติการปักธงแดง บูชา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เปลี่ยนมาเป็นการปักธงชาติ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมเชื่อว่าจะไม่มีใครคัดค้าน"
** เรียกร้องรัฐบาลดำเนินการ 7 ข้อ
นายศิริโชค ยังเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้ดำเนินการก่อนที่สถานการณ์จะลุกลามบานปลายมากไปกว่านี้ คือ
1. ให้รัฐบาลชี้แจงให้ชัดเจนถึงงบประมาณที่ใช้ในการเปิดหมู่บ้านเสื้อแดง ว่าใช้งบจากส่วนไหน และนำหลักฐานมาชี้แจงต่อสาธารณะด้วย อย่าเพียงแค่กล่าวอ้างลอย ๆ
2. ขอให้รัฐบาลประกาศให้ชัดเจนว่า มีอุดมการณ์ความคิดในทางการเมืองการปกครอง เหมือนกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่เคลื่อนไหวอยู่หรือไม่ และกำลังใช้เสื้อแดงเปิดเกมรุกเปลี่ยนโครงสร้างประเทศใช่หรือไม่
3. ถ้ารัฐบาลไม่คิดแบ่งแยกประชาชน ต้องเลิกสนับสนุนการเปิดหมู่บ้านแดง เพราะทุกหมู่บ้านในประเทศนี้ มีสิทธิที่จะแสดงออกถึงการสนับสนุนแนวทางตามระบอบประชาธิปไตย มีส่วนร่วมกับการแก้ปัญหายาเสพติดได้โดยไม่ต้องใช้สีแดงเป็นสัญลักษณ์ จึงจะเกิดความเสมอภาคเท่าเทียม ไม่ใช่ต้องเป็นมวลชนจัดตั้งของรัฐ จึงจะได้รับการดูแลในสนับสนุนด้านงบประมาณในการจัดทำกิจกรรม
4. ขอให้รัฐบาลเลิกใช้กลไกรัฐ ข้าราชการ เป็นเครื่องมือทางการเมืองให้กับพรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดง
5. ขอให้รัฐบาลเคารพสิทธิ เสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน หยุดกล่าวหาหรือใช้ถ้อยคำยั่วยุ ที่กระทบต่อความรู้สึกของประชาชน เช่น กรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯ ให้ร้ายการเคลื่อนไหวของชาวบ้านที่ภูเก็ตว่า พรรคประชาธิปัตย์อยู่เบื้องหลัง และกล่าวหาว่า ประชาชนไม่มีอุดมการณ์
6 . ขอให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. กลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง หยุดรับใช้นักการเมือง เพื่อตำแหน่งหน้าที่ ถ้าไม่ทบทวนบทบาทของตัวเอง วางกรอบการทำหน้าที่ให้เหมาะสม ก็ทำให้ตนอดคิดถึงข่าวหนาหูที่ว่า ทำทุกอย่างทั้งการไปเจรจาลับกับกลุ่มก่อความไม่สงบตามนโยบายของ พ.ต.ท.ทักษิณ จนกระทั่งมาเป็นแนวร่วมคนเสื้อแดง เป็นเพราะแต่งตัว รอนั่งตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรมในปีหน้า มีน้ำหนักมากขึ้น
7. ขอเรียกร้องไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ?ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ประกาศจะสร้างความปรองดอง ให้แสดงภาวะผู้นำ หยุดปัญหาเหล่านี้ ประเทศชาติบอบช้ำมามากแล้ว เลิกสุมฟืนเข้ากองไฟ แล้วช่วยกันสาดน้ำดับไฟดีกว่า ด้วยวิธีการง่าย ๆ เลิกแบ่งแยกประชาชน ด้วยการเปิดหมู่บ้านเสื้อแดง แต่ถ้าไม่ทำก็เท่ากับเห็นด้วยกับการสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในแผ่นดินนี้ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล “หยุดหมู่บ้านเสื้อแดง หยุดแบ่งแยกประชาชน” ทันที
