วานนี้ (13 พ.ค.55)น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธตอบคำ
ถามสื่อมวลชน ถึงกรณีกระแสข่าว บ้านเลขที่ 111 ที่จะพ้นโทษถูกตัดสิทธิ์
ทางการเมือง ในสิ้นเดือน พ.ค.นี้ กดดันให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี โดย
นายกรัฐมนตรี ระบุว่าให้สอบถามจากรัฐมนตรีเอง เพราะคณะรัฐมนตรี มี
หลายคน
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
มหาดไทย ที่ร่วมเดินทางมาส่งนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางเยือนราช
อาณาจักรบาห์เรนอย่างเป็นทางการ ระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า ไม่มีใคร
สามารถกดดันให้ นายกรัฐมนตรี ปรับคณะรัฐมนตรีได้
ด้าน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวปฏิเสธกระแสข่าว
ว่า สมาชิกบ้านเลขที่ 111 กดดัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้ปรับคณะรัฐมนตรี โดย
ยืนยันว่า ไม่มีใครสามารถกดดันได้ เพราะนายกฯเป็นตัวของตัวเอง มี
ภาวะผู้นำ ข่าวที่ออกมาเป็นแค่สีสันทางการเมือง และขณะนี้ยังคงไม่มี
การส่งสัญญาณว่าจะปรับคณะรัฐมนตรี เนื่องจาก รัฐบาลต้องการแก้
ปัญหาปากท้องประชาชน แก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง แก้ปัญหายาเสพติด
และปัญหาสังคม แต่หากมีในอนาคตก็เป็นเรื่องปกติ
**" อนุดิษฐ์" ไม่หวั่น ถูกปรับออก
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)
กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีชื่อรวมอยู่ด้วย ว่า
วันนี้ยังคงทำหน้าที่รัฐมนตรีอยู่ ก็จะทำให้ดีที่สุด ซึ่งตนมีหน้าที่ทำเพื่อ
พรรคเพื่อไทย รัฐบาล รวมทั้งเพื่อประชาชน ส่วนความเหมาะสมที่จะอยู่
ต่อหรือจะถูกปรับออกนั้นตนมองว่าเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ ไม่ห่วงเรื่องนี้
"หากปรับ ครม.แล้วได้คนที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์
การทำงาน มาช่วยงานรัฐบาลก็ยิ่งดี ซึ่งบทบาทไม่ว่าจะรัฐมนตรีหรือ ส.ส
.ต่างมีหน้าที่ ที่เท่าเทียมกัน รัฐมนตรีก็บริหารประเทศ ส.ส.ก็ทำหน้าที่ฝ่าย
นิติบัญญัติ ต่างฝ่ายต่างมีศักดิ์ศรี ดังนั้นผมอยู่ตรงไหนก็ได้" น.อ.อนุดิษฐ์
กล่าวและว่า ส่วนที่มีหลายฝ่ายวิจารณ์เรื่องการปรับ ครม.ตามโควต้าของ
ส.ส.แต่ละภาคนั้น ส่วนตัวไม่ได้คิดเรื่องโควต้าเป็นสาระสำคัญกับในการ
จัดทัพฝ่ายบริหาร เราจัดทัพบริหารโดยคำนึงถึงประสิทธิภาพการทำงาน
เป็นสำคัญ และหลายตำแหน่งที่แต่งตั้งหรือปรับในช่วงที่ผ่านมานั้น ชี้ให้
เห็นว่าหลายตำแหน่งก็ไม่ได้ปรับตามโควต้า
**“ศิธา” ยันไม่มีบ้าน 111 กดดัน “ปู”
น.ต.ศิธา ทิวารี อดีตกรรมการบริหาร พรรคไทยรักไทย ในฐานะสมาชิกบ้าน
เลขที่ 111 กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ออกมา
กดดันน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปรับครม. ว่า ตนยืนยันว่าไม่มี
สมาชิกบ้านเลขที่ 111 เคลื่อนไหวให้นายกฯปรับ ครม. เพราะขณะนี้ยังไม่
มีข้อมูลหรือตรวจสอบรายชื่อเลยว่าจะมีใครบ้าง ที่อาสาเข้ามาทำงานกับ
พรรคเพื่อไทย และใครบ้างที่ยังยืนยันอุดมการณ์ทำงานร่วมกันต่อไป จะ
เหมาเป็นสมาชิกบ้านเลขที่ 111 นั้นคงไม่ได้ เพราะบางคนก็แยกออกไปทำ
งานกับพรรคการเมืองอื่นบ้าง ซึ่งต้องรอความชัดเจนหลังจากการปลด
ล๊อคทางการเมืองแล้ว อย่างไรก็ตามยืนยันว่าไม่มีใครกดดันให้นายกฯปรับ
ครม.แน่นอน ที่ออกมาพูดอย่างเป็นทางการ ก็มีอย่างคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุ
ราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่ระบุยืนยันว่าจะไม่รับตำแหน่ง
