กระบี่ - ชาวบ้านทับปริกรวมตัวขับไล่รักษาการเจ้าอาวาสวัดในช่อง อ.เมือง จ.กระบี่ ออกจากพื้นที่ หลังพบมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม นำลูกเณรตั้งตู้บริจาคออกเรี่ยไรเงิน ก่อนนำของบริจาคไปขาย ด้านรักษาการเจ้าอาวาสเก็บตัวเงียบในกุฏินานกว่า 3 ชั่วโมง ไม่ยอมออกมาพบชาวบ้าน ผู้ใหญ่บ้านเตรียมยื่นเรื่องให้เจ้าคณะจังหวัดดำเนินการ
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 20 เมษายน 2555 ชาวบ้าน ม.1 และม.2 ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ จำนวนประมาณ 50 คน ได้รวมตัวกันที่วัดในช่อง ม.2 ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ เพื่อขับไล่พระธำรงค์รัตน์ ญาณสิทฺโธ หรือหลวงอ้วน อายุ 33 ปี รักษาการเจ้าอาวาสวัดในช่อง หลังพบมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
แต่ขณะที่ชาวบ้านไปถึง รักษาการเจ้าอาวาสก็เข้าไปเก็บตัวในกุฏิเป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ไม่ยอมออกมาพบชาวบ้าน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกระบี่ มาคอยรักษาความสงบเรียบร้อยป้องกันเหตุวุ่นวาย จนกระทั่งชาวบ้านรอไม่ไหวจึงทยอยเดินทางกลับ และจะนัดมารวมตัวใหม่อีกครั้งหากยังไม่ยอมออกจากพื้นที่
นางจิตรา นวลวิจิตร อายุ 41 ปี ชาวบ้าน ต.ทับปริก กล่าวว่า สาเหตุที่ชาวบ้านรวมตัวขับไล่รักษาการเจ้าวาสออกจากพื้นที่ เนื่องจากรักษาการเจ้าอาวาสรายนี้ มีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเงินทุกรายการแม้ไม่ใช่กิจของสงฆ์ เช่น เรียกเก็บค่าไฟจากแม่ค้าที่มาขายของในงานศพ ทั้งที่เจ้าภาพรับผิดชอบแล้ว นำพระลูกเณรออกไปตั้งตู้บริจาคตามตลาด ก่อนนำสิ่งของที่ชาวบ้านบริจาคไปขายตามงานต่างๆ ด้วย และยังขอเงินบริจาคซื้อรถยนต์ด้วย จนทำให้ชาวบ้านเอือมระอา ไม่เข้ามาทำบุญที่วัดอีกเลย
ด้านนายบุญฤกษ์ เต้บำรุง ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 กล่าวว่า พระธำรงค์รัตน์ฯ รักษาการเจ้าอาวาส เข้ามาประจำที่วัดในช่องได้ประมาณ 2 ปี แต่ พอมาทำหน้าที่รักษาการเจ้าอาวาสก็มีพฤติกรรมเกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ เรียกเก็บค่าหัวคิวผู้รับเหมาบ้าง ทำทุกทางเพื่อให้ได้เงิน ทำให้ชาวบ้านเอือมระอา และไม่กล้าเข้าวัด หลังจากนี้จะต้องเรียกประชุมคณะกรรมการวัด และแจ้งให้ทางเจ้าคณะจังหวัดรับทราบเพื่อหาทางแก้ไขต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากที่ชาวบ้านมารวมตัวกันที่หน้ากุฎิ รักษาการเจ้าอาวาสวัดในช่องก็เก็บตัวเงียบ ส่วนชาวบ้านที่มารวมตัวกันต่างก็ไม่กล้าเข้าไปในกุฎิ โดยในกุฏิมีเพียงรักษาการเจ้าอาวาส และเณรลูกวัดรายหนึ่งเท่านั้น
