อดีตที่ปรึกษาด้านการเงินแบงก์กรุงเทพฯ หันลุยธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ เล็งงัดแลนด์แบงก์ผุดโครงการอสังหาฯ ประเดิมผุดบิ๊กโปรเจกต์มูลค่าหมื่นล้าน “ยูนิก้า พัทยา” บนเนื้อที่กว่า 50 ไร่
นายเดช นำศิริกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยูเนี่ยน พัทยา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด อดีตที่ปรึกษาด้านการเงิน ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่เคยร่วมทุนกับกลุ่มเจ้าสัวนายชาตรี โสภณพนิช ประธานกรรมการ ธนาคารกรุงเทพฯ กลุ่มเพื่อน และผู้ประกอบการในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง ประกอบกับเป็นคนชอบสะสมที่ดินมาเป็นเวลานาน
ปัจจุบันมีหลายสิบแปลง ทั้งในกรุงเทพฯ เมืองท่องเที่ยวและหัวเมืองขนาดใหญ่ อาทิ ย่านลาดพร้าวมี 7-8 แปลง ขนาดตั้งแต่ 1 ไร่ไปจนถึง 4-5 ไร่, พัทยา 50 ไร่, ตัวเมืองภูเก็ต ขนาด 10 ไร่, เกาะสิเหร่า 20 ไร่, เกาะสมุย 30 ไร่ และอ.เมืองนครปฐมอีกกว่า 2,500 ไร่ เป็นต้น
ดังนั้น ตนจึงมีแผนนำที่ดินมาพัฒนาโครงการอสังหาฯหลากหลายรูปแบบ ภายใต้บริษัท ยูเนี่ยน พัทยา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท โดยมีผู้ถือหุ้น 3 กลุ่มหลักได้แก่ กลุ่มตนถือรวมกว่า 50%, กลุ่มนายสุวรรณ ไพศาลเฟื้องฟุ้ง ประธานบริหาร บริษัท รุ่งฟ้าเสริม ที่ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างสัดส่วนกว่า 20% , ที่เหลือนายมานะ พจชมานะวงศ์ เจ้าของภัตตาคารเชียงการีล่า เพื่อพัฒนาที่ดินขนาด 50 ไร่ในพัทยาใต้ ติดถนนสุขุมวิทด้านหลังบิ๊กซี ภายใต้ชื่อ "ยูนิกก้า พัทยา" ซึ่งภายในโครงการจะประกอบด้วย โครงการคอนโดมิเนียม จำนวน 3 อาคาร กว่า 1,500 ยูนิต บนเนื้อที่ 7 ไร่ มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท เปิดเฟสแรก 1 อาคารสูง 29 ชั้นจำนวน 536 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.5 หมื่นบาท/ตร.ม. หรือ 1.19 -2.5 ล้านบาท มูลค่าขายรวม 960 ล้านบาท โดยจะเปิดให้จองในวันที่ 28 เมษายนนี้
โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนด้านสินเชื่อก่อสร้างจากธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ในวงเงิน 400 กว่าล้านบาท บริหารงานขายโดย บริษัท เน็กซัส พร็อพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ส่วนอาคารที่ 2 จะเปิดขายประมาณเดือนก.พ.-มี.ค.ปี56 เป็นคอนโดฯสูง 25 ชั้น จำนวน 429 ยูนิต ราคาจะสูงกว่าเฟสแรกกว่า 20% มูลค่าโครงการกว่า 900 ล้านบาท ส่วนเฟส 3 เป็นคอนโดฯสูง 32 ชั้น รวมกว่า 500 ยูนิต ซึ่งทั้ง 2 อาคารดังกล่าวจะเป็นการพัฒนาควบคู่กับการนำที่ดินอีก 28 ไร่
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนพัฒนาคอมแพล็กซ์ สูง 5-6 ชั้นขนาด 60,000 ตร.ม. ภายใต้คอนเซ็ปต์เมืองท่องเที่ยว, ศูนย์การค้าอินโด-ไชน่า บนเนื้อที่กว่า 8 ไร่ซึ่งจะรวบสินค้าจากประเทศต่างๆในอินโดจีน โดยมอบหมายให้กลุ่มบริษัท อนันดา การท่องเที่ยวเป็นผู้ดำเนินการ เนื่องจากมีพันธมิตรการท่องเที่ยวจำนวนมาก สามารถนำทัวร์มายังศูนย์การค้าได้ ทั้งนี้ การพัฒนาโครงการดังกล่าวจะแล้วเสร็จทั้งโครงการประมาณ 8 ปี มูลค่าโครงการรวมกว่า10,000 ล้านบาท