** จี้รัฐบาลแก้ไขมาตรา 112
ขณะที่เมื่อเวลา 10.00 น.วานนี้ (15 พ.ค.) กลุ่มเสื้อแดงเครือข่ายนักกิจกรรมทางสังคมประชาธิปไตย และญาตินักโทษการเมืองประมาณ 50 คน นำโดยน.ส.จิตรา คชเดช ผู้ประสานงานเครือข่าย นางปราณี ด่านวัฒนานุสรณ์ ภรรยา นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ (แซ่ด่าน) และนายปณิธาน พฤกษาเกษมสุข ลูกชาย นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ได้เดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักโทษการเมือง แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 และดูแลความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังในเรือนจำ โดยเห็นปัญหาจากกรณีของนายอำพล ตั้งนพคุณ หรือ อากง นักโทษการเมืองที่ถูกจำคุกด้วยคดีอาญา มาตรา 112 และเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง ทั้งที่มีความพยายามขอประกันตัวหลายครั้ง
** "สุรชัย"เขียนพินัยกรรมสั่งห้ามเผา
กลุ่มที่มาดังกล่าวยังได้แจกเอกสารที่ระบุว่า เป็นพินัยกรรมของนายสุรชัย แซ่ด่าน มีข้อความว่า หมอนัดผ่าตัดต่อมลูกหมาก เร็วๆนี้ และอาการไขมันอุดตันในเส้นเลือด เริ่มมีอาการ จึงอาจตายในคุก ต่อจากอากง เพราะอายุ 70 ปีแล้ว ก็ขอทำพินัยกรรมไว้ว่า
" ถ้าตายไปใครอย่าเผา ใครเผาขอสาปแช่ง ให้แห่ศพไปสวดทุกๆที่ ที่มีคนเป็นเจ้าภาพ เพื่อรณรงค์ให้แก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 สำเร็จเมื่อไหร่ ค่อยเผาศพ " ลงชื่อ สุรชัย แซ่ด่าน 14 พ.ค. 2555
นอกจากนี้ กลุ่มที่มาเรียกร้องได้ชูป้ายกระดาษ ขนาด เอ 4 ที่มีข้อความว่า " อากงตายแล้ว ใครฆ่าอากง" "ยกเลิก ม.112 คืนเสรีภาพให้เพื่อนเรา" และยังตะโกนว่า " ละเมิดสิทธิคือ ม.112 ประเทศประชาธิปไตย ต้องแก้ไขม. 112" และ" ต้องปล่อยตัวโทษการเมือง"
ทั้งนี้ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ได้ออกมารับหนังสือด้วยตัวเอง
น.ส.จิตรา กล่าวว่า อยากส่งข้อเรียกร้องไปยังนายกฯ 3 ข้อ ดังนี้
1.ขอให้ปล่อยตัวนักโทษทางการเมืองและปล่อยตัวนักโทษ ม.112 และให้รวมนักโทษ ม. 112 เป็นนักโทษการเมืองด้วย เพราะผลจากที่อากงเสียชีวิต สะท้อนให้เห็นว่า ม.112 มีผลกระทบสิทธิ เสรีภาพ ของประชาชนอยากแท้จริง
2. อยากให้รัฐบาลทบทวนแก้ไข เพราะเห็นว่ามาตรานี้มีผลทำให้คนตายในคุก
3. อยากให้ดูแลความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังในคุก เช่น การรักษาพยาบาลที่มีประสิทธิภาพอย่างเท่าเทียมกับการรักษาในโรงพยาบาลทั่วไป เพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วย มีอาหารที่สะอาด และที่พักไม่แออัด ให้กับนักโทษในเรือนจำทั่วประเทศ
ภายหลังรับหนังสือร้องเรียน นายยงยุทธ ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเรียกร้องที่ให้ทบทวนการแก้ไข ม.112 ว่า เขาเสนอมาเราก็พิจารณา ทำได้ ไม่ได้ อย่างไรค่อยว่ากันอีกที ตนได้ชี้แจงเรื่อง ม.112 ไปแล้ว
เมื่อถามว่ารัฐบาลไม่อยากแก้ไขเรื่องนี้อยู่แล้ว ใช่หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า"รัฐบาลไม่ทำอยู่แล้ว พอพูดแล้วมันก็สร้างปัญหาให้คนพูด ผมจะไม่ตอบ แต่จะแถลงการณ์เป็นเรื่องเป็นราว ตอบอย่างนี้แล้วไปเขียน มันก็เป็นคนละเรื่อง" นายยงยุทธ กล่าว
