ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คนร้ายแขวนระเบิดหนัก 15 กก.ที่ป้ายจราจรสามแยกปัตตานี-นราฯดักสังหารทหารพรานขณะเดินกลับจาก รปภ.งานกาชาดปัตตานี เจ็บ 17 นาย พร้อมยิงกราด ตร.สภ.ทุ่งยางแดงสาหัสอีก 1 ส่วนที่นราฯคนร้ายขว้างระเบิดใส่จุดตรวจ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจรถจักรยานยนต์ก่อนเข้างานกาชาด เจ้าหน้าที่-ชาวบ้านเจ็บ 8 ราย ขณะที่ช่วงเย็นก่อเหตุยิงพ่อค้ากลางตลาดปัตตานีดับอีก 2 ราย “บิ๊กอ๊อด”เผยรวบผู้ต้องสงสัยปาบึ้มงานกาชาดใต้ได้แล้ว พร้อมเร่งสอบ-จี้ระวังยุทธวิธี
เมื่อเวลา 00.10 น.ของวานนี้ (14 พ.ค.) ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารพรานจากกรมทหารพรานที่ 43 เดินทางกลับจากรักษาความสงบเรียบร้อยในงานกาชาดจังหวัดปัตตานี โดยใช้รถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ หมายเลขทะเบียน 80-6145 ปัตตานี และรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน นข1275 ปัตตานี และรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า หมายเลขทะเบียน กล 6306 สงขลา เป็นพาหนะ ถึงที่เกิดเหตุบนถนนสาย 42 บริเวณ 3 แยกสายปัตตานี-นราธิวาส ได้เกิดระเบิดขึ้นที่ป้ายสัญญาณจราจรข้างทาง เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหารพรานบาดเจ็บ 15 นาย
ขณะเดียวกันมี อส.เจ๊ะอุเซ็ง เจ๊ะโซ๊ะ ขับขี่รถจักรยานยนต์ ซูซูกิ สีดำ หมายเลขทะเบียน กวล 109 ปัตตานี โดยนายวันซาลีฟ อาลี นั่งซ้อนท้ายได้ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลปัตตานี และไม่มีผู้เสียชีวิต จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายได้แขวนระเบิดแสวงเครื่องซึ่งบรรจุในถังดับเพลิงหนักประมาณ 15 กิโลกรัม ไว้ที่ป้ายสัญญาณจราจรข้างทางแล้วจุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร คาดว่าเป็นการกระทำของกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่เพื่อสร้างสถานการณ์
ส่วนที่ อ.ทุ่งยางแดง ช่วงเวลา 00.30 น.วันเดียวกัน ขณะที่ ส.ต.ต แวฮาซัน เล็นและ อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งยางแดง ออกจากบ้านพักเลขที่ 25 ม.3 ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี โดยใช้รถยนต์กระบะนิสสัน สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ผก.4013 สงขลา เพื่อไปเข้าเวรที่ สภ.ทุ่งยางแดง โดยใช้เส้นทางในหมู่บ้านสายข่าลิง-โต๊ะชูด ม.1 ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ได้มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิง กระสุนโดนบริเวณศีรษะและลำตัวได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา คาดว่าเป็นการกระทำของกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ที่ลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่
พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภจว.ปัตตานี เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีว่า วันนี้ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อแกะรอยกลุ่มคนร้าย ส่วนเจ้าหน้าที่ที่บาดเจ็บส่วนใหญ่บาดเจ็บมีผู้ที่บาดเจ็บสาหัสพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 3 ราย
**ปาบึ้ม! ป่วนงานกาชาดนราฯเจ็บ 8
ส่วนที่นราธิวาส ช่วงเวลา 21.35 น.ของวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ต.สุชาติ หมีลำพอง สว.เวร สภ.เมือง จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายขว้างระเบิดใส่จุดตรวจเจ้าหน้าที่กองกำลัง 3 ฝ่าย ซึ่งตั้งอยู่บนถนนวิจิตรไชบูลย์ เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ทำให้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 7 ราย จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบที่บริเวณทางเดินเท้าด้านซ้ายมือของจุดตรวจมีหลุมลึก 10 นิ้ว กว้าง 6 นิ้ว และมีกระเดื่องนิรภัยของระเบิดขว้างชนิด เอ็ม26 ตกอยู่บนถนนจำนวน 1 อัน โดยเฉพาะที่บริเวณข้างหลุมระเบิดเจ้าหน้าที่พบลูกระเบิดแบบขว้างชนิด เอ็ม 67 ตกอยู่อีก 1 ลูก ซึ่งอยู่ในลักษณะที่คนร้ายได้ถอดสลักนิรภัยแล้ว ร.ต.ต.แชน หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด จึงได้แจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องออกห่าง ก่อนเข้าไปทำการเก็บกู้ ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย แยกเป็นเจ้าหน้าที่ 2 นายและชาวบ้านอีก 6 ราย เจ้าหน้าที่และพลเมืองดีได้นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
สอบสวนทราบว่า ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ อส.และทหารรวม 7 นาย แยกย้ายกันตรวจสอบรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ขับมาเที่ยวงานกาชาดได้มีคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์สวนผ่านมาบริเวณถนนฝั่งตรงข้ามแล้วคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายได้หยิบระเบิดขว้างชนิดเอ็ม 67 และเอ็ม 26 ที่ซุกซ่อนไว้ในกระเป๋าสะพายขว้างใส่เข้าไปในกลุ่มเจ้าหน้าที่จนเกิดระเบิดขึ้น 1 ลูก ส่วนอีกลูกเป็นระเบิดชนิดเอ็ม 67 เคราะห์ดีระเบิดด้าน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านได้รับบาดเจ็บรวม 7 รายดังกล่าว
ในระหว่างที่เกิดระเบิดดังขึ้นทำให้ชาวบ้านที่เดินทางไปร่วมงานกาชาด ซึ่งจัดอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกันต่างพากันวิ่งหลบหนีกันอย่างอลหม่าน เพื่อหลบหนีออกจากบริเวณงาน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ประชาสัมพันธ์ก่อนหน้านี้ว่า ในค่ำคืนนี้ให้ระวังรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิคสีเทา ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนได้แอบซุกซ่อนระเบิดเพื่อมาวางคาร์บอมบ์ในบริเวณละแวกการจัดงานกาชาด จึงทำให้ประชาชนต่างวิตกกังวลว่าจะมีเหตุร้ายซ้ำสองขึ้นอีก
**สอบเครียดผู้ต้องสงสัยปาระเบิดกาชาดนราฯ
ด้าน พ.ต.อ.สะท้านฟ้า วามะสิงห์ ผกก.สืบสวน ภ.จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่าคนร้ายมีทั้งหมด 3 คน ก่อนเกิดเหตุได้เดินออกมาจากซอยหลังกำแพงมัสยิด เมื่อสบโอกาสได้ขว้างระเบิดเข้าใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ที่กำลังตรวจรถที่ผ่านเข้า-ออกบริเวณดังกล่าวก่อนที่จะพากันวิ่งหลบหนีกลับไปทางเดิมซึ่งเป็นที่กบดาน โดยได้ทำโทรศัพท์มือถือตกไว้ในที่เกิดเหตุ 1 เครื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่ว่าเป็นของใคร เบื้องต้นคาดว่าทั้ง 3 คนที่เป็นวัยรุ่นติดยาเป็นคนในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองนราฯที่ต้องการสร้างสถานการณ์ป่วนการจัดงานกาชาด