นายเดช นำศิริกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยูเนี่ยน พัทยา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด อดีตที่ปรึกษาด้านการเงิน ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่เคยร่วมทุนกับกลุ่มเจ้าสัวนายชาตรี โสภณพนิช ประธานกรรมการ ธนาคารกรุงเทพฯ กลุ่มเพื่อน และผู้ประกอบการในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง ประกอบกับเป็นคนชอบสะสมที่ดินมาเป็นเวลานาน
ปัจจุบันมีหลายสิบแปลง ทั้งในกรุงเทพฯ เมืองท่องเที่ยวและหัวเมืองขนาดใหญ่ อาทิ ย่านลาดพร้าวมี 7-8 แปลง ขนาดตั้งแต่ 1 ไร่ไปจนถึง 4-5 ไร่, พัทยา 50 ไร่, ตัวเมืองภูเก็ต ขนาด 10 ไร่, เกาะสิเหร่า 20 ไร่, เกาะสมุย 30 ไร่ และอ.เมืองนครปฐมอีกกว่า 2,500 ไร่ เป็นต้น
ดังนั้น ตนจึงมีแผนนำที่ดินมาพัฒนาโครงการอสังหาฯหลากหลายรูปแบบ ภายใต้บริษัท ยูเนี่ยน พัทยา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท โดยมีผู้ถือหุ้น 3 กลุ่มหลักได้แก่ กลุ่มตนถือรวมกว่า 50%, กลุ่มนายสุวรรณ ไพศาลเฟื้องฟุ้ง ประธานบริหาร บริษัท รุ่งฟ้าเสริม ที่ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างสัดส่วนกว่า 20% , ที่เหลือนายมานะ พจชมานะวงศ์ เจ้าของภัตตาคารเชียงการีล่า เพื่อพัฒนาที่ดินขนาด 50 ไร่ในพัทยาใต้ ติดถนนสุขุมวิทด้านหลังบิ๊กซี ภายใต้ชื่อ "ยูนิกก้า พัทยา" ซึ่งภายในโครงการจะประกอบด้วย โครงการคอนโดมิเนียม จำนวน 3 อาคาร กว่า 1,500 ยูนิต บนเนื้อที่ 7 ไร่ มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท เปิดเฟสแรก 1 อาคารสูง 29 ชั้นจำนวน 536 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.5 หมื่นบาท/ตร.ม. หรือ 1.19 -2.5 ล้านบาท มูลค่าขายรวม 960 ล้านบาท โดยจะเปิดให้จองในวันที่ 28 เมษายนนี้
โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนด้านสินเชื่อก่อสร้างจากธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ในวงเงิน 400 กว่าล้านบาท บริหารงานขายโดย บริษัท เน็กซัส พร็อพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ส่วนอาคารที่ 2 จะเปิดขายประมาณเดือนก.พ.-มี.ค.ปี56 เป็นคอนโดฯสูง 25 ชั้น จำนวน 429 ยูนิต ราคาจะสูงกว่าเฟสแรกกว่า 20% มูลค่าโครงการกว่า 900 ล้านบาท ส่วนเฟส 3 เป็นคอนโดฯสูง 32 ชั้น รวมกว่า 500 ยูนิต ซึ่งทั้ง 2 อาคารดังกล่าวจะเป็นการพัฒนาควบคู่กับการนำที่ดินอีก 28 ไร่
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนพัฒนาคอมแพล็กซ์ สูง 5-6 ชั้นขนาด 60,000 ตร.ม. ภายใต้คอนเซ็ปต์เมืองท่องเที่ยว, ศูนย์การค้าอินโด-ไชน่า บนเนื้อที่กว่า 8 ไร่ซึ่งจะรวบสินค้าจากประเทศต่างๆในอินโดจีน โดยมอบหมายให้กลุ่มบริษัท อนันดา การท่องเที่ยวเป็นผู้ดำเนินการ เนื่องจากมีพันธมิตรการท่องเที่ยวจำนวนมาก สามารถนำทัวร์มายังศูนย์การค้าได้ ทั้งนี้ การพัฒนาโครงการดังกล่าวจะแล้วเสร็จทั้งโครงการประมาณ 8 ปี มูลค่าโครงการรวมกว่า10,000 ล้านบาท
