พระนครศรีอยุธยา - เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้ภายในห้องสมุดของวัดพนัญเชิงวรวิหาร พระอารามหลวงชั้นโท ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งภายในมีการตกแต่งด้วยไม้สักทองทั้งหลัง ค่าเสียหายประมาณ 40 ล้านบาท เบื้องต้นคาดไฟฟ้าลัดวงจร ด้านกรมศิลป์ระบุเหตุเพลิงไหม้ไม่กระทบโบราณสถาน
วานนี้ ( 24 เม.ย.55) พ.ต.ท.โกศล ภาคาหาญ พงส.(สบ 3) สภ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเพลิงไหม้ภายในวัดพนัญเชิงวรวิหาร พระอารามหลวงชั้นโท หม่ 1 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เทศบาลนครศรีอยุธยา นำรถดับเพลิงจากเทศบาลและใกล้เคียงจำนวน 30 คันเข้าไปยังที่เกิดเหตุ
พบว่าเพลิงลุกไหม้อยู่ที่อาคารจัตุรมุข ซึ่งเป็นห้องสมุดสองชั้นครึ่งตึกครึ่งไม้ ด้านหลังอาคารโรงครัว ใกล้กับกุฎิของพระเทพรัตนากรเจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร และเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากอาคารดังกล่าวมีการใช้วัสดุส่วนใหญ่เป็นไม้ เจ้าหน้าที่พยายามฉีดน้ำสกัดเพื่อไม่ให้เพลิงลุกลามไปไหม้อาคารข้างเคียง ซึ่งการดับเพลิงเป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากมีกระแสลมกระโชก และมีสิ่งปลูกสร้างติดต่อกันจำนวนมาก จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้
จากการสอบสวนทราบว่าอาคารดังกล่าวยังไม่ได้เปิดให้ใช้งาน ระหว่างเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ เกิดเสียงคล้ายระเบิดที่ชั้นสองของอาคาร แล้วลุกลามลงมาชั้นล่างอย่างรวดเร็ว พระเทพรัตนากร เจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงและเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่าอาคารดังกล่าวเป็นอาคารที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นห้องสมุด และตั้งใจที่จะเปิดให้ประชาชนและพระสงฆ์เข้าไปใช้ โดยชั้นบนได้เก็บตู้พระธรรม พระไตปิฎกโบราณ และหนังสือเก่าแก่มากมาย ส่วนชั้นล่างเป็นห้องโถงกว้าง ภายในมีการตกแต่งด้วยไม้สักทองทั้งหลัง ค่าเสียหายประมาณ 40 ล้านบาท เบื้องต้นสันนิษฐานว่า น่าจะเกิดจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร
ด้านนายชัยนันท์ บุษยรัตน์ ผอ.อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สถานการณ์ไฟไหม้กุฏิสงฆ์ วัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แต่ยังไม่ทราบสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าว ในเบื้องต้นได้มีการตรวจสอบความเสียหาย พบไฟไหม้กุฏิสงฆ์ในวัดพนัญเชิง จำนวน 2 หลัง หลังแรกไฟไหม้หลังคาและตัวกุฏิเสียหายเกือบทั้งหมดโดยหลังคาได้พังทลายลงมา เนื่องจากเป็นโครงสร้างไม้ ส่วนอีกหลังหนึ่ง ได้รับความเสียหายบางส่วนแต่อยู่ในลักษณะที่ใช้งานไม่ได้แล้ว โดยภาพรวมมีความเสียหายทั้ง 2 หลัง อย่างไรก็ตาม กุฎิสงฆ์ทั้ง 2 หลังเป็นกุฏิไม้หลังใหม่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำห่างจากวิหารหลวงพ่อโตซึ่งเป็นโบราณสถานของวัดพนัญเชิง ประมาณ 300 เมตร การตรวจสอบเบื้องต้น ไม่มีผลกระทบต่อโบราณสถาน ประเมินความเสียหายเบื้องต้นอยู่ 3-5 ล้านบาท
นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ตนได้รับรายงานจากสำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา เกี่ยวกับ ไฟไหม้วัดพนัญเชิงแล้ว ทราบว่า โบราณสถานไม่ได้รับความเสียหาย มีเพียงกุฏิสงฆ์เท่านั้นที่ได้รับความเสียหาย ส่วนสาเหตุนั้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแล้ว พบว่า มาจากไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตาม กรมศิลปากรจะเข้าไปช่วยทางวัดดูแลเกี่ยวกับความเสียหายอีกครั้ง
