ASTVผู้จัดการรายวัน-“ณัฐ" ลูกชายบัญญัติ แอ่นอกรับดูภาพโป๊กลางสภา อ้างแค่เปิดดู เพื่อชี้แจงคำถามโซเชียลมีเดีย หลังภาพสยิวอล่างฉ่างโผล่กลางสภา ส่วนผลสอบภาพหลุด "คัมภีร์" ป้องลูกน้อง อ้างถูกแฮก แต่ "พิทูร"เชื่อเป็นฝีมือเจ้าหน้าที่ ลั่นหาคนผิดไม่ได้ เจอลงโทษยกเข่ง "ชูวิทย์"คาดเจ้าหน้าที่ทำภาพหลุด ไม่เกี่ยวถูกแฮก แฉ ส.ส. ในสภาเลวกว่าที่คิดไว้เยอะ ทั้งนอนกรน ดูโพยบอล
กรณีภาพโป๊หลุดกลางที่ประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ข้าราชการทั้งฝ่ายประจำและฝ่ายการเมืองของรัฐสภา สั่งตรวจสอบหาความชัดเจนว่า เป็นเพราะถูกแทรกแซงระบบ (แฮกเกอร์) หรือความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่สภาฯ ที่ควบคุมห้องโสตนำภาพลามกขึ้นเผยแพร่โดยไม่ได้ตั้งใจ
ล่าสุด วานนี้ (19 เม.ย.) นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร รับผิดชอบงานด้านโสตของรัฐสภา นำผู้สื่อข่าวตรวจสอบระบบและการทำงานภายในห้องคอนโทรลภาพและเสียงของเจ้าหน้าที่ ซึ่งระบุว่าโอกาสที่จะเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่มีน้อย เพราะมีระบบการควบคุมการทำงานอย่างดี ดังนั้น อาจจะถูกแทรกแซงระบบ หรือ แฮกเกอร์มากกว่า เพราะว่าเป็นระบบไวไฟ และจอพลาสมาที่รับสัญญาณนั้น สามารถรับสัญญาณจากภายนอกได้
ช่วงบ่ายนายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือเจ้าหน้าที่ ต้องหาคนผิดมาลงโทษให้ได้ เพราะเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อภาพพจน์ของรัฐสภาค่อนข้างมาก แต่หากหาไม่ได้ก็ต้องลงโทษแบบเหมายกเข่ง
ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายพิทูรได้ให้ความสำคัญและให้มีการเร่งรัดเรื่องนี้ เนื่องจากสังคมให้ความสนใจ โดยจะสอบสวนใน 2 ประเด็น คือ เรื่องคน กับเรื่องเทคนิค ซึ่งหากเป็นความผิดพลาดที่คนเข้าใจว่าคงไม่มีความตั้งใจ เพราะการทำให้สำนักงานเสื่อมเสียมีโทษร้ายแรง สำหรับผลสอบที่ออกมาต้องมีการรายงานตามลำดับชั้น คือ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรต้องรู้ก่อน
จากนั้น ที่ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ 205 อาคาร2 รัฐสภา นายคัมภีร์ได้เรียกประชุมด่วนข้าราชการระดับ ผอ.สำนัก ผอ.กลุ่มงานที่เกี่ยวข้องกับระบบการถ่ายทอดสัญญาณในห้องประชุมรัฐสภา โดยได้ประชุมอย่างเคร่งเครียด กว่า 3 ชั่วโมง จากนั้น นายคัมภีร์กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ได้รายงานความคืบหน้าการสอบสวนให้ประธานรัฐสภาและเลขาธิการสภาฯ ถึงการดำเนินการสอบสวนของคณะกรรมการฯ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ เรื่องตัวบุคคล ที่เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีข้อบกพร่อง ดังนั้น ต้องนำซอฟแวร์ห้องคอนโทรลไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในวันที่ 23 เม.ย.นี้ อีกส่วน คือ ต้องตรวจสอบว่ามีการแฮกเกอร์ข้อมูลหรือไม่