** "เทือก" ลั่นต้องฟ้อง ดีเอสไอ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฏร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ กรมสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ ( ดีเอสไอ ) สั่งไม่ฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ว่า ตนมีความคลางแคลงใจในพฤติกรรมของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี ดีเอสไอ เพราะพฤติกรรมที่นายจตุพร และพรรคพวกได้แสดงออก เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 54 ที่กล่าวปราศัยบทเวที มีพฤติกรรมที่ชัดเจนว่า เข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายอาญา
" ที่ผมพูดอย่างนี้ จะบอกว่าผมกล่าวหาดีเอสไอ ก็ได้ และถ้าจะดำเนินคดีกับผม ก็ยินดี เพื่อจะได้ต่อสู้คดีในชั้นศาล และเปิดเผยข้อเท็จจริง และรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่น่าสังเวช ที่หน่วยราชการแสดงอาการเอาอกเอาใจ ยอมทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ขัดกับความถูกต้อง และความรู้สึกของประชาชน และเชื่อว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องที่ทำการไม่ดีเช่นนี้ ต้องได้รับผลกรรมกับการกระทำ" นายสุเทพ กล่าว
** หมู่บ้านแดงเป็นภัยความมั่นคง
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงกรณี ที่คนภูเก็ต และสงขลา ออกมาต่อต้าน ไม่ให้เปิดหมู่บ้านเสื้อแดง ว่า คนในพื้นที่เขาไม่อยากให้มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ว่าเป็นพวกสีเสื้อต่างๆ เพราะเขาอยู่กันสงบดีแล้ว การที่รัฐไปรองรับการกระทำของกลุ่มคนเสื้อแดง ตนเห็นว่าเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงของประเทศ ซึ่งก็อยู่ที่ประชาชน จะนั่งรอให้ประเทศเหมือนกัมพูชา ที่เขมรแดงครองเมืองหรือไม่ แต่ถ้าคนไทยทั้งประเทศลุกขึ้นพร้อมๆ กัน คนเหล่านี้ก็จะตระหนักว่าไม่ได้มีเฉพาะพวกเขา แต่ยังมีเจ้าของประเทศอีกกว่า 60 ล้านคน
**ค้านนปช.จัดรำลึกการชุมนุม 19 พ.ค.
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะมีการจัดกิจกรรม เพื่อรำลึกเหตุการณ์การ การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ในวันที่ 19 พ.ค.นี้ ที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ว่า ตนเชื่อว่าการจัดกิจกรรมดังกล่าว เป็นการหวังผลทางการเมืองของกลุ่มนปช. เพื่อรักษากระแสมวลชน เพราะถ้าไม่มีกิจกรรมเช่นนี้ในการเคลื่อนไหวก็จะทำให้มวลชนคนเสื้อแดงสลายตัวไป จึงพยายามที่จะกิจกรรมในรูปแบบเช่นนี้อยู่เสมอ
" การทำกิจกรรมของกลุ่มนปช. สวนทางกับแนวความคิดการปรองดองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาพูดที่ประเทศลาว และประเทศกัมพูชาในช่วงวันสงกรานต์ว่า ให้ทุกฝ่ายเสียสละ และให้ลืมอดีต แต่อีกด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ กลับวีดีโอลิงก์ มาปลุกระดมในการชุมนุมคนเสื้อแดง ผมไม่ทราบว่า สิ่งเหล่านี้หมายความว่าอย่างไร เพราะถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการให้มีความปรองดองจริง ก็ควรสั่งให้หยุดกิจกรรมดังกล่าวของคนเสื้อแดง และถ้าอยากจะให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการ ต้องให้แกนนำนปช. ลืมที่จะมาสร้างเหตุการณ์ขึ้นมาอีก เพราะถ้ายังมีการชุมนุมลักษณะเช่นนี้ โดยอ้างว่าเป็นการรำลึกเหตุการณ์ 19 พ.ค.53 ก็ต้องถามกลับเช่นเดียวกัน แล้วเมื่อกลุ่มเสื้อหลากสีจะจัดงาน 2 ปี รำลึกเหตุการณ์บุก รพ.จุฬาฯ สังคมจะว่าอย่างไร รวมถึงผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการชุมนุมของคนเสื้อแดง จะจัดงานรำลึกบ้าง จะว่าอย่างไร ผมอยากถามว่า ความปรองดองจะเกิดได้อย่างไร เพราะความวุ่นวายก็จะเกิดขึ้นไม่มีที่จบสิ้น" นายเทพไท กล่าว และว่า อยากเรียกร้องไปยังใครก็ตาม ที่มีอิทธิพล และมีบารมีเหนือแกนนำนปช. ต้องส่งสัญญาณว่า ต้องการให้ประเทศเข้าสู่การปรองดองจริง ก็ควรปฏิบัติให้ไปทางเดียวกัน ไม่ใช่ปากว่าอย่างหนึ่ง แต่ปฏิบัติไปอีกอย่างหนึ่ง
นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวแสดงความเป็นห่วงต่อการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทย(พท.) ในการจัดตั้งหมู่บ้านแดงในพื้นที่ภาคใต้ ว่า เป็นการคำนึงถึงแต่ประโยชน์ในทางการเมืองของรัฐบาล ที่สวนทางกับนโยบายที่ประกาศว่า จะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น แต่กลับนำธงแดงไปแบ่งแยกความเป็นชาติ จนประชาชนเกิดความแตกแยก เช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการต่อต้านการเปิดหมู่บ้านเสื้อแดง ของชาวภูเก็ต และล่าสุดที่ อ.จะนะ จ.สงขลา
ดังนั้น รัฐบาลต้องทบทวนเรื่องนี้ ไม่ใช่ให้ท้ายคนเสื้อแดงเพื่อประโยชน์ทางการเมืองในการครอบงำประเทศของตัวเอง เพราะในขณะนี้มีการใช้งบประมาณแผ่นดิน กลไกรัฐ ไปรับใช้พรรคการเมือง ด้วยการนำเรื่องของประชาธิปไตย และยาเสพติด มาบังหน้า ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง และไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้จะเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะเอาระบบราชการไปใช้ประโยชน์ในทางการเมือง
นายศิริโชค ยกตัวอย่างกิจกรรมการเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงที่ อ. จะนะ จ.สงขลา วันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา และจะมีการจัดกิจกรรมฝึกอบรมในวันที่ 2-3 มิ.ย.นี้ โดยกลุ่มผู้จัดงานคือ อดีตผู้สมัครส.ส.ของพรรคเพื่อไทย มีแกนนำเสื้อแดงไปเป็นวิทยากร ที่สำคัญคือ มีเจ้าหน้าที่รัฐด้านความมั่นคงเข้าไปร่วมกับโครงการ “แดงทั้งแผ่นดิน” ด้วย ซึ่งปรากฏชัดในหัวข้อบรรยาย เช่น วันที่ 2 มิ.ย. มีการบรรยายของ นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานนปช. นพ.เหวง โตจิราการ นายจตุพร พรหมพันธุ์ โดยในวันที่ 3 มิ.ย. ยิ่งชัดเจนว่า กิจกรรมครั้งนี้คือ "โรงเรียนนปช.แปลงร่าง" เพราะผู้บรรยายคือ นายนิสิต สินธุไพร ผอ.โรงเรียนนปช. บรรยายหัวข้อ “สถานภาพแดงทั้งแผ่นดิน” และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. ไปร่วมบรรยายกับเขาด้วย จากนั้นมีการแจกประกาศนียบัตร นปช.แดงทั้งแผ่นดิน และกล่าวปิดงานโดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯ
" ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่น่ากังวลมาก ในอดีตเราต่อสู้กับลัทธิคอมมิวนิสต์ จนได้รับชัยชนะ เพราะรัฐบาลไม่ได้รู้เห็นเป็นใจกับการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง แต่ตอนนี้มีข้าราชการเข้าไปร่วมด้วย เช่น พ.ต.อ.ทวี นายณรงค์พร ณ พัทลุง นายอำเภอจะนะ และพ.ต.อ.อดิเรก บือราเฮง ผกก.สภอ.จะนะ เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย"