"ส่วนนายฮานาฟี เซดมหมัด ผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวหลังเกิดเหตุยังถูกสอบปากคำเครียดอยู๋ที่ฐานปฏิบัติการทหารในพื้นที่เนื่องจากท่าทีมีพิรุธ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 7 ราย แพทย์รักษาอาการเบื้องต้นก่อนอนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 4 ราย เหลือเพียง 3 รายที่อาการสาหัสคือ 1.น.ส.พัชรีดา อาลีอิสาเลาะ อายุ 23 ปี, 2.น.ส.ยามีเร๊าะ โต๊ะมา อายุ 53 ปี และ 3.ด.ญ.ฟารีดา มูซอ อายุ 12 ปี โดยนอนรักษาตัวที่ตึกศัลยกรรมหญิง โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ โดยอาการล่าสุดปลอดภัยแล้ว"
**โจรใต้ยิงหัว2พ่อค้าอีสานคาตลาดปัตตานี
เวลา 18.30 น. พ.ต.อ.จีระเศรษฐ์ ดาวเงินตระกูล ผกก.สภ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันหน้าตลาดนัดบ้านปากู ม.5 ต.ปากู อ.ทุ่งยางแดง จึงนำกำลังไปตรวจสอบพบผู้เสียชีวิตนอนตายจมกองเลือด ทราบชื่อคือ นายสัมฤทธิ์ ฝางเพียร อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ม.13 ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดเข้าศีรษะและลำตัว จำนวน 2 นัด และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 รายถูกนำส่ง รพ.ทุ่งยางแดงแล้ว ทราบชื่อ ด.ช.พรชัย ลิพน อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 ม.8 ต.นาแต้ อ.คำตากล้า จ.สกลนคร มีบาดแผลถูกยิงเข้าลำตัวและศีรษะ อาการสาหัส
จากการสอบสวนทราบว่า ทั้งสองคนเป็นพ่อค้าจำหน่ายเครื่องมือตัดหญ้าเดินทางมาจากภาคอีสาน ก่อนเกิดเหตุทั้งสองคนขับรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ บรรทุกเครื่องมือตัดหญ้าเพื่อมาขาย โดยได้จอดรถไว้บริเวณหน้าตลาด ปรากฏว่ามีคนร้าย 2 คนขับรถ จยย.มาจอด แล้วชักอาวุธปืนกระหน่ำยิงทั้งสองคนจนร่วงกองกับพื้นต่อหน้าประชาชนจำนวนมาก จากนั้นเร่งเครื่องหลบหนีไป
**“บิ๊กอ๊อด”เผยรวบมือปาบึ้มได้แล้ว
เวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงเหตุการณ์ระเบิดในพื้นที่ จ.นราธิวาส และ จ.ปัตตานีว่า เหตุการณ์ที่ จ.นราธิวาส ขณะนี้ทราบว่าเจ้าหน้าที่สามารถจับผู้ต้องสงสัยได้แล้ว และตำรวจกำลังสอบสวนอยู่ ส่วนเหตุการณ์ที่ จ.ปัตตานี ทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 17 ราย
เมื่อถามว่าจะมีการสั่งปรับแผนอย่างไรบ้าง พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า สั่งไปหลายครั้งแล้ว และ ผบ.ทบ.ก็ได้สั่งผู้บังคับกองพันเป็นประจำว่า ในเรื่องยุทธวิธีต้องมีการระวังป้องกัน จะต้องปฏิบัติตามระเบียบประจำและต้องระวัง ดังนั้น เมื่อเอากำลังออกมาป้องกันงานกาชาด ตอนกลับก็กลับเส้นทางเดิมและเวลาก็หลังจากเสร็จงานแล้ว ซึ่งการปฏิบัติซ้ำในเส้นทางเดิมไม่มีเส้นทางสำรอง ไม่มีเส้นทางลวงเส้นทางจริงก็จะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้เป็นประจำ ซึ่งการไปประชุมครั้งหน้าก็จะต้องพูดคุยกันและชี้แจงกันอีกว่าอย่าลืมต้องใช้หลักการยุทธวิธีและหลักการปฏิบัติประจำ ขณะนี้การสูญเสียเกิดขึ้นจากการปฏิบัติ ไม่ใช่เกิดขึ้นจากยุทธศาสตร์ ก็ต้องเคี่ยวเข็นกับการปฏิบัติของทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่ง ผบ.ทบ.จะเป็นผู้ให้นโยบายในรายละเอียด เรื่องนี้จะต้องพูดกันต่อไปจนกว่าจะมีการระวังให้มากขึ้น