ด้านนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ได้สั่งรองเลขาฯ สภาฯ ฝ่ายโสตทัศนูปกรณ์และสารนิเทศตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน ต้องรอให้มีการตรวจสอบให้เสร็จสิ้นก่อนว่าเป็นความผิดของผู้ใด หรือมีการแฮกเกอร์ป่วนระบบ โดยจะใช้เวลาตรวจให้เร็วที่สุด ถ้าเรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับส.ส.ก็ต้องมีการสอบจริยธรรม ส่วนการตรวจสอบ หากพบว่าเป็นการแฮกข้อมูลจริงจะมีการประสานงานไปยังกระทรวงไอซีทีเพื่อหามาตรการป้องกันหรือไม่นั้น ต้องดูว่าทางสภาฯ มีระบบป้องกันมากน้อยแค่ไหน แต่ในรายละเอียดยังไม่ทราบต้องรอการตรวจสอบข้อเท็จจริง
“ขอเวลา 2 วัน และถ้าสรุปได้ว่าเป็นความผิดของใคร หากเป็นการแทรกสัญญาณจากภายนอก ก็ต้องหาวิธีป้องกัน แต่หากเป็นความผิดของเจ้าหน้าที่ ก็ต้องลงโทษตามระเบียบวินัย”ประธานสภาฯกล่าว
นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่า น่าจะเป็นความผิดพลาดทางเทคนิค โดย รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่กำลังสอบสวนข้อเท็จจริง ก็น่าจะมีรายละเอียดชัดเจนขึ้นว่า มีความผิดพลาดด้านไหน อย่างไรก็ตาม เรื่องเทคโนโลยี ต้องระมัดระวัง เพราะมีความรวดเร็วมาก ต้องควบคุมการใช้ ซึ่งภาพเช่นนี้ อาจมาจากภายนอก แต่โอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก ทั้งนี้ หากผิดที่เจ้าหน้าที่ ก็ถือว่าไม่ตั้งใจ โทษคงไม่ถึงขั้นไล่ออก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทาง Blue Sky Channel ว่า ขณะนั้นตนอยู่ในห้องทำงาน ไม่ได้อยู่ในห้องประชุม แต่ก็มีส.ส.รีบขึ้นมาบอก แล้วก็มีการพูดกันในสภาฯ จริงๆ แล้วเรื่องนี้ก็ไม่ควรจะเกิดขึ้น อดคิดไม่ได้เหมือนกันว่า ถ้าไม่มีเรื่องนี้ ไม่ทราบการประชุมสภาฯ เมื่อวานจะเป็นข่าวบ้างหรือเปล่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่สื่อต่างประเทศ เช่น บีบีซี เอเอฟพี สกายนิวส์ เดลีเทเลกราฟ พร้อมใจเสนอข่าวภาพสาวดาวโป๊โผล่กลางสภาระหว่างการอภิปรายแก้ไขรัฐธรรมนูญ จนถึงกับต้องระงับการประชุมไปชั่วขณะ
**คาดเจ้าหน้าที่ทำภาพหลุดไม่เกี่ยวแฮก
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย กล่าวถึงกรณีที่มีภาพไม่เหมาะสมหลุดออกมาระหว่างการประชุมร่วมรัฐสภาว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ภายในห้องควบคุมอาจจะเปิดภาพดังกล่าวดูแล้วเกิดพลาดกดปุ่มผิด ซึ่งจากข่าวที่มีการออกมาให้สัมภาษณ์ว่ามีคนแฮกเกอร์เข้ามาในระบบนั้น ไม่สามารถเป็นไปได้ โดยภาพต่างๆ ที่หลุดออกมาควรจะมีการปรับปรุงห้องควบคุม และจากที่ตนเองเคยเข้าไปดูภายในห้องควบคุมพบว่าสภาพเก่ามาก ซึ่งน่าจะนำเงินที่เตรียมจัดซื้ออุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้แก่ ส.ส.มาดำเนินการปรับปรุงอุปกรณ์ในห้องควบคุมใหม่แทน เพราะหากไม่เช่นนั้นก็จะปรากฏภาพอื่นๆ ที่ไม่ดีอีกมากมาย
