สมาชิก อบต.นาโต๊ะหมิง บุกยื่นถอดถอน ผญบ.

ตรัง - สมาชิกสภา อบต.นาโต๊ะหมิง อ.เมืองตรัง เดือด ระบุถูก ผญบ.กลั่นแกล้ง รวมตัวบุกอำเภอยื่นหนังสือร้องเรียน พร้อมรายชื่อถอดถอนจากชาวบ้าน อ้างประพฤติตัวไม่เหมาะสม

วันนี้ (16 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.นายสมชิต ท่าจีน กำนัน ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมืองตรัง พร้อมด้วย นายทวีป อั้นทอง นายวิชาญ ดำคงเพชร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หมู่ที่ 3 และชาวบ้าน ต.นาโต๊ะหมิง ประมาณ 20 คน ได้เดินทางมายื่นหนังสือเพื่อขอถอดถอนนายวรรณะ เพชรศรีช่วง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 ต.นาโต๊ะหมิง ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากมีความประพฤติไม่เหมาะสม แต่ นายนิพันธ์ ศิริธร นายอำเภอเมืองตรัง ติดภารกิจ จึงมอบหมายให้นายสกล จริงจิตร ปลัดอำเภอ รับเรื่องแทน

นายวิชาญ ดำคงเพชร ส.อบต.นาโต๊ะหมิง ตัวแทนชาวบ้าน หมู่ที่ 3 ต.นาโต๊ะหมิง กล่าวว่า ที่ผ่านมาพวกตน ในฐานะคณะกรรมการโรงกรองน้ำดื่ม ได้ถูกนายวรรณะ ทำหนังสือร้องเรียนไปยังนายภิญโญ ยอดทอง ผอ.โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 39 บ้านนาโต๊ะหมิง โดยกล่าวหาว่าชาวบ้าน หมู่ที่ 3 จำนวน 1,000 คน ไม่พอใจที่พวกตนไปตัดต้นหูกวาง อายุประมาณ 70 ปี ที่ปลูกเอาไว้ที่โรงเรียนบ้านห้วยเหรียงทิ้ง โดยไม่ได้ปรึกษาครู ผู้นำท้องที่ ถือเป็นการทำโดยอิทธิพลและพลการ อีกทั้งยังโค่นกอไผ่ 2 กอใหญ่ ที่มีอายุประมาณ 70 ปี ทิ้งด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ ในความเป็นจริงพวกตนเห็นว่า กิ่งของต้นหูกวางดังกล่าว ได้หล่นใส่หลังคาโรงกรองน้ำดื่มอยู่บ่อยครั้ง จนทำให้กระเบื้องของหลังคาแตกเสียหาย จึงได้ใช้ให้คนมาตัดโค่นต้นหูกวางทิ้ง โดยที่ไม่ทราบเรื่องแต่อย่างใด และต่อมาได้มีหลายฝ่ายพยายามเข้ามาไกล่เกลี่ยให้เรื่องจบลง เพราะเห็นว่าเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน แต่นายวรรณะ ไม่ยอม จึงได้หนังสือร้องเรียนพวกตนอีกเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 6 มี.ค.55

ต่อมา นายภิญโญ ได้เรียกพวกตนเข้าไปสอบถามข้อเท็จจริง จากนั้นได้สั่งการให้รองผู้อำนวยการโรงเรียนลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมกับถ่ายภาพเป็นหลักฐาน ก่อนจะลงความเห็นว่า สมควรให้โค่นต้นหูกวางต้นดังกล่าวทิ้ง เพราะกีดขวางอาคารจริง และอาจทำให้หลังคาโรงกรองน้ำดื่มของหมู่บ้านที่ชำรุดอยู่แล้ว ได้รับความเสียหายยิ่งขึ้น จนทำให้ นายวรรณะ ไม่พอใจ พยายามกลั่นแกล้ง และร้องเรียนพวกตนอีกหลายครั้ง พร้อมทั้งพยายามใช้ชาวบ้านเป็นเครื่องมือ ในการถอดถอนพวกตนทั้ง 2 คน ออกจากตำแหน่ง