วานนี้ ( 24 เม.ย.55) พ.ต.ท.โกศล ภาคาหาญ พงส.(สบ 3) สภ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเพลิงไหม้ภายในวัดพนัญเชิงวรวิหาร พระอารามหลวงชั้นโท หม่ 1 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เทศบาลนครศรีอยุธยา นำรถดับเพลิงจากเทศบาลและใกล้เคียงจำนวน 30 คันเข้าไปยังที่เกิดเหตุ
พบว่าเพลิงลุกไหม้อยู่ที่อาคารจัตุรมุข ซึ่งเป็นห้องสมุดสองชั้นครึ่งตึกครึ่งไม้ ด้านหลังอาคารโรงครัว ใกล้กับกุฎิของพระเทพรัตนากรเจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร และเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากอาคารดังกล่าวมีการใช้วัสดุส่วนใหญ่เป็นไม้ เจ้าหน้าที่พยายามฉีดน้ำสกัดเพื่อไม่ให้เพลิงลุกลามไปไหม้อาคารข้างเคียง ซึ่งการดับเพลิงเป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากมีกระแสลมกระโชก และมีสิ่งปลูกสร้างติดต่อกันจำนวนมาก จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้
จากการสอบสวนทราบว่าอาคารดังกล่าวยังไม่ได้เปิดให้ใช้งาน ระหว่างเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ เกิดเสียงคล้ายระเบิดที่ชั้นสองของอาคาร แล้วลุกลามลงมาชั้นล่างอย่างรวดเร็ว พระเทพรัตนากร เจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงและเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่าอาคารดังกล่าวเป็นอาคารที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นห้องสมุด และตั้งใจที่จะเปิดให้ประชาชนและพระสงฆ์เข้าไปใช้ โดยชั้นบนได้เก็บตู้พระธรรม พระไตปิฎกโบราณ และหนังสือเก่าแก่มากมาย ส่วนชั้นล่างเป็นห้องโถงกว้าง ภายในมีการตกแต่งด้วยไม้สักทองทั้งหลัง ค่าเสียหายประมาณ 40 ล้านบาท เบื้องต้นสันนิษฐานว่า น่าจะเกิดจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร
ด้านนายชัยนันท์ บุษยรัตน์ ผอ.อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สถานการณ์ไฟไหม้กุฏิสงฆ์ วัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แต่ยังไม่ทราบสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าว ในเบื้องต้นได้มีการตรวจสอบความเสียหาย พบไฟไหม้กุฏิสงฆ์ในวัดพนัญเชิง จำนวน 2 หลัง หลังแรกไฟไหม้หลังคาและตัวกุฏิเสียหายเกือบทั้งหมดโดยหลังคาได้พังทลายลงมา เนื่องจากเป็นโครงสร้างไม้ ส่วนอีกหลังหนึ่ง ได้รับความเสียหายบางส่วนแต่อยู่ในลักษณะที่ใช้งานไม่ได้แล้ว โดยภาพรวมมีความเสียหายทั้ง 2 หลัง อย่างไรก็ตาม กุฎิสงฆ์ทั้ง 2 หลังเป็นกุฏิไม้หลังใหม่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำห่างจากวิหารหลวงพ่อโตซึ่งเป็นโบราณสถานของวัดพนัญเชิง ประมาณ 300 เมตร การตรวจสอบเบื้องต้น ไม่มีผลกระทบต่อโบราณสถาน ประเมินความเสียหายเบื้องต้นอยู่ 3-5 ล้านบาท
นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ตนได้รับรายงานจากสำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา เกี่ยวกับ ไฟไหม้วัดพนัญเชิงแล้ว ทราบว่า โบราณสถานไม่ได้รับความเสียหาย มีเพียงกุฏิสงฆ์เท่านั้นที่ได้รับความเสียหาย ส่วนสาเหตุนั้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแล้ว พบว่า มาจากไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตาม กรมศิลปากรจะเข้าไปช่วยทางวัดดูแลเกี่ยวกับความเสียหายอีกครั้ง