นายชูวิทย์กล่าวว่า ภายในห้องประชุมยังมีสิ่งที่ไม่ดีมากกว่านี้ โดยที่บริเวณด้านหลังในช่วงการประชุมก็มีสมาชิกรัฐสภานั่งยกขาขึ้นมาพาดบนโต๊ะ และบางคนถึงขั้นกับนอนกรนออกมาเสียงดัง ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง รวมถึงยังมีการนำโพยผลบอลมาเปิดดูก็มี จึงอยากให้คิดว่า ส.ส.ก็เป็นบุคคลธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งหากจะจับผิดนั้นก็มีมากมาย
“อย่าไปคิดว่าเป็นภาพที่หลุดออกมาเป็นเรื่องประหลาด เพราะ ส.ส. ไม่ใช่บุคคลพิเศษที่ต้องดีทุกอย่าง รักครอบครัว ไม่เคยดื่มเหล้า ไม่มีจริง ซึ่งผมก็ไม่อยากนำมาเปิดเผย เพราะ ส.ส.ท่านอื่นก็มองผมเป็นตัวน่ารังเกียจ กลายเป็นแกะดำเป็นบุคคลที่ไม่มีใครจะคบหาด้วยไปแล้ว” นายชูวิทย์กล่าว
**เพื่อไทยเปิดประเด็นส.ส.ดูภาพโป๊
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเข้าสู่การประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับที่) พ.ศ. ... โดยมีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในการประชุม จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ได้ขอหารือกรณีที่สื่อมวลชนรายงานว่ามีส.ส.บางคนเปิดคลิปภาพไม่เหมาะสมในระหว่างการประชุมรัฐสภาเมื่อค่ำวันที่ 18 เม.ย. ซึ่งถือว่าสร้างความเสื่อมเสียให้กับรัฐสภาไทย จึงอยากให้ประธานสืบหาว่าบุคคลที่อยู่ในภาพนั้นเป็นใคร
แต่น.ส.บุญธิดา สมชัย ส.ส. อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ เสนอว่าเรื่องนี้ควรหารือเป็นการภายในมากกว่า เพื่อไม่ควรให้มีการบันทึกการประชุม ขณะที่นายสมศักดิ์ชี้แจงว่า ตนได้ตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบแล้ว ขอให้สมาชิกใจเย็นรอผลการการตรวจสอบก่อน
** จนมุม “ลูกบัญญัติ”รับดูจริง
นายณัฐ บรรทัดฐาน ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นพยายามชี้แจงเรื่องนี้ โดยอภิปรายว่า ตนต้องขอโทษประธานและที่ประชุมที่ทำให้สภาเสียหาย แม้ว่าจะไม่มีการบันทึกการประชุมก็ตาม
รายงานข่าวแจ้งว่า สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์มีการคัดค้านไม่ควรนำมาพูดในที่ประชุมสภา แต่เมื่อมาถึงช่วงนี้ นายสมศักดิ์รีบตัดบทไม่ให้ชี้แจงต่อไป เพราะเมื่อสมาชิกขอให้ยุติเรื่องนี้ และไม่ให้บันทึกในที่ประชุม ตนก็ทำตามที่ร้องขอแล้ว ทำไมต้องพยายามพูดถึงกันอีก
อย่างไรก็ตาม นายธนิตพล ไชยนันท์ ส.ส. ตาก พรรคประชาธิปัตย์ เลขานุการวิปฝ่ายค้าน ได้ขอให้อนุญาตให้นายณัฐได้ชี้แจงเพื่อให้เกิดความชัดเจน ทำให้นายสมศักดิ์ยอมเปิดโอกาสให้นำเรื่องนี้มาพูดในสภาอีกครั้ง