ในครม. จะมีการปรับตำแหน่งในครม.หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับนายกฯ
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่าคุณหญิงสุดารัตน์จะส่ง น.ต.ศิธา
เป็นรัฐมนตรีในโควตาของกทม.เข้ามาแทนที่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว
.เทคโนโลยีและสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) น.ต.ศิธา กล่าวว่า ขณะ
นี้สมาชิกบ้านเลขที่ 111ที่จะมาช่วยงานพรรคเพื่อไทยยังไม่มีความชัดเจน
จึงทำให้มีการคาดเดากันไป แต่เชื่อว่าสมาชิกฯส่วนใหญ่ยังมีอุดมการณ์
ร่วมกัน ในส่วนของตำแหน่ง รมต.นั้นตนก็ไม่ได้คาดหวังอะไร แล้วแต่
นายกฯจะเห็นว่าใครเหมาะสมอย่างไร
**ปรับปู 3 อย่าแย้ม เจ๋งกว่าปู
รายงานจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า สำหรับการปรับครม.ยิ่งลักษณ์ 3 นั้น
คาดว่าจะเป็นการนำทีมงานเพื่อมาเสริมการทำงานของนายกฯ โดยเฉพาะ
สมาชิกบ้านเลขที่ 111 ที่จะเข้ามา แต่จะต้องไม่มีภาพลักษณ์ที่เหนือกว่า
ตัวนายกรัฐมนตรี หรือเข้ามาแล้วมีศักยภาพชี้นำจนทำให้นายกฯ ดูด้อยลง
ไป
โดยขณะนี้มีแคนดิเดต 4 รายที่ถูกมองว่าเป็นตัวเต็งคือ นพ.พรหมินทร์
เลิศสุริย์เดช อดีตรมว.พลังงาน นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีตรมว
.คมนาคม นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรมว.ยุติธรรม และ นายภูมิธรรม
เวชยชัย อดีตรมช.คมนาคม เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ไม่โดดเด่นเกินหน้าน.ส
.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเป็นคนที่ทำงานมั่นคงอยู่กับพรรคมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทยนั้น
มีข้อจำกัดจากคาแรคเตอร์ที่โดดเด่นอยู่ในระดับเดียวกับนายกรัฐมนตรี
ฉะนั้นอาจจะต้องทำงานอยู่เบื้องหลัง หรือเป็นประธานที่ปรึกษานายกฯ
หรือประธานคณะทำงานชุดอื่นๆ แทน ขณะที่นายวราเทพ รัตนากร อดีต
รมช.คลัง ที่ถูกคาดหมายว่าจะได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น อาจจะต้องรอ
การปรับครม.ในครั้งถัดไป เนื่องจากที่ผ่านมาได้ส่งตัวแทนเข้าไปเป็น
รัฐมนตรีในรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์แล้ว อาทิ นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.คลัง
**ปชป.เชื่อห้ามใครเด่นกว่า'ปู'
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึง
กรณีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีที่อาจต้องใช้เวลาไปอีกระยะหนึ่ง ว่า
คงไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้เพราะอำนาจที่แท้จริง อยู่ที่ตัวพ.ต.ท
.ทักษิณ เห็นได้จากกลุ่มบุคคลที่ต้องการตำแหน่งคณะรัฐมนตรีต้องเดิน
ทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ แต่เพียงผู้เดียว และการที่นายกฯออกมาปฏิเสธ
เป็นระยะเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองไม่มีอำนาจที่แท้จริง
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการปรับครม.ครั้งนี้ก็จะไม่มีการนำเอาบุคคลโดดเด่น
ขึ้นค้นมาเป็นรัฐมนตรี เพราะกลัวจะข่มรัศมีตัวนายกรัฐมนตรี เช่น กรณี
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่คงจะหมดสิทธิ์เข้ามารับตำแหน่งครม.ชุด
ใหม่ เพราะหากเข้ามาจริง ความโดดเด่นทางการเมือง ประสบการณ์ และ
บุคลิกภาพเหนือกว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ทุกๆด้าน และยิ่งทำให้ภาพลักษณ์
นายกฯที่ตกต่ำอยู่แล้ว ตกต่ำไปอีก ทั้งนี้ด้วยเหตุผลดังกล่าวเชื่อได้ว่าคุณ