**อ้างนโยบายปราบยาเสพติดบังหน้า
นายศิริโชค กล่าวว่า แม้ว่าในกิจกรรมนี้ จะระบุหัวข้อการบรรยายของพ.ต.อ.ทวี ไว้ว่าเป็นการไปให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องยาเสพติด แต่ตลอดทั้งงาน มันชัดว่าเป็นงาน “แดงทั้งแผ่นดิน” และที่น่าตกใจคือ มีการระบุชัดเจนถึงผลที่คาดว่าจะได้รับจากการเข้าค่ายอบรมไว้ว่า “จะได้เยาวชนที่เข้าใจนโยบายรัฐบาล และนำไปปฏิบัติเป็นแบบอย่างของเยาวชนอื่นใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้” หมายความว่า รัฐบาล หน่วยงานด้านความมั่นคง เป็นเนื้อเดียวกับคนเสื้อแดง สนับสนุนวิธีคิดเกี่ยวกับการปกครอง ที่คนเสื้อแดงกำลังเคลื่อนไหวอย่างนั้นหรือ
นายศิริโชค กล่าวด้วยว่าตนจะไม่ตำหนิ พ.ต.อ.ทวี เลยหากดำเนินการเรื่องนี้ในนามของภาครัฐร่วมกับประชาชนอย่างแท้จริง โดยไม่มีเป้าหมายทางการเมืองเข้ามาแอบแฝง พ.ต.อ.ทวี ทำงานด้านความมั่นคง ย่อมต้องรู้ถึงความละเอียดอ่อนในเรื่องสัญลักษณ์ของสี ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย การไปร่วมงานที่อ้างว่า เป็นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล แต่วิทยากรคนอื่นๆ ที่ไปอบรม แดงเถือกทั้งงาน หมายความว่า นโยบายด้านความมั่นคงของรัฐบาลชุดนี้คือทิศทางเดียวกับการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง ใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี ไม่ทราบว่า แนวคิดของกลุ่มคนเสื้อแดงมีการประกาศชัดเจนตั้งแต่การชุมนุมที่ผ่านมาว่า มีเป้าหมายนำไปสู่การ “จัดตั้งรัฐไทยใหม่” มีการก่อตั้งโรงเรียนนปช. ซึ่งถ้าหากทำงานสอดประสานกับสมช.และ กอ.รมน. ก็จะทราบดีว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงมีความกังวลต่อการเผยแพร่แนวคิดผ่านโรงเรียน นปช. อย่างไร เพราะหน้าที่ของ เลขาศอ.บต. คือการคืนความสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่สิ่งที่พ.ต.อ.ทวี กำลังจะทำในวันนี้คือ ร่วมมือกับรัฐบาลที่ไร้ความรับผิดชอบ แบ่งแยกประชาชน คนไทยจะมีความหวังได้อย่างไรว่า ความเป็นรัฐไทยจะไม่ถูกแบ่งแยก เมื่อรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐกลายเป็นเจ้าภาพ ในการสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน
" ที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือการใช้งบประมาณแผ่นดินซึ่งเป็นภาษีประชาชน ไปใช้จ่ายในการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทย สิ่งนี้ผมคิดว่าไม่เป็นธรรมกับคนไทย เพราะประชาชนเขาจ่ายภาษีให้รัฐ เพื่อพัฒนาประเทศ ไม่ใช่แบ่งแยกแผ่นดิน ถ้ารัฐบาลใช้อำนาจรัฐเพื่อประโยชน์ทางการเมืองที่อาจก่อให้เกิดอันตราย หรือภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ เชื่อว่าประชาชนคงไม่ยอมให้ทำแบบนี้ และอย่ามากล่าวหาว่า พรรคประชาธิปัตย์อยู่เบื้องหลัง เพราะประชาชนทุกคนเขารักแผ่นดินเกิดของตัวเอง ลุกขึ้นมาปกป้องไม่ให้ใครมาแบ่งแยก หากรัฐมีเจตนาดีจริง ต้องยุติการปักธงแดง บูชา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เปลี่ยนมาเป็นการปักธงชาติ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมเชื่อว่าจะไม่มีใครคัดค้าน"
** เรียกร้องรัฐบาลดำเนินการ 7 ข้อ
นายศิริโชค ยังเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้ดำเนินการก่อนที่สถานการณ์จะลุกลามบานปลายมากไปกว่านี้ คือ