โดยนายณัฐได้ชี้แจงว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ภาพไม่เหมาะสมปรากฏในที่ประชุมสภา ได้มีหลายคนมาสอบถามตนจำนวนมากผ่านช่องทางต่างๆ เช่น โซเชียลมีเดีย บางคนก็มีการกระเซ้าเย้าแหย่ มีการส่งรูปมาให้ดูและสอบถาม บางรูปตนก็ได้เปิดดูภาพ ถือเป็นเหตุความผิดพลาด และก็ได้ชี้แจงคนตั้งคำถามให้เกิดข้อเท็จจริง ตนยอมรับว่าบุคคลในภาพนั้นเป็นตน แต่เมื่อได้อธิบายไปตนก็ปิดภาพดังกล่าว
**เผยภาพโป๊เพื่อนส่งมาให้
ทั้งนี้ นายณัฎฐ์ ร่วมแถลงข่าวกับส.ส.ประชาธิปัตย์ส่วนหนึ่ง ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่ใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนดูภาพโป๊ในระหว่างการประชุมสภา จนให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์และการตั้งคำถามถึงกรณีความไม่เหมาะสมที่เกิดขึ้นว่า ตนเป็นบุคคลที่ปรากฏในภาพข่าวดังกล่าวจริง แต่ไม่ได้มีเจตนาในการดูรูปดังกล่าว ซึ่งภาพที่ปรากฏในขณะนั้นอยู่ในช่วงความวุ่นวายในสภาฯ สาเหตุมาจากในระหว่างการประชุมสภาฯ ตามปกติจะมีกลุ่มเพื่อนและคณะทำงานได้ส่งข้องความร่วมไปถึงรูปภาพผ่านทางเฟซบุ๊กและวอทแอฟมาถึงตนอยู่เป็นระยะ ตนจึงต้องเปิดดู แต่ครั้งนี้จำไม่ได้ว่าเป็นเฟซบุ๊กของเพื่อนคนไหน และบังเอิญว่าภาพที่ตนเปิดดูเป็นภาพที่เปิดดูในช่วงระยะเวลาสั้นๆ และเป็นเพียงภาพที่เย้าแหย่กันเท่ากัน
ทั้งนี้ การใช้โทรศัพท์ในระหว่างการประชุมอาจมีความไม่เหมาะสม แต่ตนมีความจำเป็นต้องใช้ในขณะทำงานและเพื่อน ส.ส.ท่านอื่นก็ใช้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม การที่ตนออกมายอมรับ เพื่อต้องการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนและไม่ต้องการให้เพื่อน ส.ส.ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปด้วยโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกับผู้ใหญ่ในพรรคถึงกรณีดังกล่าวหรือไม่ นายณัฎฐ์ ปฏิเสธว่าไม่ได้พูดคุยกัน เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นความรับผิดชอบของตน ซึ่งหากไปปรึกษาหารือก็อาจจะเกิดความไม่เหมาะสมและอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสีย เชื่อว่าผู้สื่อข่าวที่ถ่ายภาพก็ทราบดีว่าตนไม่ได้ใช้เวลาในการดูภาพดังกล่าวเป็นเวลานาน ตนจึงต้องออกมาแสดงจุดยืนให้ชัดเจนและเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจ เนื่องจากที่ผ่านมา ตนทำงานอย่างจริงจัง และมีความบริสุทธิ์ใจไม่เคยบิดเบือนข้อเท็จจริง และหากใครจะนำดังภาพกล่าวไปโจมตีทางการเมืองก็ไม่เป็นไรเชื่อว่าทุกคนจะเข้าใจดี
ด้านนายนิตพล กล่าวแสดงความกังวลว่า เรื่องดังกล่าวอาจจะส่งกระทบต่อภาพลักษณ์ของสภาฯ แต่ยืนยันว่า นายณัฎฐ์ ไม่ได้ทำตัวไม่เหมาะสม แต่เป็นการใช้เครื่องมือสื่อสารเพื่อการทำงานในรัฐสภา และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เป็นเรื่องที่เข้าใจผิด