เมื่อเวลา 00.10 น.ของวานนี้ (14 พ.ค.) ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารพรานจากกรมทหารพรานที่ 43 เดินทางกลับจากรักษาความสงบเรียบร้อยในงานกาชาดจังหวัดปัตตานี โดยใช้รถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ หมายเลขทะเบียน 80-6145 ปัตตานี และรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน นข1275 ปัตตานี และรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า หมายเลขทะเบียน กล 6306 สงขลา เป็นพาหนะ ถึงที่เกิดเหตุบนถนนสาย 42 บริเวณ 3 แยกสายปัตตานี-นราธิวาส ได้เกิดระเบิดขึ้นที่ป้ายสัญญาณจราจรข้างทาง เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหารพรานบาดเจ็บ 15 นาย
ขณะเดียวกันมี อส.เจ๊ะอุเซ็ง เจ๊ะโซ๊ะ ขับขี่รถจักรยานยนต์ ซูซูกิ สีดำ หมายเลขทะเบียน กวล 109 ปัตตานี โดยนายวันซาลีฟ อาลี นั่งซ้อนท้ายได้ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลปัตตานี และไม่มีผู้เสียชีวิต จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายได้แขวนระเบิดแสวงเครื่องซึ่งบรรจุในถังดับเพลิงหนักประมาณ 15 กิโลกรัม ไว้ที่ป้ายสัญญาณจราจรข้างทางแล้วจุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร คาดว่าเป็นการกระทำของกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่เพื่อสร้างสถานการณ์
ส่วนที่ อ.ทุ่งยางแดง ช่วงเวลา 00.30 น.วันเดียวกัน ขณะที่ ส.ต.ต แวฮาซัน เล็นและ อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งยางแดง ออกจากบ้านพักเลขที่ 25 ม.3 ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี โดยใช้รถยนต์กระบะนิสสัน สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ผก.4013 สงขลา เพื่อไปเข้าเวรที่ สภ.ทุ่งยางแดง โดยใช้เส้นทางในหมู่บ้านสายข่าลิง-โต๊ะชูด ม.1 ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ได้มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิง กระสุนโดนบริเวณศีรษะและลำตัวได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา คาดว่าเป็นการกระทำของกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ที่ลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่
พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภจว.ปัตตานี เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีว่า วันนี้ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อแกะรอยกลุ่มคนร้าย ส่วนเจ้าหน้าที่ที่บาดเจ็บส่วนใหญ่บาดเจ็บมีผู้ที่บาดเจ็บสาหัสพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 3 ราย
