xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.สผ.เพิ่มเป้าเอส1 หวังแผนวางรวมก๊าซผ่าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ผลิตไฟฟ้าราชบุรีฯเปิดโรงไฟฟ้าจากก๊าซฯที่เป็นผลพลอยได้จากการผลิตน้ำมันดิบแห่งที่ 2ในแหล่งเสาเถียร-เอ ขนาด 3.6เมกะวัตต์ มูลค่า 190 ล้านบาท จ่อขยายกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 4 เมกะวัตต์ที่แหล่งประดู่เฒ่า ด้านปตท.สผ.ตั้งเป้าผลิตน้ำมันแหล่งเอส 1 เพิ่มเป็น 3 หมื่นบาร์เรลต่อวัน และทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อวางท่อฯรวบรวมก๊าซฯจากแหล่งอื่นรอบโครงการเอส1 คาดได้ก๊าซฯเพิ่มเติม 10-15 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน
 

นายนพพล มิลินทรางกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)(RATCH) กล่าวในพิธีเปิดโครงการผลิตไฟฟ้าจากธรรมชาติ ที่เป็นผลพลอยได้จากการผลิตน้ำมันดิบแหล่งเสาเถียร-เอโดยมีนายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รมว.พลังงานเป็นประธานวานนี้(14 มี.ค.)ว่า โครงการนี้เป็นการดำเนินงานโครงการที่ 2 ต่อจากโครงการผลิตไฟฟ้าด้วยก๊าซธรรมชาติที่เป็นผลพลอยได้จากการผลิตน้ำมันดิบแหล่งประดู่เฒ่า ที่เริ่มดำเนินการเมื่อปี 2550 โดยทั้ง 2 โครงการมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 6.3 เมกะวัตต์ ช่วยลดปริมาณก๊าซธรรมชาติที่เผาทิ้ง 1.4 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และลดการนำเข้าน้ำมันเตาเพื่อผลิตไฟฟ้าได้ปีละ 10.5 ล้านลิตร คิดเป็นมูลค่าเงินที่ประหยัดได้ประมาณ 175 ล้านบาท และยังเป็นการเสริมระบบไฟฟ้าในท้องถิ่นด้วย
โดยโครงการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติแหล่งเสาเถียร - เอ เป็นโครงการโรงไฟฟ้าขนาดเล็กมาก ( VSPP) ขนาด 3.6 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการประมาณ 190 ล้านบาท สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 24 ล้านหน่วยต่อปี และยังถือว่าเป็นโครงการแรกที่สามารถขายซีดีเอ็ม จากที่ผลิตได้ประมาณ 31,000 ตันต่อปี หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาทต่อปี และเมื่อรวมทั้ง 2 โครงการจะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ปีละ 42 ล้านหน่วย
ทั้งนี้ หากบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)(ปตท.สผ.)มีปริมาณก๊าซธรรมชาติที่เป็นผลพลอยได้จากการผลิตน้ำมันดิบในแหล่งอื่นๆ ทางบริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรีฯก็พร้อมที่จะเข้าไปลงทุนติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพิ่มเติม โดยมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตไฟจากแหล่งประดู่เฒ่าจากเดิม 3 เมกะวัตต์เป็น 4 เมกะวัตต์ในเร็วๆนี้ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนแล้ว 102 เมกะวัตต์
นายไพโรจน์ แรงผลสัมฤทธิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่โครงการเอส 1 บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)หรือปตท.สผ. กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทฯมีแผนที่จะวางท่อขนาด 3-5 นิ้วเพื่อนำก๊าซธรรมชาติส่วนเกินที่ได้จากแหล่งผลิตน้ำมันในบริเวณรอบๆโครงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมสิริกิติ์หรือเอส 1 และบริเวณอ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย มารวมยัง.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชรในแหล่งเอส 1 คาดว่าจะได้ปริมาณก๊าซฯเพิ่มขึ้น 10-15 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน จากปัจจุบันที่แหล่งเอส 1มีกำลังการผลิตน้ำมันดิบอยู่ที่ 2.7 หมื่นบาร์เรล/วัน และก๊าซธรรมชาติ 22 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โดยโครงการดังกล่าวจะใช้เงินลงทุนประมาณ 600-700 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามการวางท่อเพื่อรวบรวมก๊าซฯจากหลุมผลิตต่างๆดังกล่าวข้างต้นต้องผ่านความเห็นชอบจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.)ก่อน ซึ่งบริษัทฯได้ทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมยื่นไปแล้วกว่า 1ปีแต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยหากสผ.อนุมัติรายงานผลกระทบสิงแวดล้อมก็จะใช้เวลาดำเนินการวางท่อฯอีก1ปี6 เดือนกว่าจะแล้วเสร็จ
นอกจากนี้ ปตท.สผ.ได้ตั้งเป้าหมายการผลิตน้ำมันดิบที่แหล่งเอส1 เพิ่มขึ้นจาก 2.7 หมื่นบาร์เรลต่อวันเป็น 3 หมื่นบาร์เรลต่อวันในปีนี้ โดยจะเจาะหลุมสำรวจเพิ่มเติมอีก ซึ่งก่อนหน้าที่ปตท.สผ.จะซื้อแหล่งเอส 1 จากทางไทยเชลล์ฯเคยผลิตน้ำมันดิบได้เพียง 1.9-2 หมื่นบาร์เรลต่อวัน ทำให้มีปริมาณก๊าซฯที่เป็นผลพลอยได้จากการผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นด้วย โดยปัจจุบันปริมาณก๊าซฯที่เป็นผลพลอยได้จากการผลิตน้ำมันดิบที่แหล่งเอส 1 ที่มีอยู่ 22 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันจะขายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อผลิตไฟฟ้าจำนวน 15 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และที่เหลือจะนำไปผลิตเป็นก๊าซฯ NGV
 
กำลังโหลดความคิดเห็น