เมื่อถามย้ำว่าจะมีการนำภาพนี้ไปโจมตีทางการเมืองหรือไม่ ส.ส.ตาก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกมากกว่า หากมีการนำภาพดังกล่าวไปใช้หาผลประโยชน์ทางการเมือง ก็ขอให้สื่อช่วยดูด้วยและหวังว่าประชาชนจะเข้าใจ
กรณีภาพโป๊หลุดกลางที่ประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ข้าราชการทั้งฝ่ายประจำและฝ่ายการเมืองของรัฐสภา สั่งตรวจสอบหาความชัดเจนว่า เป็นเพราะถูกแทรกแซงระบบ (แฮกเกอร์) หรือความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่สภาฯ ที่ควบคุมห้องโสตนำภาพลามกขึ้นเผยแพร่โดยไม่ได้ตั้งใจ
ล่าสุด วานนี้ (19 เม.ย.) นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร รับผิดชอบงานด้านโสตของรัฐสภา นำผู้สื่อข่าวตรวจสอบระบบและการทำงานภายในห้องคอนโทรลภาพและเสียงของเจ้าหน้าที่ ซึ่งระบุว่าโอกาสที่จะเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่มีน้อย เพราะมีระบบการควบคุมการทำงานอย่างดี ดังนั้น อาจจะถูกแทรกแซงระบบ หรือ แฮกเกอร์มากกว่า เพราะว่าเป็นระบบไวไฟ และจอพลาสมาที่รับสัญญาณนั้น สามารถรับสัญญาณจากภายนอกได้
ช่วงบ่ายนายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือเจ้าหน้าที่ ต้องหาคนผิดมาลงโทษให้ได้ เพราะเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อภาพพจน์ของรัฐสภาค่อนข้างมาก แต่หากหาไม่ได้ก็ต้องลงโทษแบบเหมายกเข่ง
ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายพิทูรได้ให้ความสำคัญและให้มีการเร่งรัดเรื่องนี้ เนื่องจากสังคมให้ความสนใจ โดยจะสอบสวนใน 2 ประเด็น คือ เรื่องคน กับเรื่องเทคนิค ซึ่งหากเป็นความผิดพลาดที่คนเข้าใจว่าคงไม่มีความตั้งใจ เพราะการทำให้สำนักงานเสื่อมเสียมีโทษร้ายแรง สำหรับผลสอบที่ออกมาต้องมีการรายงานตามลำดับชั้น คือ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรต้องรู้ก่อน
จากนั้น ที่ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ 205 อาคาร2 รัฐสภา นายคัมภีร์ได้เรียกประชุมด่วนข้าราชการระดับ ผอ.สำนัก ผอ.กลุ่มงานที่เกี่ยวข้องกับระบบการถ่ายทอดสัญญาณในห้องประชุมรัฐสภา โดยได้ประชุมอย่างเคร่งเครียด กว่า 3 ชั่วโมง จากนั้น นายคัมภีร์กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ได้รายงานความคืบหน้าการสอบสวนให้ประธานรัฐสภาและเลขาธิการสภาฯ ถึงการดำเนินการสอบสวนของคณะกรรมการฯ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ เรื่องตัวบุคคล ที่เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีข้อบกพร่อง ดังนั้น ต้องนำซอฟแวร์ห้องคอนโทรลไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในวันที่ 23 เม.ย.นี้ อีกส่วน คือ ต้องตรวจสอบว่ามีการแฮกเกอร์ข้อมูลหรือไม่