หญิงสุดารัตน์ก็รู้สถานการณ์เป็นอย่างดีจึงรีบปฏิเสธตำแหน่งใดในรัฐบาล
ก่อน
ถามสื่อมวลชน ถึงกรณีกระแสข่าว บ้านเลขที่ 111 ที่จะพ้นโทษถูกตัดสิทธิ์
ทางการเมือง ในสิ้นเดือน พ.ค.นี้ กดดันให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี โดย
นายกรัฐมนตรี ระบุว่าให้สอบถามจากรัฐมนตรีเอง เพราะคณะรัฐมนตรี มี
หลายคน
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
มหาดไทย ที่ร่วมเดินทางมาส่งนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางเยือนราช
อาณาจักรบาห์เรนอย่างเป็นทางการ ระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า ไม่มีใคร
สามารถกดดันให้ นายกรัฐมนตรี ปรับคณะรัฐมนตรีได้
ด้าน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวปฏิเสธกระแสข่าว
ว่า สมาชิกบ้านเลขที่ 111 กดดัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้ปรับคณะรัฐมนตรี โดย
ยืนยันว่า ไม่มีใครสามารถกดดันได้ เพราะนายกฯเป็นตัวของตัวเอง มี
ภาวะผู้นำ ข่าวที่ออกมาเป็นแค่สีสันทางการเมือง และขณะนี้ยังคงไม่มี
การส่งสัญญาณว่าจะปรับคณะรัฐมนตรี เนื่องจาก รัฐบาลต้องการแก้
ปัญหาปากท้องประชาชน แก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง แก้ปัญหายาเสพติด
และปัญหาสังคม แต่หากมีในอนาคตก็เป็นเรื่องปกติ
**" อนุดิษฐ์" ไม่หวั่น ถูกปรับออก
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)
กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีชื่อรวมอยู่ด้วย ว่า
วันนี้ยังคงทำหน้าที่รัฐมนตรีอยู่ ก็จะทำให้ดีที่สุด ซึ่งตนมีหน้าที่ทำเพื่อ
พรรคเพื่อไทย รัฐบาล รวมทั้งเพื่อประชาชน ส่วนความเหมาะสมที่จะอยู่
ต่อหรือจะถูกปรับออกนั้นตนมองว่าเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ ไม่ห่วงเรื่องนี้
"หากปรับ ครม.แล้วได้คนที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์
การทำงาน มาช่วยงานรัฐบาลก็ยิ่งดี ซึ่งบทบาทไม่ว่าจะรัฐมนตรีหรือ ส.ส
.ต่างมีหน้าที่ ที่เท่าเทียมกัน รัฐมนตรีก็บริหารประเทศ ส.ส.ก็ทำหน้าที่ฝ่าย
นิติบัญญัติ ต่างฝ่ายต่างมีศักดิ์ศรี ดังนั้นผมอยู่ตรงไหนก็ได้" น.อ.อนุดิษฐ์
กล่าวและว่า ส่วนที่มีหลายฝ่ายวิจารณ์เรื่องการปรับ ครม.ตามโควต้าของ
ส.ส.แต่ละภาคนั้น ส่วนตัวไม่ได้คิดเรื่องโควต้าเป็นสาระสำคัญกับในการ
จัดทัพฝ่ายบริหาร เราจัดทัพบริหารโดยคำนึงถึงประสิทธิภาพการทำงาน
เป็นสำคัญ และหลายตำแหน่งที่แต่งตั้งหรือปรับในช่วงที่ผ่านมานั้น ชี้ให้
เห็นว่าหลายตำแหน่งก็ไม่ได้ปรับตามโควต้า
**“ศิธา” ยันไม่มีบ้าน 111 กดดัน “ปู”
น.ต.ศิธา ทิวารี อดีตกรรมการบริหาร พรรคไทยรักไทย ในฐานะสมาชิกบ้าน
เลขที่ 111 กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ออกมา
กดดันน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปรับครม. ว่า ตนยืนยันว่าไม่มี
สมาชิกบ้านเลขที่ 111 เคลื่อนไหวให้นายกฯปรับ ครม. เพราะขณะนี้ยังไม่
มีข้อมูลหรือตรวจสอบรายชื่อเลยว่าจะมีใครบ้าง ที่อาสาเข้ามาทำงานกับ
พรรคเพื่อไทย และใครบ้างที่ยังยืนยันอุดมการณ์ทำงานร่วมกันต่อไป จะ
เหมาเป็นสมาชิกบ้านเลขที่ 111 นั้นคงไม่ได้ เพราะบางคนก็แยกออกไปทำ
งานกับพรรคการเมืองอื่นบ้าง ซึ่งต้องรอความชัดเจนหลังจากการปลด
ล๊อคทางการเมืองแล้ว อย่างไรก็ตามยืนยันว่าไม่มีใครกดดันให้นายกฯปรับ
ครม.แน่นอน ที่ออกมาพูดอย่างเป็นทางการ ก็มีอย่างคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุ
ราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่ระบุยืนยันว่าจะไม่รับตำแหน่ง
