วานนี้( 29 เม.ย.) นายตวง อันทะไชย สมาชิกวุฒิสภา กล่าวคัดค้านการผลักดันนโยบายออกหวย 2-3 ตัวและตู้สลากอัตโนมัติของรัฐบาลว่า เป็นการพยายามต่อจากเมื่อปี 2549 ในสมัยรัฐบาลทักษิณ ภายใต้กรอบแนวคิดนำเรื่องหวยใต้ดินมาไว้บนดิน โดยไม่สนใจถึงผลกระทบทางสังคม วิถีชีวิตที่เกิดขึ้นจากการมอมเมาประชาชน รวมทั้งไม่มีผลการศึกษาว่า มันคุ้มค่ากันหรือไม่ ตอบโจทย์เรื่องผลได้ผลเสียเรื่องนี้ ตั้งแต่สมัยนั้นจนถึงตอนนี้ ยังไม่มีการตอบมาจนถึงปัจจุบัน ว่าผลที่ได้รับกับผลกระทบทางด้านสังคม อันไหนมีมากกว่ากัน
“วันนี้เราไม่มีผลการศึกษาที่ชัดเจนในเรื่องผลกระทบทางสังคม ที่เป็นงานวิจัย ทั้งที่มันเป็นเรื่องสากลทั่วโลก ที่จะต้องมีการศึกษาวิจัยอย่างชัดเจน ก่อนที่จะทำอะไรเพื่อออกมาเป็นนโยบาย และนำมาตอบคำถามสังคม เพื่อตอบโจทย์ว่ามันคุ้มหรือเสียต่อชีวิตคนไทย” นายตวง กล่าว
นายตวง กล่าวต่อว่า 4 ปีที่ผ่านมาจนมาถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่พยายามสานต่อเรื่องนี้ อย่าลืมว่าบริบททางสังคมมันต่างกันมาก จะเอาวิธีคิดของรัฐบาลมาตัดสินใจกำหนดว่าต้องดำเนินการไปเลยไม่ได้ แต่ต้องใช้งานวิจัยมาช่วย และที่สำคัญรัฐบาลชุดนี้จะต้องไม่ให้หน่วยงานของรัฐเข้ามาทำงานวิจัยเหมือนเมื่อ 4 ปีก่อน ที่มันไม่น่าเชื่อถือ เพราะได้คำตอบเพื่อตอบโจทย์ของคุณทักษิณเองเพียงเท่านั้น
“หากคิดจะทำแล้วทำเลย คงแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ ต้องมีผลการศึกษาที่เป็นกลางออกมารองรับ โดยไม่ทำศึกษาผ่านหน่วยงานรัฐ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานกระทรวง ทบวง กรม หรือสำนักนายกรัฐมนตรี เหมือนผลการวิจัย กาสิโนคอมเพล็กซ์ของรัฐบาลทักษิณ เพราะไม่มีใครยอมรับ แต่ต้องให้หน่วยงาน มหาวิทยาลัย นักวิชาการ ที่เป็นกลาง เข้ามารับหน้าที่ศึกษาวิจัย ไม่เช่นนั้นมันก็จะเป็นแค่การตอบโจทย์เพื่อฝ่ายการเมืองมันจะกลายเป็นผลกระทบต่อสังคมหนักมากขึ้น” นายตวง กล่าว
ส.ว.สรรหา กล่าวอีกว่า หากรัฐบาลคิดผลีผลามทำโดยไม่สนใจสังคม เพราะคิดว่า เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เหมารวมว่าประชาชนได้เลือกมาเพื่อให้มาเรื่องทำนี้ได้ โดยไม่มีผลการศึกษาที่น่าเชื่อถือ มันจะกลายเป็นบูมเมอแรงย้อนกลับมาทำลายรัฐบาล เช่นเดียวกับที่รัฐบาลทำลายสังคม เหมือนกรณีการเลือกตั้งที่จังหวัดปทุมธานี ทั้งนี้รัฐบาลนี้อาจเชื่อมั่น คิดว่าทำอะไรก็ได้ แต่อย่าลืมว่า ประชาชนคนไทยไม่ได้เลือกรัฐบาลยิ่งลักษณ์เพื่อมาทำเรื่องการพนัน
“วันนี้เราไม่มีผลการศึกษาที่ชัดเจนในเรื่องผลกระทบทางสังคม ที่เป็นงานวิจัย ทั้งที่มันเป็นเรื่องสากลทั่วโลก ที่จะต้องมีการศึกษาวิจัยอย่างชัดเจน ก่อนที่จะทำอะไรเพื่อออกมาเป็นนโยบาย และนำมาตอบคำถามสังคม เพื่อตอบโจทย์ว่ามันคุ้มหรือเสียต่อชีวิตคนไทย” นายตวง กล่าว
นายตวง กล่าวต่อว่า 4 ปีที่ผ่านมาจนมาถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่พยายามสานต่อเรื่องนี้ อย่าลืมว่าบริบททางสังคมมันต่างกันมาก จะเอาวิธีคิดของรัฐบาลมาตัดสินใจกำหนดว่าต้องดำเนินการไปเลยไม่ได้ แต่ต้องใช้งานวิจัยมาช่วย และที่สำคัญรัฐบาลชุดนี้จะต้องไม่ให้หน่วยงานของรัฐเข้ามาทำงานวิจัยเหมือนเมื่อ 4 ปีก่อน ที่มันไม่น่าเชื่อถือ เพราะได้คำตอบเพื่อตอบโจทย์ของคุณทักษิณเองเพียงเท่านั้น
“หากคิดจะทำแล้วทำเลย คงแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ ต้องมีผลการศึกษาที่เป็นกลางออกมารองรับ โดยไม่ทำศึกษาผ่านหน่วยงานรัฐ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานกระทรวง ทบวง กรม หรือสำนักนายกรัฐมนตรี เหมือนผลการวิจัย กาสิโนคอมเพล็กซ์ของรัฐบาลทักษิณ เพราะไม่มีใครยอมรับ แต่ต้องให้หน่วยงาน มหาวิทยาลัย นักวิชาการ ที่เป็นกลาง เข้ามารับหน้าที่ศึกษาวิจัย ไม่เช่นนั้นมันก็จะเป็นแค่การตอบโจทย์เพื่อฝ่ายการเมืองมันจะกลายเป็นผลกระทบต่อสังคมหนักมากขึ้น” นายตวง กล่าว
ส.ว.สรรหา กล่าวอีกว่า หากรัฐบาลคิดผลีผลามทำโดยไม่สนใจสังคม เพราะคิดว่า เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เหมารวมว่าประชาชนได้เลือกมาเพื่อให้มาเรื่องทำนี้ได้ โดยไม่มีผลการศึกษาที่น่าเชื่อถือ มันจะกลายเป็นบูมเมอแรงย้อนกลับมาทำลายรัฐบาล เช่นเดียวกับที่รัฐบาลทำลายสังคม เหมือนกรณีการเลือกตั้งที่จังหวัดปทุมธานี ทั้งนี้รัฐบาลนี้อาจเชื่อมั่น คิดว่าทำอะไรก็ได้ แต่อย่าลืมว่า ประชาชนคนไทยไม่ได้เลือกรัฐบาลยิ่งลักษณ์เพื่อมาทำเรื่องการพนัน