ด้านนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ได้สั่งรองเลขาฯ สภาฯ ฝ่ายโสตทัศนูปกรณ์และสารนิเทศตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน ต้องรอให้มีการตรวจสอบให้เสร็จสิ้นก่อนว่าเป็นความผิดของผู้ใด หรือมีการแฮกเกอร์ป่วนระบบ โดยจะใช้เวลาตรวจให้เร็วที่สุด ถ้าเรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับส.ส.ก็ต้องมีการสอบจริยธรรม ส่วนการตรวจสอบ หากพบว่าเป็นการแฮกข้อมูลจริงจะมีการประสานงานไปยังกระทรวงไอซีทีเพื่อหามาตรการป้องกันหรือไม่นั้น ต้องดูว่าทางสภาฯ มีระบบป้องกันมากน้อยแค่ไหน แต่ในรายละเอียดยังไม่ทราบต้องรอการตรวจสอบข้อเท็จจริง
“ขอเวลา 2 วัน และถ้าสรุปได้ว่าเป็นความผิดของใคร หากเป็นการแทรกสัญญาณจากภายนอก ก็ต้องหาวิธีป้องกัน แต่หากเป็นความผิดของเจ้าหน้าที่ ก็ต้องลงโทษตามระเบียบวินัย”ประธานสภาฯกล่าว
นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่า น่าจะเป็นความผิดพลาดทางเทคนิค โดย รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่กำลังสอบสวนข้อเท็จจริง ก็น่าจะมีรายละเอียดชัดเจนขึ้นว่า มีความผิดพลาดด้านไหน อย่างไรก็ตาม เรื่องเทคโนโลยี ต้องระมัดระวัง เพราะมีความรวดเร็วมาก ต้องควบคุมการใช้ ซึ่งภาพเช่นนี้ อาจมาจากภายนอก แต่โอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก ทั้งนี้ หากผิดที่เจ้าหน้าที่ ก็ถือว่าไม่ตั้งใจ โทษคงไม่ถึงขั้นไล่ออก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทาง Blue Sky Channel ว่า ขณะนั้นตนอยู่ในห้องทำงาน ไม่ได้อยู่ในห้องประชุม แต่ก็มีส.ส.รีบขึ้นมาบอก แล้วก็มีการพูดกันในสภาฯ จริงๆ แล้วเรื่องนี้ก็ไม่ควรจะเกิดขึ้น อดคิดไม่ได้เหมือนกันว่า ถ้าไม่มีเรื่องนี้ ไม่ทราบการประชุมสภาฯ เมื่อวานจะเป็นข่าวบ้างหรือเปล่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่สื่อต่างประเทศ เช่น บีบีซี เอเอฟพี สกายนิวส์ เดลีเทเลกราฟ พร้อมใจเสนอข่าวภาพสาวดาวโป๊โผล่กลางสภาระหว่างการอภิปรายแก้ไขรัฐธรรมนูญ จนถึงกับต้องระงับการประชุมไปชั่วขณะ
**คาดเจ้าหน้าที่ทำภาพหลุดไม่เกี่ยวแฮก
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย กล่าวถึงกรณีที่มีภาพไม่เหมาะสมหลุดออกมาระหว่างการประชุมร่วมรัฐสภาว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ภายในห้องควบคุมอาจจะเปิดภาพดังกล่าวดูแล้วเกิดพลาดกดปุ่มผิด ซึ่งจากข่าวที่มีการออกมาให้สัมภาษณ์ว่ามีคนแฮกเกอร์เข้ามาในระบบนั้น ไม่สามารถเป็นไปได้ โดยภาพต่างๆ ที่หลุดออกมาควรจะมีการปรับปรุงห้องควบคุม และจากที่ตนเองเคยเข้าไปดูภายในห้องควบคุมพบว่าสภาพเก่ามาก ซึ่งน่าจะนำเงินที่เตรียมจัดซื้ออุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้แก่ ส.ส.มาดำเนินการปรับปรุงอุปกรณ์ในห้องควบคุมใหม่แทน เพราะหากไม่เช่นนั้นก็จะปรากฏภาพอื่นๆ ที่ไม่ดีอีกมากมาย
