“หุ้นไทย”ร่วงหนัก 25 จุด กรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ชี้เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดอื่นทั่วโลก เหตุนักลงทุนเทขาย โยกเงินพันธบัตรรัฐบาลหวังลดความเสี่ยง กรณีกรีซ ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ และอาจต้องออกจากกลุ่มยูโรโซน ด้านโบรกฯให้ติดตามใกล้ชิด หากตลาดสหรัฐ-ยุโรปร่วงต่อ จะกดดัชนีดิ่งตามไปด้วย
ตลาดหุ้นไทยวานนี้(14พ.ค.) ปรับตัวลดลงหนัก เคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยปิดที่ระดับ 1,165.51 จุด ลดลง 25.50 จุด หรือ -2.14% มูลค่าการซื้อขาย 33,410.90 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ 1,201.23 จุด และต่ำสุดที่ 1,159.23 จุด ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ เพราะนักลงทุนกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในกรีซ ที่ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ขึ้นได้ และมีความเสี่ยงที่จะออกจากกลุ่มยูโรโซน
ทั้งนี้พบว่า ในการซื้อขายสุทธิแยกตามประเภทนักลงทุนนั้น นักลงทุนต่างชาติกลับซื้อสุทธิ 361.07 ล้านบาท เช่นเดียวกับนักลงทุนทั่วไปที่ซื้อ 1,217.14 ล้านบาท โดยมีสถาบันและบัญชีบริษัทหลักทรัพย์(บล.) เป็นผู้ขายสุทธิ
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กล่าวว่า สาเหตุที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงเกิดจากความกังวลปัญหาในยุโรป เนื่องจากกรีซยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ และในสเปนก็มีการประท้วง รวมทั้งเยอรมันก็มีปัญหา ทำให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง เรื่องนี้สร้างความกังวลให้นักลงทุนจนมีการขายสินทรัพย์เสี่ยงไปพักเงินไว้ที่พันธบัตรรัฐบาลที่มีความเสี่ยงต่ำ เห็นได้จากตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงเฉลี่ย 2% กว่า
“แรงขายที่เกิดขึ้นเป็นไปทั่วทั้งภูมิภาค แต่หากสถานการณ์ในยุโรปเริ่มคลี่คลาย เชื่อว่าเม็ดเงินจำนวนมากจะกลับเข้ามาสู่ตลาดหุ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะในเอเชีย รวมถึงไทย เนื่องจากมีความแข็งแรง และเติบโตเร็วสุด รวมถึงบริษัทจดทะเบียนในตลาดไทยมีความสามารถในการทำกำไรสูง เช่นเดียวกับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล”
กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยยังเป็นตลาดที่มีหุ้นพื้นฐานดี ดังนั้นหากนักลงทุนให้ความสำคัญหุ้นพื้นฐาน จากนี้ไปให้ติดตามสถานการณ์ในยุโรป ถ้ายังยืดเยื้ออยู่ การเคลื่อนไหวของดัชนีก็จะไปในทิศทางเดียวกับต่างประเทศ แต่ถ้าตลาดกลับมาดี ตลาดหุ้นไทยก็จะได้รับประโยชน์ในการเป็นตัวเลือกในการกลับมาซื้อของนักลงทุนด้วย
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเกิด Panic มาก เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย และตลาดยุโรปที่ต่างปรับตัวลงแรง ปัจจัยหลักมาจากเรื่องของกรีซ ที่ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ และมองกันว่ากรีซอาจจะต้องออกจากกลุ่มยูโรโซน โดยให้นักลงทุนจับตาทิศทางดัชนีหุ้นดาวโจนส์ และตลาดในยุโรปว่าจะมีพัฒนาการเป็นอย่างไร ถ้าตลาดค่อย ๆ ดีดตัวขึ้น ตลาดหุ้นไทยวันนี้(15 พ.ค.)ก็มีโอกาสที่จะฟื้นตัวได้ แต่ถ้ายัง Panic อยู่ตลาดบ้านเราก็อาจจะปรับตัวลงต่อ พร้อมให้แนวรับ 1,150-1,160 จุด แนวต้าน 1,178 จุด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้(14พ.ค.) ปรับตัวลดลงหนัก เคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยปิดที่ระดับ 1,165.51 จุด ลดลง 25.50 จุด หรือ -2.14% มูลค่าการซื้อขาย 33,410.90 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ 1,201.23 จุด และต่ำสุดที่ 1,159.23 จุด ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ เพราะนักลงทุนกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในกรีซ ที่ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ขึ้นได้ และมีความเสี่ยงที่จะออกจากกลุ่มยูโรโซน
ทั้งนี้พบว่า ในการซื้อขายสุทธิแยกตามประเภทนักลงทุนนั้น นักลงทุนต่างชาติกลับซื้อสุทธิ 361.07 ล้านบาท เช่นเดียวกับนักลงทุนทั่วไปที่ซื้อ 1,217.14 ล้านบาท โดยมีสถาบันและบัญชีบริษัทหลักทรัพย์(บล.) เป็นผู้ขายสุทธิ
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กล่าวว่า สาเหตุที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงเกิดจากความกังวลปัญหาในยุโรป เนื่องจากกรีซยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ และในสเปนก็มีการประท้วง รวมทั้งเยอรมันก็มีปัญหา ทำให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง เรื่องนี้สร้างความกังวลให้นักลงทุนจนมีการขายสินทรัพย์เสี่ยงไปพักเงินไว้ที่พันธบัตรรัฐบาลที่มีความเสี่ยงต่ำ เห็นได้จากตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงเฉลี่ย 2% กว่า
“แรงขายที่เกิดขึ้นเป็นไปทั่วทั้งภูมิภาค แต่หากสถานการณ์ในยุโรปเริ่มคลี่คลาย เชื่อว่าเม็ดเงินจำนวนมากจะกลับเข้ามาสู่ตลาดหุ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะในเอเชีย รวมถึงไทย เนื่องจากมีความแข็งแรง และเติบโตเร็วสุด รวมถึงบริษัทจดทะเบียนในตลาดไทยมีความสามารถในการทำกำไรสูง เช่นเดียวกับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล”
กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยยังเป็นตลาดที่มีหุ้นพื้นฐานดี ดังนั้นหากนักลงทุนให้ความสำคัญหุ้นพื้นฐาน จากนี้ไปให้ติดตามสถานการณ์ในยุโรป ถ้ายังยืดเยื้ออยู่ การเคลื่อนไหวของดัชนีก็จะไปในทิศทางเดียวกับต่างประเทศ แต่ถ้าตลาดกลับมาดี ตลาดหุ้นไทยก็จะได้รับประโยชน์ในการเป็นตัวเลือกในการกลับมาซื้อของนักลงทุนด้วย
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเกิด Panic มาก เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย และตลาดยุโรปที่ต่างปรับตัวลงแรง ปัจจัยหลักมาจากเรื่องของกรีซ ที่ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ และมองกันว่ากรีซอาจจะต้องออกจากกลุ่มยูโรโซน โดยให้นักลงทุนจับตาทิศทางดัชนีหุ้นดาวโจนส์ และตลาดในยุโรปว่าจะมีพัฒนาการเป็นอย่างไร ถ้าตลาดค่อย ๆ ดีดตัวขึ้น ตลาดหุ้นไทยวันนี้(15 พ.ค.)ก็มีโอกาสที่จะฟื้นตัวได้ แต่ถ้ายัง Panic อยู่ตลาดบ้านเราก็อาจจะปรับตัวลงต่อ พร้อมให้แนวรับ 1,150-1,160 จุด แนวต้าน 1,178 จุด