ในครม. จะมีการปรับตำแหน่งในครม.หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับนายกฯ
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่าคุณหญิงสุดารัตน์จะส่ง น.ต.ศิธา
เป็นรัฐมนตรีในโควตาของกทม.เข้ามาแทนที่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว
.เทคโนโลยีและสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) น.ต.ศิธา กล่าวว่า ขณะ
นี้สมาชิกบ้านเลขที่ 111ที่จะมาช่วยงานพรรคเพื่อไทยยังไม่มีความชัดเจน
จึงทำให้มีการคาดเดากันไป แต่เชื่อว่าสมาชิกฯส่วนใหญ่ยังมีอุดมการณ์
ร่วมกัน ในส่วนของตำแหน่ง รมต.นั้นตนก็ไม่ได้คาดหวังอะไร แล้วแต่
นายกฯจะเห็นว่าใครเหมาะสมอย่างไร
**ปรับปู 3 อย่าแย้ม เจ๋งกว่าปู
รายงานจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า สำหรับการปรับครม.ยิ่งลักษณ์ 3 นั้น
คาดว่าจะเป็นการนำทีมงานเพื่อมาเสริมการทำงานของนายกฯ โดยเฉพาะ
สมาชิกบ้านเลขที่ 111 ที่จะเข้ามา แต่จะต้องไม่มีภาพลักษณ์ที่เหนือกว่า
ตัวนายกรัฐมนตรี หรือเข้ามาแล้วมีศักยภาพชี้นำจนทำให้นายกฯ ดูด้อยลง
ไป
โดยขณะนี้มีแคนดิเดต 4 รายที่ถูกมองว่าเป็นตัวเต็งคือ นพ.พรหมินทร์
เลิศสุริย์เดช อดีตรมว.พลังงาน นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีตรมว
.คมนาคม นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรมว.ยุติธรรม และ นายภูมิธรรม
เวชยชัย อดีตรมช.คมนาคม เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ไม่โดดเด่นเกินหน้าน.ส
.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเป็นคนที่ทำงานมั่นคงอยู่กับพรรคมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทยนั้น
มีข้อจำกัดจากคาแรคเตอร์ที่โดดเด่นอยู่ในระดับเดียวกับนายกรัฐมนตรี
ฉะนั้นอาจจะต้องทำงานอยู่เบื้องหลัง หรือเป็นประธานที่ปรึกษานายกฯ
หรือประธานคณะทำงานชุดอื่นๆ แทน ขณะที่นายวราเทพ รัตนากร อดีต
รมช.คลัง ที่ถูกคาดหมายว่าจะได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น อาจจะต้องรอ
การปรับครม.ในครั้งถัดไป เนื่องจากที่ผ่านมาได้ส่งตัวแทนเข้าไปเป็น
รัฐมนตรีในรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์แล้ว อาทิ นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.คลัง
**ปชป.เชื่อห้ามใครเด่นกว่า'ปู'
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึง
กรณีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีที่อาจต้องใช้เวลาไปอีกระยะหนึ่ง ว่า
คงไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้เพราะอำนาจที่แท้จริง อยู่ที่ตัวพ.ต.ท
.ทักษิณ เห็นได้จากกลุ่มบุคคลที่ต้องการตำแหน่งคณะรัฐมนตรีต้องเดิน
ทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ แต่เพียงผู้เดียว และการที่นายกฯออกมาปฏิเสธ
เป็นระยะเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองไม่มีอำนาจที่แท้จริง
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการปรับครม.ครั้งนี้ก็จะไม่มีการนำเอาบุคคลโดดเด่น
ขึ้นค้นมาเป็นรัฐมนตรี เพราะกลัวจะข่มรัศมีตัวนายกรัฐมนตรี เช่น กรณี
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่คงจะหมดสิทธิ์เข้ามารับตำแหน่งครม.ชุด
ใหม่ เพราะหากเข้ามาจริง ความโดดเด่นทางการเมือง ประสบการณ์ และ
บุคลิกภาพเหนือกว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ทุกๆด้าน และยิ่งทำให้ภาพลักษณ์
นายกฯที่ตกต่ำอยู่แล้ว ตกต่ำไปอีก ทั้งนี้ด้วยเหตุผลดังกล่าวเชื่อได้ว่าคุณ
หญิงสุดารัตน์ก็รู้สถานการณ์เป็นอย่างดีจึงรีบปฏิเสธตำแหน่งใดในรัฐบาล
ก่อน