นายชูวิทย์กล่าวว่า ภายในห้องประชุมยังมีสิ่งที่ไม่ดีมากกว่านี้ โดยที่บริเวณด้านหลังในช่วงการประชุมก็มีสมาชิกรัฐสภานั่งยกขาขึ้นมาพาดบนโต๊ะ และบางคนถึงขั้นกับนอนกรนออกมาเสียงดัง ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง รวมถึงยังมีการนำโพยผลบอลมาเปิดดูก็มี จึงอยากให้คิดว่า ส.ส.ก็เป็นบุคคลธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งหากจะจับผิดนั้นก็มีมากมาย
“อย่าไปคิดว่าเป็นภาพที่หลุดออกมาเป็นเรื่องประหลาด เพราะ ส.ส. ไม่ใช่บุคคลพิเศษที่ต้องดีทุกอย่าง รักครอบครัว ไม่เคยดื่มเหล้า ไม่มีจริง ซึ่งผมก็ไม่อยากนำมาเปิดเผย เพราะ ส.ส.ท่านอื่นก็มองผมเป็นตัวน่ารังเกียจ กลายเป็นแกะดำเป็นบุคคลที่ไม่มีใครจะคบหาด้วยไปแล้ว” นายชูวิทย์กล่าว
**เพื่อไทยเปิดประเด็นส.ส.ดูภาพโป๊
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเข้าสู่การประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับที่) พ.ศ. ... โดยมีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในการประชุม จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ได้ขอหารือกรณีที่สื่อมวลชนรายงานว่ามีส.ส.บางคนเปิดคลิปภาพไม่เหมาะสมในระหว่างการประชุมรัฐสภาเมื่อค่ำวันที่ 18 เม.ย. ซึ่งถือว่าสร้างความเสื่อมเสียให้กับรัฐสภาไทย จึงอยากให้ประธานสืบหาว่าบุคคลที่อยู่ในภาพนั้นเป็นใคร
แต่น.ส.บุญธิดา สมชัย ส.ส. อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ เสนอว่าเรื่องนี้ควรหารือเป็นการภายในมากกว่า เพื่อไม่ควรให้มีการบันทึกการประชุม ขณะที่นายสมศักดิ์ชี้แจงว่า ตนได้ตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบแล้ว ขอให้สมาชิกใจเย็นรอผลการการตรวจสอบก่อน
** จนมุม “ลูกบัญญัติ”รับดูจริง
นายณัฐ บรรทัดฐาน ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นพยายามชี้แจงเรื่องนี้ โดยอภิปรายว่า ตนต้องขอโทษประธานและที่ประชุมที่ทำให้สภาเสียหาย แม้ว่าจะไม่มีการบันทึกการประชุมก็ตาม
รายงานข่าวแจ้งว่า สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์มีการคัดค้านไม่ควรนำมาพูดในที่ประชุมสภา แต่เมื่อมาถึงช่วงนี้ นายสมศักดิ์รีบตัดบทไม่ให้ชี้แจงต่อไป เพราะเมื่อสมาชิกขอให้ยุติเรื่องนี้ และไม่ให้บันทึกในที่ประชุม ตนก็ทำตามที่ร้องขอแล้ว ทำไมต้องพยายามพูดถึงกันอีก
อย่างไรก็ตาม นายธนิตพล ไชยนันท์ ส.ส. ตาก พรรคประชาธิปัตย์ เลขานุการวิปฝ่ายค้าน ได้ขอให้อนุญาตให้นายณัฐได้ชี้แจงเพื่อให้เกิดความชัดเจน ทำให้นายสมศักดิ์ยอมเปิดโอกาสให้นำเรื่องนี้มาพูดในสภาอีกครั้ง
โดยนายณัฐได้ชี้แจงว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ภาพไม่เหมาะสมปรากฏในที่ประชุมสภา ได้มีหลายคนมาสอบถามตนจำนวนมากผ่านช่องทางต่างๆ เช่น โซเชียลมีเดีย บางคนก็มีการกระเซ้าเย้าแหย่ มีการส่งรูปมาให้ดูและสอบถาม บางรูปตนก็ได้เปิดดูภาพ ถือเป็นเหตุความผิดพลาด และก็ได้ชี้แจงคนตั้งคำถามให้เกิดข้อเท็จจริง ตนยอมรับว่าบุคคลในภาพนั้นเป็นตน แต่เมื่อได้อธิบายไปตนก็ปิดภาพดังกล่าว