1. ให้รัฐบาลชี้แจงให้ชัดเจนถึงงบประมาณที่ใช้ในการเปิดหมู่บ้านเสื้อแดง ว่าใช้งบจากส่วนไหน และนำหลักฐานมาชี้แจงต่อสาธารณะด้วย อย่าเพียงแค่กล่าวอ้างลอย ๆ
2. ขอให้รัฐบาลประกาศให้ชัดเจนว่า มีอุดมการณ์ความคิดในทางการเมืองการปกครอง เหมือนกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่เคลื่อนไหวอยู่หรือไม่ และกำลังใช้เสื้อแดงเปิดเกมรุกเปลี่ยนโครงสร้างประเทศใช่หรือไม่
3. ถ้ารัฐบาลไม่คิดแบ่งแยกประชาชน ต้องเลิกสนับสนุนการเปิดหมู่บ้านแดง เพราะทุกหมู่บ้านในประเทศนี้ มีสิทธิที่จะแสดงออกถึงการสนับสนุนแนวทางตามระบอบประชาธิปไตย มีส่วนร่วมกับการแก้ปัญหายาเสพติดได้โดยไม่ต้องใช้สีแดงเป็นสัญลักษณ์ จึงจะเกิดความเสมอภาคเท่าเทียม ไม่ใช่ต้องเป็นมวลชนจัดตั้งของรัฐ จึงจะได้รับการดูแลในสนับสนุนด้านงบประมาณในการจัดทำกิจกรรม
4. ขอให้รัฐบาลเลิกใช้กลไกรัฐ ข้าราชการ เป็นเครื่องมือทางการเมืองให้กับพรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดง
5. ขอให้รัฐบาลเคารพสิทธิ เสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน หยุดกล่าวหาหรือใช้ถ้อยคำยั่วยุ ที่กระทบต่อความรู้สึกของประชาชน เช่น กรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯ ให้ร้ายการเคลื่อนไหวของชาวบ้านที่ภูเก็ตว่า พรรคประชาธิปัตย์อยู่เบื้องหลัง และกล่าวหาว่า ประชาชนไม่มีอุดมการณ์
6 . ขอให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. กลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง หยุดรับใช้นักการเมือง เพื่อตำแหน่งหน้าที่ ถ้าไม่ทบทวนบทบาทของตัวเอง วางกรอบการทำหน้าที่ให้เหมาะสม ก็ทำให้ตนอดคิดถึงข่าวหนาหูที่ว่า ทำทุกอย่างทั้งการไปเจรจาลับกับกลุ่มก่อความไม่สงบตามนโยบายของ พ.ต.ท.ทักษิณ จนกระทั่งมาเป็นแนวร่วมคนเสื้อแดง เป็นเพราะแต่งตัว รอนั่งตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรมในปีหน้า มีน้ำหนักมากขึ้น
7. ขอเรียกร้องไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ?ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ประกาศจะสร้างความปรองดอง ให้แสดงภาวะผู้นำ หยุดปัญหาเหล่านี้ ประเทศชาติบอบช้ำมามากแล้ว เลิกสุมฟืนเข้ากองไฟ แล้วช่วยกันสาดน้ำดับไฟดีกว่า ด้วยวิธีการง่าย ๆ เลิกแบ่งแยกประชาชน ด้วยการเปิดหมู่บ้านเสื้อแดง แต่ถ้าไม่ทำก็เท่ากับเห็นด้วยกับการสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในแผ่นดินนี้ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล “หยุดหมู่บ้านเสื้อแดง หยุดแบ่งแยกประชาชน” ทันที
** จี้รัฐบาลแก้ไขมาตรา 112
ขณะที่เมื่อเวลา 10.00 น.วานนี้ (15 พ.ค.) กลุ่มเสื้อแดงเครือข่ายนักกิจกรรมทางสังคมประชาธิปไตย และญาตินักโทษการเมืองประมาณ 50 คน นำโดยน.ส.จิตรา คชเดช ผู้ประสานงานเครือข่าย นางปราณี ด่านวัฒนานุสรณ์ ภรรยา นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ (แซ่ด่าน) และนายปณิธาน พฤกษาเกษมสุข ลูกชาย นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ได้เดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักโทษการเมือง แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 และดูแลความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังในเรือนจำ โดยเห็นปัญหาจากกรณีของนายอำพล ตั้งนพคุณ หรือ อากง นักโทษการเมืองที่ถูกจำคุกด้วยคดีอาญา มาตรา 112 และเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง ทั้งที่มีความพยายามขอประกันตัวหลายครั้ง