**ปาบึ้ม! ป่วนงานกาชาดนราฯเจ็บ 8
ส่วนที่นราธิวาส ช่วงเวลา 21.35 น.ของวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ต.สุชาติ หมีลำพอง สว.เวร สภ.เมือง จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายขว้างระเบิดใส่จุดตรวจเจ้าหน้าที่กองกำลัง 3 ฝ่าย ซึ่งตั้งอยู่บนถนนวิจิตรไชบูลย์ เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ทำให้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 7 ราย จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบที่บริเวณทางเดินเท้าด้านซ้ายมือของจุดตรวจมีหลุมลึก 10 นิ้ว กว้าง 6 นิ้ว และมีกระเดื่องนิรภัยของระเบิดขว้างชนิด เอ็ม26 ตกอยู่บนถนนจำนวน 1 อัน โดยเฉพาะที่บริเวณข้างหลุมระเบิดเจ้าหน้าที่พบลูกระเบิดแบบขว้างชนิด เอ็ม 67 ตกอยู่อีก 1 ลูก ซึ่งอยู่ในลักษณะที่คนร้ายได้ถอดสลักนิรภัยแล้ว ร.ต.ต.แชน หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด จึงได้แจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องออกห่าง ก่อนเข้าไปทำการเก็บกู้ ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย แยกเป็นเจ้าหน้าที่ 2 นายและชาวบ้านอีก 6 ราย เจ้าหน้าที่และพลเมืองดีได้นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
สอบสวนทราบว่า ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ อส.และทหารรวม 7 นาย แยกย้ายกันตรวจสอบรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ขับมาเที่ยวงานกาชาดได้มีคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์สวนผ่านมาบริเวณถนนฝั่งตรงข้ามแล้วคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายได้หยิบระเบิดขว้างชนิดเอ็ม 67 และเอ็ม 26 ที่ซุกซ่อนไว้ในกระเป๋าสะพายขว้างใส่เข้าไปในกลุ่มเจ้าหน้าที่จนเกิดระเบิดขึ้น 1 ลูก ส่วนอีกลูกเป็นระเบิดชนิดเอ็ม 67 เคราะห์ดีระเบิดด้าน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านได้รับบาดเจ็บรวม 7 รายดังกล่าว
ในระหว่างที่เกิดระเบิดดังขึ้นทำให้ชาวบ้านที่เดินทางไปร่วมงานกาชาด ซึ่งจัดอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกันต่างพากันวิ่งหลบหนีกันอย่างอลหม่าน เพื่อหลบหนีออกจากบริเวณงาน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ประชาสัมพันธ์ก่อนหน้านี้ว่า ในค่ำคืนนี้ให้ระวังรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิคสีเทา ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนได้แอบซุกซ่อนระเบิดเพื่อมาวางคาร์บอมบ์ในบริเวณละแวกการจัดงานกาชาด จึงทำให้ประชาชนต่างวิตกกังวลว่าจะมีเหตุร้ายซ้ำสองขึ้นอีก
**สอบเครียดผู้ต้องสงสัยปาระเบิดกาชาดนราฯ
ด้าน พ.ต.อ.สะท้านฟ้า วามะสิงห์ ผกก.สืบสวน ภ.จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่าคนร้ายมีทั้งหมด 3 คน ก่อนเกิดเหตุได้เดินออกมาจากซอยหลังกำแพงมัสยิด เมื่อสบโอกาสได้ขว้างระเบิดเข้าใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ที่กำลังตรวจรถที่ผ่านเข้า-ออกบริเวณดังกล่าวก่อนที่จะพากันวิ่งหลบหนีกลับไปทางเดิมซึ่งเป็นที่กบดาน โดยได้ทำโทรศัพท์มือถือตกไว้ในที่เกิดเหตุ 1 เครื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่ว่าเป็นของใคร เบื้องต้นคาดว่าทั้ง 3 คนที่เป็นวัยรุ่นติดยาเป็นคนในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองนราฯที่ต้องการสร้างสถานการณ์ป่วนการจัดงานกาชาด
"ส่วนนายฮานาฟี เซดมหมัด ผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวหลังเกิดเหตุยังถูกสอบปากคำเครียดอยู๋ที่ฐานปฏิบัติการทหารในพื้นที่เนื่องจากท่าทีมีพิรุธ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 7 ราย แพทย์รักษาอาการเบื้องต้นก่อนอนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 4 ราย เหลือเพียง 3 รายที่อาการสาหัสคือ 1.น.ส.พัชรีดา อาลีอิสาเลาะ อายุ 23 ปี, 2.น.ส.ยามีเร๊าะ โต๊ะมา อายุ 53 ปี และ 3.ด.ญ.ฟารีดา มูซอ อายุ 12 ปี โดยนอนรักษาตัวที่ตึกศัลยกรรมหญิง โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ โดยอาการล่าสุดปลอดภัยแล้ว"
**โจรใต้ยิงหัว2พ่อค้าอีสานคาตลาดปัตตานี
เวลา 18.30 น. พ.ต.อ.จีระเศรษฐ์ ดาวเงินตระกูล ผกก.สภ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันหน้าตลาดนัดบ้านปากู ม.5 ต.ปากู อ.ทุ่งยางแดง จึงนำกำลังไปตรวจสอบพบผู้เสียชีวิตนอนตายจมกองเลือด ทราบชื่อคือ นายสัมฤทธิ์ ฝางเพียร อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ม.13 ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดเข้าศีรษะและลำตัว จำนวน 2 นัด และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 รายถูกนำส่ง รพ.ทุ่งยางแดงแล้ว ทราบชื่อ ด.ช.พรชัย ลิพน อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 ม.8 ต.นาแต้ อ.คำตากล้า จ.สกลนคร มีบาดแผลถูกยิงเข้าลำตัวและศีรษะ อาการสาหัส
จากการสอบสวนทราบว่า ทั้งสองคนเป็นพ่อค้าจำหน่ายเครื่องมือตัดหญ้าเดินทางมาจากภาคอีสาน ก่อนเกิดเหตุทั้งสองคนขับรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ บรรทุกเครื่องมือตัดหญ้าเพื่อมาขาย โดยได้จอดรถไว้บริเวณหน้าตลาด ปรากฏว่ามีคนร้าย 2 คนขับรถ จยย.มาจอด แล้วชักอาวุธปืนกระหน่ำยิงทั้งสองคนจนร่วงกองกับพื้นต่อหน้าประชาชนจำนวนมาก จากนั้นเร่งเครื่องหลบหนีไป
**“บิ๊กอ๊อด”เผยรวบมือปาบึ้มได้แล้ว
เวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงเหตุการณ์ระเบิดในพื้นที่ จ.นราธิวาส และ จ.ปัตตานีว่า เหตุการณ์ที่ จ.นราธิวาส ขณะนี้ทราบว่าเจ้าหน้าที่สามารถจับผู้ต้องสงสัยได้แล้ว และตำรวจกำลังสอบสวนอยู่ ส่วนเหตุการณ์ที่ จ.ปัตตานี ทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 17 ราย
เมื่อถามว่าจะมีการสั่งปรับแผนอย่างไรบ้าง พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า สั่งไปหลายครั้งแล้ว และ ผบ.ทบ.ก็ได้สั่งผู้บังคับกองพันเป็นประจำว่า ในเรื่องยุทธวิธีต้องมีการระวังป้องกัน จะต้องปฏิบัติตามระเบียบประจำและต้องระวัง ดังนั้น เมื่อเอากำลังออกมาป้องกันงานกาชาด ตอนกลับก็กลับเส้นทางเดิมและเวลาก็หลังจากเสร็จงานแล้ว ซึ่งการปฏิบัติซ้ำในเส้นทางเดิมไม่มีเส้นทางสำรอง ไม่มีเส้นทางลวงเส้นทางจริงก็จะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้เป็นประจำ ซึ่งการไปประชุมครั้งหน้าก็จะต้องพูดคุยกันและชี้แจงกันอีกว่าอย่าลืมต้องใช้หลักการยุทธวิธีและหลักการปฏิบัติประจำ ขณะนี้การสูญเสียเกิดขึ้นจากการปฏิบัติ ไม่ใช่เกิดขึ้นจากยุทธศาสตร์ ก็ต้องเคี่ยวเข็นกับการปฏิบัติของทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่ง ผบ.ทบ.จะเป็นผู้ให้นโยบายในรายละเอียด เรื่องนี้จะต้องพูดกันต่อไปจนกว่าจะมีการระวังให้มากขึ้น