**เผยภาพโป๊เพื่อนส่งมาให้
ทั้งนี้ นายณัฎฐ์ ร่วมแถลงข่าวกับส.ส.ประชาธิปัตย์ส่วนหนึ่ง ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่ใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนดูภาพโป๊ในระหว่างการประชุมสภา จนให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์และการตั้งคำถามถึงกรณีความไม่เหมาะสมที่เกิดขึ้นว่า ตนเป็นบุคคลที่ปรากฏในภาพข่าวดังกล่าวจริง แต่ไม่ได้มีเจตนาในการดูรูปดังกล่าว ซึ่งภาพที่ปรากฏในขณะนั้นอยู่ในช่วงความวุ่นวายในสภาฯ สาเหตุมาจากในระหว่างการประชุมสภาฯ ตามปกติจะมีกลุ่มเพื่อนและคณะทำงานได้ส่งข้องความร่วมไปถึงรูปภาพผ่านทางเฟซบุ๊กและวอทแอฟมาถึงตนอยู่เป็นระยะ ตนจึงต้องเปิดดู แต่ครั้งนี้จำไม่ได้ว่าเป็นเฟซบุ๊กของเพื่อนคนไหน และบังเอิญว่าภาพที่ตนเปิดดูเป็นภาพที่เปิดดูในช่วงระยะเวลาสั้นๆ และเป็นเพียงภาพที่เย้าแหย่กันเท่ากัน
ทั้งนี้ การใช้โทรศัพท์ในระหว่างการประชุมอาจมีความไม่เหมาะสม แต่ตนมีความจำเป็นต้องใช้ในขณะทำงานและเพื่อน ส.ส.ท่านอื่นก็ใช้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม การที่ตนออกมายอมรับ เพื่อต้องการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนและไม่ต้องการให้เพื่อน ส.ส.ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปด้วยโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกับผู้ใหญ่ในพรรคถึงกรณีดังกล่าวหรือไม่ นายณัฎฐ์ ปฏิเสธว่าไม่ได้พูดคุยกัน เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นความรับผิดชอบของตน ซึ่งหากไปปรึกษาหารือก็อาจจะเกิดความไม่เหมาะสมและอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสีย เชื่อว่าผู้สื่อข่าวที่ถ่ายภาพก็ทราบดีว่าตนไม่ได้ใช้เวลาในการดูภาพดังกล่าวเป็นเวลานาน ตนจึงต้องออกมาแสดงจุดยืนให้ชัดเจนและเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจ เนื่องจากที่ผ่านมา ตนทำงานอย่างจริงจัง และมีความบริสุทธิ์ใจไม่เคยบิดเบือนข้อเท็จจริง และหากใครจะนำดังภาพกล่าวไปโจมตีทางการเมืองก็ไม่เป็นไรเชื่อว่าทุกคนจะเข้าใจดี
ด้านนายนิตพล กล่าวแสดงความกังวลว่า เรื่องดังกล่าวอาจจะส่งกระทบต่อภาพลักษณ์ของสภาฯ แต่ยืนยันว่า นายณัฎฐ์ ไม่ได้ทำตัวไม่เหมาะสม แต่เป็นการใช้เครื่องมือสื่อสารเพื่อการทำงานในรัฐสภา และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เป็นเรื่องที่เข้าใจผิด
เมื่อถามย้ำว่าจะมีการนำภาพนี้ไปโจมตีทางการเมืองหรือไม่ ส.ส.ตาก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกมากกว่า หากมีการนำภาพดังกล่าวไปใช้หาผลประโยชน์ทางการเมือง ก็ขอให้สื่อช่วยดูด้วยและหวังว่าประชาชนจะเข้าใจ