** "สุรชัย"เขียนพินัยกรรมสั่งห้ามเผา
กลุ่มที่มาดังกล่าวยังได้แจกเอกสารที่ระบุว่า เป็นพินัยกรรมของนายสุรชัย แซ่ด่าน มีข้อความว่า หมอนัดผ่าตัดต่อมลูกหมาก เร็วๆนี้ และอาการไขมันอุดตันในเส้นเลือด เริ่มมีอาการ จึงอาจตายในคุก ต่อจากอากง เพราะอายุ 70 ปีแล้ว ก็ขอทำพินัยกรรมไว้ว่า
" ถ้าตายไปใครอย่าเผา ใครเผาขอสาปแช่ง ให้แห่ศพไปสวดทุกๆที่ ที่มีคนเป็นเจ้าภาพ เพื่อรณรงค์ให้แก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 สำเร็จเมื่อไหร่ ค่อยเผาศพ " ลงชื่อ สุรชัย แซ่ด่าน 14 พ.ค. 2555
นอกจากนี้ กลุ่มที่มาเรียกร้องได้ชูป้ายกระดาษ ขนาด เอ 4 ที่มีข้อความว่า " อากงตายแล้ว ใครฆ่าอากง" "ยกเลิก ม.112 คืนเสรีภาพให้เพื่อนเรา" และยังตะโกนว่า " ละเมิดสิทธิคือ ม.112 ประเทศประชาธิปไตย ต้องแก้ไขม. 112" และ" ต้องปล่อยตัวโทษการเมือง"
ทั้งนี้ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ได้ออกมารับหนังสือด้วยตัวเอง
น.ส.จิตรา กล่าวว่า อยากส่งข้อเรียกร้องไปยังนายกฯ 3 ข้อ ดังนี้
1.ขอให้ปล่อยตัวนักโทษทางการเมืองและปล่อยตัวนักโทษ ม.112 และให้รวมนักโทษ ม. 112 เป็นนักโทษการเมืองด้วย เพราะผลจากที่อากงเสียชีวิต สะท้อนให้เห็นว่า ม.112 มีผลกระทบสิทธิ เสรีภาพ ของประชาชนอยากแท้จริง
2. อยากให้รัฐบาลทบทวนแก้ไข เพราะเห็นว่ามาตรานี้มีผลทำให้คนตายในคุก
3. อยากให้ดูแลความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังในคุก เช่น การรักษาพยาบาลที่มีประสิทธิภาพอย่างเท่าเทียมกับการรักษาในโรงพยาบาลทั่วไป เพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วย มีอาหารที่สะอาด และที่พักไม่แออัด ให้กับนักโทษในเรือนจำทั่วประเทศ
ภายหลังรับหนังสือร้องเรียน นายยงยุทธ ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเรียกร้องที่ให้ทบทวนการแก้ไข ม.112 ว่า เขาเสนอมาเราก็พิจารณา ทำได้ ไม่ได้ อย่างไรค่อยว่ากันอีกที ตนได้ชี้แจงเรื่อง ม.112 ไปแล้ว
เมื่อถามว่ารัฐบาลไม่อยากแก้ไขเรื่องนี้อยู่แล้ว ใช่หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า"รัฐบาลไม่ทำอยู่แล้ว พอพูดแล้วมันก็สร้างปัญหาให้คนพูด ผมจะไม่ตอบ แต่จะแถลงการณ์เป็นเรื่องเป็นราว ตอบอย่างนี้แล้วไปเขียน มันก็เป็นคนละเรื่อง" นายยงยุทธ กล่าว
** "เทือก" ลั่นต้องฟ้อง ดีเอสไอ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฏร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ กรมสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ ( ดีเอสไอ ) สั่งไม่ฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ว่า ตนมีความคลางแคลงใจในพฤติกรรมของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี ดีเอสไอ เพราะพฤติกรรมที่นายจตุพร และพรรคพวกได้แสดงออก เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 54 ที่กล่าวปราศัยบทเวที มีพฤติกรรมที่ชัดเจนว่า เข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายอาญา
" ที่ผมพูดอย่างนี้ จะบอกว่าผมกล่าวหาดีเอสไอ ก็ได้ และถ้าจะดำเนินคดีกับผม ก็ยินดี เพื่อจะได้ต่อสู้คดีในชั้นศาล และเปิดเผยข้อเท็จจริง และรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่น่าสังเวช ที่หน่วยราชการแสดงอาการเอาอกเอาใจ ยอมทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ขัดกับความถูกต้อง และความรู้สึกของประชาชน และเชื่อว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องที่ทำการไม่ดีเช่นนี้ ต้องได้รับผลกรรมกับการกระทำ" นายสุเทพ กล่าว
** หมู่บ้านแดงเป็นภัยความมั่นคง
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงกรณี ที่คนภูเก็ต และสงขลา ออกมาต่อต้าน ไม่ให้เปิดหมู่บ้านเสื้อแดง ว่า คนในพื้นที่เขาไม่อยากให้มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ว่าเป็นพวกสีเสื้อต่างๆ เพราะเขาอยู่กันสงบดีแล้ว การที่รัฐไปรองรับการกระทำของกลุ่มคนเสื้อแดง ตนเห็นว่าเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงของประเทศ ซึ่งก็อยู่ที่ประชาชน จะนั่งรอให้ประเทศเหมือนกัมพูชา ที่เขมรแดงครองเมืองหรือไม่ แต่ถ้าคนไทยทั้งประเทศลุกขึ้นพร้อมๆ กัน คนเหล่านี้ก็จะตระหนักว่าไม่ได้มีเฉพาะพวกเขา แต่ยังมีเจ้าของประเทศอีกกว่า 60 ล้านคน
**ค้านนปช.จัดรำลึกการชุมนุม 19 พ.ค.
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะมีการจัดกิจกรรม เพื่อรำลึกเหตุการณ์การ การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ในวันที่ 19 พ.ค.นี้ ที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ว่า ตนเชื่อว่าการจัดกิจกรรมดังกล่าว เป็นการหวังผลทางการเมืองของกลุ่มนปช. เพื่อรักษากระแสมวลชน เพราะถ้าไม่มีกิจกรรมเช่นนี้ในการเคลื่อนไหวก็จะทำให้มวลชนคนเสื้อแดงสลายตัวไป จึงพยายามที่จะกิจกรรมในรูปแบบเช่นนี้อยู่เสมอ
" การทำกิจกรรมของกลุ่มนปช. สวนทางกับแนวความคิดการปรองดองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาพูดที่ประเทศลาว และประเทศกัมพูชาในช่วงวันสงกรานต์ว่า ให้ทุกฝ่ายเสียสละ และให้ลืมอดีต แต่อีกด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ กลับวีดีโอลิงก์ มาปลุกระดมในการชุมนุมคนเสื้อแดง ผมไม่ทราบว่า สิ่งเหล่านี้หมายความว่าอย่างไร เพราะถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการให้มีความปรองดองจริง ก็ควรสั่งให้หยุดกิจกรรมดังกล่าวของคนเสื้อแดง และถ้าอยากจะให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการ ต้องให้แกนนำนปช. ลืมที่จะมาสร้างเหตุการณ์ขึ้นมาอีก เพราะถ้ายังมีการชุมนุมลักษณะเช่นนี้ โดยอ้างว่าเป็นการรำลึกเหตุการณ์ 19 พ.ค.53 ก็ต้องถามกลับเช่นเดียวกัน แล้วเมื่อกลุ่มเสื้อหลากสีจะจัดงาน 2 ปี รำลึกเหตุการณ์บุก รพ.จุฬาฯ สังคมจะว่าอย่างไร รวมถึงผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการชุมนุมของคนเสื้อแดง จะจัดงานรำลึกบ้าง จะว่าอย่างไร ผมอยากถามว่า ความปรองดองจะเกิดได้อย่างไร เพราะความวุ่นวายก็จะเกิดขึ้นไม่มีที่จบสิ้น" นายเทพไท กล่าว และว่า อยากเรียกร้องไปยังใครก็ตาม ที่มีอิทธิพล และมีบารมีเหนือแกนนำนปช. ต้องส่งสัญญาณว่า ต้องการให้ประเทศเข้าสู่การปรองดองจริง ก็ควรปฏิบัติให้ไปทางเดียวกัน ไม่ใช่ปากว่าอย่างหนึ่ง แต่ปฏิบัติไปอีกอย่างหนึ่ง