ซึ่งจากพฤติกรรมดังกล่าว ทำให้ตนทนไม่ได้ที่ถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรม ทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงได้ปรึกษากับชาวบ้าน และลงความเห็นว่าสมควรให้เปิดการประชุม เมื่อวันที่ 8 มี.ค.55 ผลปรากฏว่า ชาวบ้าน จำนวน 423 คน ได้ลงมติและลงชื่อขอถอดถอน นายวรรณะ ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับการเป็นผู้นำหลายเรื่อง ทั้งเรื่องการเตะถ่วงโครงการพัฒนาของหมู่บ้าน อาทิ โครงการเศรษฐกิจชุมชนของ อบต.นาโต๊ะหมิง ที่อนุมัติงบให้หมู่บ้านละ 1 แสนบาท เพื่อให้ชาวบ้านกู้ยืมไปซื้อปุ๋ยมาใช้ และเมื่อครบกำหนด 5 ปี อบต.จะเรียกคืนเงิน แล้วให้กู้ใหม่ แต่ทางนายวรรณะ กลับไม่ยอมดำเนินการใดๆ จนทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน

นอกจากนั้น ยังมีโครงการ SML ที่รัฐบาลอนุมัติงบมาให้หมู่ที่ 3 จำนวน 5 แสนบาท แต่นายวรรณะ กลับเรียกประชุมชาวบ้าน โดยคัดเลือกเฉพาะพวกพ้องของตนเท่านั้น และยังเสนอโครงการจัดทำโรงผลิตน้ำดื่มหมู่บ้าน ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดระเบียบ เพราะต้องออกหนังสือเชิญทุกครัวเรือนมาประชุมร่วมกัน อีกทั้งยังควรนำงบไปสร้างลานกีฬาแทน เนื่องจากในหมู่บ้านมีโรงผลิตน้ำดื่มอยู่แล้ว ซึ่งผลปรากฏว่า ในที่ประชุมครั้งใหม่ เสียงส่วนใหญ่มีมติให้สร้างลานกีฬาตามที่พวกตนเสนอ จึงสร้างความไม่พอใจให้กับ นายวรรณะ อย่างมาก

ด้าน นายสกล จริงจิตร ปลัดอำเภอเมืองตรัง กล่าวว่า จะรับหนังสือไปทำบันทึกเสนอต่อนายอำเภอเมืองตรัง พร้อมกับแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง และตรวจสอบรายชื่อของชาวบ้านทั้ง 423 รายชื่อที่ยื่นถอดถอนนายวรรณะว่ามีตัวตนอยู่ในพื้นที่จริงหรือไม่ เพราะตามกฎหมายแล้วระบุไว้ว่า ถ้าหากชาวบ้านมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนประชากรในพื้นที่นั้นๆ สามารถยื่นถอดถอนผู้ใหญ่บ้านได้ และถ้าหากการตรวจสอบรายชื่อทั้งหมดแล้วมีความถูกต้อง นายวรรณะก็ต้องยอมออกจากการเป็นผู้ใหญ่บ้านทันทีโดยไม่มีข้อแม้

ส่วนการดำเนินการตามขั้นตอนของอำเภอเมืองตรังจะแล้วเสร็จเมื่อใดนั้น หากชาวบ้านให้ความร่วมมือก็คาดว่า น่าจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 1 เดือน แต่ปัญหาที่พบส่วนใหญ่ก็คือ เมื่อเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปตรวจสอบแล้ว มักจะไม่มีเจ้าบ้านที่มีรายชื่อในหนังสือร้องเรียนอยู่บ้าน ซึ่งจากปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ถือว่าไม่ได้เป็นครั้งแรก แต่ได้เกิดขึ้นมาแล้วถึง 2 ครั้งด้วยกัน โดยทางอำเภอจะเร่งหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป