ปตท.สผ. โชว์กำไรสุทธิไตรมาส 1/55 พุ่งพรวด 64% แตะ 1.82 หมื่นล้านบาท สาเหตุจากราคาขายผลิตภัณฑ์สูงขึ้นอยู่ระดับ 64.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แม้ว่าปริมาณการขายเฉลี่ยลดลงเหลือ 2.53 แสนบาร์เรลต่อวัน เผยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาจะยื่นคำเสนอซื้อหุ้น Cove ในราคาที่สูงขึ้นหรือไม่ หลังเชลล์ปรับราคาเสนอซื้อเท่ากับปตท.สผ.
นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือปตท.สผ. เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2555 ว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,627 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า 50,448 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 317 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ 24 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1/ 2554 ซึ่งมีรายได้รวม 1,310 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ เทียบเท่า 40,011 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 589 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า 18,288 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 64 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 359 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า 10,979 ล้านบาท
โดยกำไรสุทธิไตรมาส 1/2555 จำนวน 589 ล้านดอลลาร์สหรัฐนี้ มาจากกำไรจากการดำเนินงานตามปกติ จำนวน 538 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และกำไรจากรายการ Non-Recurring จำนวน 51 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้นในไตรมาส 1/2555 เกิดจากรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น 320 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพราะราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยไตรมาสดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 64.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ เมื่อเปรียบเทียบกับราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยของไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ 49.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ
อย่างไรก็ตาม ปริมาณการขายเฉลี่ยสำหรับไตรมาส 1/ 2555 ลดลงเป็น 253,411 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณการขายเฉลี่ยช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 271,292 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน และรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 34 ล้านดอลลาร์ หรือ 1,064 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 63 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1,906 ล้านบาท
สาเหตุที่ปริมาณการขายที่ลดลงส่วนใหญ่เกิดจากโครงการอาทิตย์เหนือได้หยุดการผลิตตั้งแต่พ.ย. 2554 แต่โครงการเวียดนาม 16-1 มีปริมาณการขายน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น เนื่องจากเริ่มมีการขายน้ำมันดิบในไตรมาส 3 /2554 และโครงการ เอส1 มีปริมาณการขายน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากหลุมการผลิตใหม่และจากการใช้เทคนิค Beam Pumpในการผลิตน้ำมันดิบมากขึ้น
ส่วนความคืบหน้าการทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญที่ของบริษัท Cove Energy Plc. (Cove ) นั้น ขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางว่าจะมีการยื่นข้อเสนอสุดท้ายหรือไม่ หลังจากบริษัท Shell Exploration and Production (XL) B.V. ได้ปรับราคาเสนอซื้อหุ้นCoveที่ราคา 220 เพนซ์ต่อหุ้นเท่ากับราคาที่ปตท.สผ.เสนอซื้อก่อนหน้านี้ ซึ่งเดิมShell เคยเสนอซื้อราคาหุ้นละ 195 เพนซ์ต่อหุ้น คิดเป็นวงเงินที่ซื้อกิจการCove 1.12 พันล้านปอนด์
ทั้งนี้ Cove เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาด Alternative Investment Market (AIM) ใน ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีสินทรัพย์หลักคือการถือสัดส่วน 8.5% ในแปลงสัมปทาน Rovuma Offshore Area 1 สาธารณรัฐโมซัมบิก ซึ่งเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ และคาดว่า จะมีปริมาณสำรองราว 30 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต รวมถึงแหล่งน้ำมัน Black Pearl Prospect Cove ยังถือสัดส่วน 10% ในแปลงสัมปทาน Rovuma Onshore Area ในสาธารณรัฐโมซัมบิก รวมถึงการถือสัดส่วน 10-25% ในแปลงสัมปทานน้ำลึกอีก 7 แปลง ในเคนยาด้วย
นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือปตท.สผ. เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2555 ว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,627 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า 50,448 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 317 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ 24 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1/ 2554 ซึ่งมีรายได้รวม 1,310 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ เทียบเท่า 40,011 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 589 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า 18,288 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 64 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 359 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า 10,979 ล้านบาท
โดยกำไรสุทธิไตรมาส 1/2555 จำนวน 589 ล้านดอลลาร์สหรัฐนี้ มาจากกำไรจากการดำเนินงานตามปกติ จำนวน 538 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และกำไรจากรายการ Non-Recurring จำนวน 51 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้นในไตรมาส 1/2555 เกิดจากรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น 320 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพราะราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยไตรมาสดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 64.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ เมื่อเปรียบเทียบกับราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยของไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ 49.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ
อย่างไรก็ตาม ปริมาณการขายเฉลี่ยสำหรับไตรมาส 1/ 2555 ลดลงเป็น 253,411 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณการขายเฉลี่ยช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 271,292 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน และรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 34 ล้านดอลลาร์ หรือ 1,064 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 63 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1,906 ล้านบาท
สาเหตุที่ปริมาณการขายที่ลดลงส่วนใหญ่เกิดจากโครงการอาทิตย์เหนือได้หยุดการผลิตตั้งแต่พ.ย. 2554 แต่โครงการเวียดนาม 16-1 มีปริมาณการขายน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น เนื่องจากเริ่มมีการขายน้ำมันดิบในไตรมาส 3 /2554 และโครงการ เอส1 มีปริมาณการขายน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากหลุมการผลิตใหม่และจากการใช้เทคนิค Beam Pumpในการผลิตน้ำมันดิบมากขึ้น
ส่วนความคืบหน้าการทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญที่ของบริษัท Cove Energy Plc. (Cove ) นั้น ขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางว่าจะมีการยื่นข้อเสนอสุดท้ายหรือไม่ หลังจากบริษัท Shell Exploration and Production (XL) B.V. ได้ปรับราคาเสนอซื้อหุ้นCoveที่ราคา 220 เพนซ์ต่อหุ้นเท่ากับราคาที่ปตท.สผ.เสนอซื้อก่อนหน้านี้ ซึ่งเดิมShell เคยเสนอซื้อราคาหุ้นละ 195 เพนซ์ต่อหุ้น คิดเป็นวงเงินที่ซื้อกิจการCove 1.12 พันล้านปอนด์
ทั้งนี้ Cove เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาด Alternative Investment Market (AIM) ใน ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีสินทรัพย์หลักคือการถือสัดส่วน 8.5% ในแปลงสัมปทาน Rovuma Offshore Area 1 สาธารณรัฐโมซัมบิก ซึ่งเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ และคาดว่า จะมีปริมาณสำรองราว 30 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต รวมถึงแหล่งน้ำมัน Black Pearl Prospect Cove ยังถือสัดส่วน 10% ในแปลงสัมปทาน Rovuma Onshore Area ในสาธารณรัฐโมซัมบิก รวมถึงการถือสัดส่วน 10-25% ในแปลงสัมปทานน้ำลึกอีก 7 แปลง ในเคนยาด้วย
